รีวิว ขึ้นบอลลูน ที่ คัปปาโดเกีย ต้องไปสักครั้งในชีวิต

เฟรมไปทูร์เคีย กับ KTC แล้วมีโอกาสได้ไปขึ้นบอลลูนที่ Cappadocia เลยเก็บบรรยากาศมาฝาก
จะบอกทุกคนว่าภาพที่ทุกคนเห็นว่าสวยแล้ว ของจริงสวยกว่ามากๆ แบบมากจริงๆ

สำหรับเมือง Cappadocia ยังไม่มีบินตรงจากประเทศไทยนะคะ ต้องบินไปลงที่ อิสตันบูล แล้วก็สามารถเลือกการเดินทางได้ จะเลือกนั่งรถบัสข้ามคืนมาใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง หรือจะตีตั๋วเครื่องบินมาอีกต่อก็ได้ค่ะ ใช้เวลาแค่ 1.10 ชม. แต่ถ้าจะมาให้ทันการขึ้นบอลลูนหรือชมบอลลูนแนะนำเป็นการบินนะคะเพราะช่วงที่บอลลูนเต็มท้องฟ้ามากที่สุดจะเป็นช่วงเวลา 6.30 – 7.00 น. ค่ะ 

ได้เวลาไปขึ้นบอลลูนกันแล้วเราต้องตื่นเช้ามากๆ เพราะรถที่จะมารับเราไปเพื่อขึ้นบอลลูนนัดไว้ที่เวลา 05.15 น. แล้วเขาก็พาเราขับรถไปประมาณ 20 นาที ระหว่างทางมืดมากๆแต่ก็พอจะเห็นว่ามีบอลลูนหลายลูกมากๆที่กำลังเตรียมการอยู่ ไม่นานก็มาถึงจุดขึ้นบอลลูนของเรา จึงได้เห็นวิธีการนำบอลลูขึ้นด้วยการใช้ ความร้อนของไฟค่ะ พอบอลลูนตั้งได้เขาก็จะเรียกเราไปขึ้นตะกร้า บอลลูนลูกที่เราได้ขึ้นเป็นขนาดใหญ่ จุคนได้ประมาณ 30 คน ข้างในตะกร้าก็จะแบ่งเป็นช่องๆที่ยืนได้ประมาณ 4 คนค่ะ จริงๆมีหลายขนาดให้เลือกนะคะ

แต่ก่อนที่จะบอลลูนจะลอยตัวเหนือพื้นดินทางทีมงานเขาก็จะแจกกระดาษพร้อมซักซ้อมให้เราทำความเข้าใจท่าทางต่างๆที่เราควรปฏิบัติ โดยเฉพาะตอนบอลลูนลงจอดเพราะอาจจะมีการกระแทกได้ และแล้วบอลูนก็ลอยขึ้นเหนือพื้นดิน ทุกอย่างมันดีงามมากๆ มันสมู๊ทสุดๆ และ และช่วงที่เฟรมลอยขึ้นมาพร้อมกับบอลลูนนั้นฟ้ายังไม่สว่างดี เลยได้เห็นแสงไฟของบอลลูนแต่ละลูก สวยงามมากๆ 
 

และแล้วพระอาทิตย์ก็ค่อยๆขึ้นมา บรรยากาศที่ได้สัมผัสเหมือนฝันมากๆ การได้เห็นวิวมุมสูงของเมืองมรดกโลก ได้เห็นที่อยู่อาศัยที่เกิดจากเถ่าถ่านของลาวา มันเป็นเอกลักษณ์มากๆ ขึ้นบอลลูนที่ไหนๆก็ไม่เหมือนแน่ๆค่ะ

แล้วเราก็จะได้ลอยอยู่บนบอลลูนรอบนึงประมาณ 45 นาที โดยกัปตันเขาก็จะพยายามหมุนให้เราได้ถ่ายรูปในทุกๆมุม เค้าเข้าใจนักท่องเที่ยวมากๆเลย เฟรมจึงขอแนะนำสำหรับคนที่ขึ้นกระเช้าใหญ่แบบเฟรมให้เลือกอยู่ช่วงมุมของกระเช้านะคะ  

เวลาผ่านไปไวมากๆเพราะเราก็ถ่ายรูปไม่หยุดเลยค่ะ ช่วงที่กำลังจะนำบอลลูนลงนี่แหละค่ะเป็นช่วงที่ตื่นเต้นมากๆ แล้วกัปตันก็ทำให้เราประทับใจมากๆ เพราะลงจอดได้นิ่มนวล แถมยังลงจอดบนท้ายรถโชว์ไปเลยค่ะ หลังจากนั้นก็จะมีการเฉลิมฉลองด้วยแชมเปญผสมกับน้ำผลไม้ เพื่อเป็นการขอบคุณที่นำพาพวกเรามาถึงพื้นได้อย่างปลอดภัย และก็ได้ใบรับรองการขึ้นบอลลูนมาด้วยค่ะ 

สำหรับค่าใช้จ่ายนะคะ ถ้าจองผ่านเอเจนซี่จากไทยไปเลยก็ราคาประมาณ 7,000 – 10,000 บาทต่อคนค่ะ แต่เขาว่าถ้าจองตรงที่ตุรกีเลยอาจจะได้ราคาถูกกว่า 

คำเตือน สำหรับคนที่อยากมาที่นี่เพื่อขึ้นบอลลูน อาจต้องเผื่อใจไว้บ้างนะคะ เพราะเขาต้องดูสภาพอากาศ และแรงลมในแต่ละวัน ช่วงที่แนะนำคือ เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน สภาพอากาศเย็นสบาย เฟรมเจอประมาณ 10 องศาฯ

ส่วนใครที่บอกว่าไม่ขึ้นบอลลูนแต่อยากถ่ายรูปกับบอลลูน ต้องไปที่ไหน เฟรมแนะนำว่าให้เลือกที่พักที่มีดาดฟ้า แถบจะทุกที่ในเมือง Göreme ก็จะได้ถ่ายรูปกับบอลลูนค่ะ แต่ก็ต้องตื่นเช้าหน่อยนะคะเพราะถ้าหลัง 8.00 น. บอลลูนก็แทบจะไม่เหลืออยู่บนท้องฟ้าแล้วค่ะ บอลลูนม่ได้ลอยค้างแบบนั้นทั้งวันค่ะ

เป็นอีกหนึ่งเมืองเลยที่เฟรมขอแนะนำและยืนยันว่าสักครั้งในชีวิตต้องไปให้เห็นกับตาตัวเองให้ได้นะคะ