ผู้ว่าฯสุราษฎร์ธานี ออกคำสั่ง "ใครออกจากบ้านไม่สวมหน้ากากอนามัย" ปรับ 20,000 บาท เริ่ม 20 เม.ย.นี้ หลังประชาชนในจังหวัดละเลย ทำยอดติดเชื้อโควิดพุ่ง
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ออกคำสั่งด่วนที่สุด ที่ สฎ 0018.1/ว 2594 ลงวันที่ 19 เมษายน 2564 ถึงหัวหน่วยงาน นายอำเภอทุกอำเภอ และนายกเทศมนตรีทุกแห่ง เรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้ง ตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถานหรือสถานที่พำนักของตน
โดยคำสั่งระบุว่า ตามที่ได้มีคำสั่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี กำหนดมาตรการให้ประชาชนทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ตามที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด โดยการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง 100% นั้น เนื่องจากปัจจุบันพบว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทวีคูณ และกระจายตัวไปในทุกพื้นที่อย่างรวดเร็ว แต่ในทางกลับกันพบว่ายังมีประชาชนส่วนใหญ่ ยังคงละเลยในการให้ความสำคัญกับมาตรการ อาทิ การไม่สวมหน้ากากอนามัย ขณะออกนอกเคหสถานหรือสถานที่พำนักของตน อันเป็นสาเหตุสำคัญของความเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
• ชลบุรีอ่วมต่อเนื่อง ป่วยโควิดเพิ่ม 82 ราย โยงคลัสเตอร์สถานบันเทิง
• "ภูเก็ต"เข้มให้เฉพาะคนฉีดวัคซีนแล้ว-ไม่ติดโควิดถึงเข้าพื้นที่ได้
• นนทบุรี ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 78 ราย ส่วนมากเกี่ยวข้องกับ สถานบันเทิง
ดังนั้นเพื่อให้การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดผลสัมฤทธิ์ต่อการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเป็นรูปธรรม จึงมีคำสั่งให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าทุกครั้งตลอดเวลาที่ออกนอกเคหสถาน หรือสถานที่พำนักของตน ผู้ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ เป็นความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งการดำเนินการตามคำสั่งนี้เป็นกรณีที่มีสถานการณ์อันกระทบหรืออาจกระทบต่อความสงบเรียบร้อย และเป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน หากปล่อยเนิ่นข้าไปจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่สาธารณชน หรือกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง