ประวัติและความเป็นมาของวันตรุษจีน

วันตรุษจีนถือเป็นวันที่มีความสำคัญต่อชาวจีนเป็นอย่างมาก เพราะเปรียบเสมือนเป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฏิทินของจีน ถ้าหากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คงคล้ายกันกับวันสงกรานต์ของไทยเรานั่นเอง ซึ่งวันตรุษจีน 2564 นี้ ตรงกับวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ที่กำลังจะถึง

 

ที่มา ประวัติวันตรุษจีน

สิ่งต้องห้ามในวันตรุษจีน เปิดความเชื่อแบบดั้งเดิม ห้ามทำอะไรบ้าง

เกิดจากการจัดงานฉลองในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งก่อนที่จะเป็นฤดูใบไม้ผลินั้น ประเทศจีนจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะทำให้ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ ต้องรอจนถึง ฤดูใบไม้ผลิ จึงจะสามารถกลับมาทำการเพาะปลูกได้ ชาวจีนจึงกำหนดให้วันแรกของฤดูใบไม้ผลิเป็นวันสำคัญ และเรียกว่า ‘วันตรุษจีน’ ซึ่งปัจจุบันผ่านมามากกว่าศตวรรษแล้วก่อนที่จะมาถึงวันตรุษจีน 2564 นี้

 

ของไหว้

เนื่องจากวันตรุษจีน 2564 ใกล้เข้ามาแล้วทำให้หลายบ้านเริ่มเตรียมของ ซึ่งการไหว้ในวันตรุษจีนถูกแบ่งออกเป็น 3 ครั้ง ได้แก่ การไหว้เทพเจ้า การไหว้บรรพุบุษ และการไหว้วิญญาณเร่ร่อน ของไหว้ประกอบไปด้วยผลไม้มงคล 5-7 อย่าง อาหารมงคล 7-9 อย่าง ขนมมงคล อาหารเจ ขนมจันอับ ธูป เทียน ข้าวสวย น้ำชา กระดาษเงิน กระดาษทอง ในส่วนของไหว้หลักจะถูกแบ่งเป็น ‘ชุดซาแซ’ ประกอบไปด้วย หมูต้ม เป็ดต้ม ไก่ต้ม และ ‘ชุดโหงวแซ’ ประกอบไปด้วย หมู เป็ด ไก่ ตับ และปลา สามารถเลือกชุดหลักชุดใดก็ได้ ส่วนชุดผลไม้สามารถเลือกได้เอง โดยเลือกแต่ผลไม้ที่มีความเป็นมงคลเท่านั้น

 

 

วิธีบูชาเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย

การไหว้เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี๊ย 2564 สามารถตั้งโต๊ะบูชากราบไหว้ได้ตั้งแต่เวลาประมาณ 23.00 น.ของคืนก่อนวันตรุษจีน ไปจนถึงเวลา 01.00 น. ของวันตรุษจีน โดยต้องหันหน้าไปทางทิศที่เชื่อว่าเทพเจาไฉ่ซิงเอี้ยเสด็จลงมา ซึ่งแต่ละปีจะแตกต่างกันไป ในวันตรุษจีน 2564 นี้ เทพเจ้าไฉ่ซิงเอ้ยเสด็จมาทางทิศตะวันออก ของไหว้ท่ต้องมีคือ รูปภาพหรือรูปปั้นขององค์ไฉ่ซิงเอี้ย , แจกันดอกไม้สด 1 คู่ , เทียนแดง 1 คู่ , กระถางธูป พร้อมธูป 3 5 9 หรือ 12 ดอกก็ได้ , น้ำชา 5 ถ้วย , ขนมอี้ 5 ถ้วย , ขนมจันอับ , อาหารเจ 5 ถ้วย , ผลไม้มงคล 5 อย่าง และกระดาษเงินกระดาษทอง หลังจากนั้นให้สวดบทสวดมนต์สำหรับไหว้บูชา

“นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ

โอม ชัมภาลา จาเลนไน เยโซฮา”