ติดตามข่าวสารwได้ที่ https://www.springnews.co.th
เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมากหลังนักศึกษาไทยที่ศึกษาในลอนดอน ประเทศอังกฤษ เดินทางกลับประเทศไทย โดยบางส่วนก็เข้าใจว่าการกลับมาของนศ.คนนี้จะเป็นการแพร่เชื้อในประเทศ แต่อีกมุมก็เข้าใจว่าถ้าไม่กลับมา อาจจะเสียชีวิตก็ได้
โดยหญิงสาวคนดังกล่าวที่ตกเป็นที่วิจารณ์บนโซเชียล ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบายความในใจ ถึงเรื่องราวเหตุการณ์จากการติดเชื้อโควิด 19 ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ 9 มี.ค. ขณะที่ตัวเองอยู่ประเทศอังกฤษ ได้มีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวคล้ายว่าจะเป็นไข้ เช้าวันต่อมามีอาการหนักขึ้นจึงตัดสินใจกินยาพารา และลาเรียนในช่วงวันที่ 10 - 14 มี.ค. โดยช่วงนั้นตรงกับการแพร่ระบาดอย่างหนักของโควิด 19 พอดี
ต่อมาวันที่ 15 - 16 มี.ค. เริ่มมีอากาจเจ็บคอ แต่นโยบายรัฐบาลอังกฤษคือให้โทรไปที่สายด่วน อย่าไปที่โรงพยาบาล และได้คำแนะนำว่าให้รักษาตัวที่บ้าน 7 วัน! เข้าวันที่ 17 มี.ค. มีอาการหนาวสั่นและตัดสินใจไปโรงพยาบาล แต่ทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้เข้าในพื้นที่และยืนยันคำเดิมว่าให้โทรไปที่สายด่วน
ทั้งที่เล่าอาการแล้วว่าเจ็บหน้าอกเหมือนโดนแทง แต่ก็ได้รับคำตอบเดิมว่าให้อยู่บ้าน ทำได้แค่ร้องไห้ในโชคชะตาที่เข้าถึงโรงพยาบาลยากเย็น จนวันที่ 19 มี.ค. มีไข้สูงกว่า 39 องศา สายด่วนก็ยังยืนยันว่าให้อยู่บ้าน จึงตัดสินใจปรึกษาครอบครัวว่าจะกลับไทยตามความเห็นของครอบครัว
ระหว่างทางที่เดินทางจากลอนดอนกลับประเทศไทยนั้น มีแต่ความยากลำบากทั้งจากการเดินทาง รวมไปถึงเมื่อมาถึงแล้วไม่ได้รับการกักตัว เพราะวัดไข้แล้วไม่ถึงข้อกำหนด
หลังจากตัดสินใจกักตัวเองที่โรงแรมแห่งหนึ่งอาการก็หนักขึ้นจนต้องไปหาหมอ โดยแพทย์ลงความเห็นว่าอาจมีความเสี่ยงติดเชื้อ โควิด 19 เพราะเสียงที่ปอดผิดปกติ จึงได้รับการรักษาที่ถูกต้อง เมื่อผลออกมาพบว่าเชื้อได้ลงปอดเป็นที่เรียบร้อย และรู้สึกขอโทษที่เป็นต้นเหตุให้เชื้อมาถึงประเทศไทย แต่ถ้าเกิดไม่ได้กลับมาก็อาจจะเสียชีวิตได้เช่นกัน