svasdssvasds

"โชะเด๊ะ" สถาปนิกสาวทรานส์ ผลงานพิสูจน์คน ไม่ใช่เพศ

"โชะเด๊ะ" สถาปนิกสาวทรานส์ ผลงานพิสูจน์คน ไม่ใช่เพศ

“อาชีพสถาปนิก” ก็เหมือนกับหมอและวิศวะ ที่ถูกมองว่าเป็นอาชีพของผู้ชาย มากกว่าผู้หญิง แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไป และเพศไม่ได้จำกัดอยู่แค่หญิงหรือชาย คนข้ามเพศจะถูกยอมรับในพื้นที่นี้หรือไม่?

SHORT CUT

  • ทีม SPRiNG ชวนไปรู้จักกับ “คุณทศพล ธนะสิงห์” อายุ 32 ปี หรือ “โชะเด๊ะ” สถาปนิกสาวทรานส์ ผู้ที่ไม่เชื่อว่าเรื่องเพศคือข้อจำกัดของชีวิต
  • อุปสรรคหลายอย่างในชีวิต เราไม่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญนะ แต่เราคิดว่าจักรวาลส่งบททดสอบมาเพื่อให้เราก้าวข้ามไป
  • ทุกวันนี้ เราอยู่ได้ด้วยผลงาน ซึ่งเราไม่เคยพูดเลยว่าผลงานเราดีหรือไม่ดี เพราะเราจะให้คนที่มาสัมผัสตัดสินเอาเองว่ามันสวยหรือไม่

 

“อาชีพสถาปนิก” ก็เหมือนกับหมอและวิศวะ ที่ถูกมองว่าเป็นอาชีพของผู้ชาย มากกว่าผู้หญิง แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไป และเพศไม่ได้จำกัดอยู่แค่หญิงหรือชาย คนข้ามเพศจะถูกยอมรับในพื้นที่นี้หรือไม่?

ทีม SPRiNG ชวนไปรู้จักกับ “คุณทศพล ธนะสิงห์” อายุ 32 ปี หรือ “โชะเด๊ะ” สถาปนิกสาวทรานส์ ผู้ที่ไม่เชื่อว่าเรื่องเพศคือข้อจำกัดของชีวิต แต่เป็น “ความสามารถ” และ “ผลงาน” ต่างห่าง ที่จะเป็นตัวกำหนดว่า เราจะก้าวไปได้ไกลแค่ไหน!

\"โชะเด๊ะ\" สถาปนิกสาวทรานส์ ผลงานพิสูจน์คน ไม่ใช่เพศ

ใช้ผลงานนำทางชีวิต

คุณโชะเด๊ะเล่าให้ฟังถึงชีวิตการเป็นสถาปนิกที่เต็มไปด้วยเรื่องท้าทายว่า ชอบเล่นเกมเดอะซิมส์มาตั้งแต่เด็ก จึงเลือกเรียนสถาปัตย์เพราะจะได้ทำเหมือนในเกม แต่พอเข้าสู่การทำงานจริง เราก็กลัวว่าคนที่จ้างเราจะกังวลกับรูปลักษณ์ของเราไหม เพราะเราดูเป็นคนลุคแรงๆ ปากเปรี้ยว จะมีผลต่อความน่าเชื่อถือหรือไม่

โชคดีที่ว่า ผู้ใหญ่เขาไม่ได้มองเป็นข้อเสีย แต่มองว่าเป็นข้อดีด้วยซ้ำ เพราะรูปลักษณ์เหล่านี้ทำให้เราโดดเด่นขึ้น และเปิดโอกาสให้เราได้ทำงาน แต่ตอนไปคุมไซต์งานก่อสร้าง เราก็ยังมีความรู้สึกว่า ต้องพิสูจน์ตัวเองมากกว่าคนอื่น เพราะสายงานนี้ส่วนใหญ่มีแต่ผู้ชายแท้ๆ

พอคนหน้างานเจอเรา เขาก็ตกใจว่าคนคนนี้หรือที่จะมาคุมงาน จะไหวหรือ ดูเก้ๆ กังๆ มาก แต่เพราะเราใช้สู้ พร้อมลุยแดดเต็มร้อย ไม่เกี่ยงแบกของหนัก เลยรู้สึกว่าเรื่องเพศที่เราเป็นมันไม่สำคัญเลย เพราะเราต้องการพิสูจน์ตัวเองด้วยผลงานมากกว่า

ปรากฏว่าผู้ใหญ่เขาชอบ เห็นผลงานเรา พอพูดกันปากต่อปาก ก็มีคนติดต่อมาหาเรามากขึ้น และก็รู้สึกขอบคุณมากที่ผู้ใหญ่หลายท่าน มอบโปรเจกต์ใหญ่ๆ หลายโครงการให้เราได้แสดงฝีมือต่อ คือเราดีใจที่ทุกคนมองเห็นผลงานเรามาก่อน เพศสภาพของเรา

ทำตัวให้เบา แล้วเราจะพบความสุข

คุณโชะเด๊ะเผยว่า เคยถูกคนอื่นมองว่า เป็นตัวประหลาด เป็นตัวแปลกแยก แต่เราไม่เคยมองว่าเป็นตัวประหลาดเลย เพราะเราก็เป็นของเราแบบนี้ และไม่มีทางเปลี่ยนเป็นคนอื่นได้ แต่ที่เปลี่ยนได้คือมายเซ็ต ซึ่งเป็นสิ่งที่พิสูจน์กันมาแล้วว่า ถ้าคิดดี ทำดี ก็จะดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาหาได้ แต่ถ้าอะไรที่ไม่ใช่ จักรวาลก็จะคัดสรรออกไปให้เอง

อุปสรรคหลายอย่างในชีวิต เราไม่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญนะ แต่เราคิดว่าจักรวาลส่งบททดสอบมาเพื่อให้เราก้าวข้ามไป และเราก็ผ่านมาได้ดีทุกครั้ง แน่นอนว่าไม่ได้ราบรื่นเสมอไป เพราะเรื่องหนักๆ ก็มี ไม่ได้บอกว่าวันนี้ทุกข์ แล้วพรุ่งนี้หายทุกข์ทันที เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลา แต่กลายเป็นว่า สิ่งที่เราเจอมันให้บทเรียนที่ล้ำค่า

สิ่งสำคัญคือ ต้องเข้าใจว่า เราเปลี่ยนความคิดของคนอื่นไม่ได้ ร้อยพ่อพันแม่ มันต่างกันอยู่ล้ว สุดท้ายเราต้องกลับมาจัดระเบียบความคิดตัวเอง ยอมรับความจริง และอยู่กับความจริงให้ได้ อย่าไปยึดติดกับคำพูดคนอื่น หรือสิ่งที่อยู่ภายนอกตัวเรา เราควรเอาตัวเองเป็นที่ตั้งอย่างมั่นคง อยู่กับปัจจุบัน ไม่ต้องคาดหวัง ไม่ต้องกดดันตัวเอง

ยิ่งเราทำงานที่ใช้จินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ด้วย เรายิ่งต้องมูฟออนจากเรื่องแย่ๆ ให้ได้ เพราะถ้าไม่ทำ เราจะเสียสุขภาพจิต คิดงานไม่ออก แต่ถ้าเราเอาตัวเองมาอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีได้ เราก็จะทำงานได้ สมองเปิดโล่ง ไม่มีกรอบมาปิดกั้น

“แค่ใช้ชีวิตให้รู้สึกเบาที่สุด สบายที่สุด และเราจะอยู่ในสังคมนี้ไปได้เรื่อยๆ แบบมีความสุขได้ นี่เป็นคติที่เรายึดถือมาตลอด” คุณโชะเด๊ะ กล่าว

\"โชะเด๊ะ\" สถาปนิกสาวทรานส์ ผลงานพิสูจน์คน ไม่ใช่เพศ

ความสนุกคือการต่อยอดสิ่งที่ดีอยู่แล้ว ให้ดีกว่าเดิม

คุณโชะเด๊ะ เล่าว่า งานรีโนเวทเป็นงานที่ไม่ยาก แต่ท้าทาย โดยผลงานที่เป็นภูมิใจสุดๆ คือการรีโนเวท อาคารกว่า 100 ปี ในจังหวัดเชียงใหม่ ที่เป็นของสภาคริสตจักรภาคที่ 1 ให้กลายเป็นคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่น ซึ่งปัจจุบันคือ “Mc Clanahan Coffee”

ตอนเราเข้ามาสำรวจอาคารครั้งแรก ก็กรี๊ดเลย เพราะดีไซน์ข้างในสวยมาก มีทั้งความคลาสสิก ความน่าหลงใหล แต่รู้สึกว่าสถานที่นี่ยังโดนใช้งานไม่คุ้ม เหมือนก๋วยเตี๋ยวที่ไม่ได้ปรุง เราเลยเสนอผู้จ้างว่า อยากทำเป็นคาเฟ่ ซึ่งก็ตรงกับความต้องการของเขาที่อยากให้อาคารนี้เป็น แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของตัวเมืองเชียงใหม่

การรีโนเวทอาคารเก่าให้เป็นคาเฟ่ นอกจากจะมีเครื่องดื่มให้กินแล้ว ยังมีประวัติศาสตร์ของตัวอาคารให้เรียนรู้ด้วย เพราะเราตกแต่งในแบบที่ยังคงคุณค่าเดิมไว้ ซึ่งเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ คนท้องถิ่นที่ผ่านไปมา แต่ไม่เคยแวะก็จะได้แวะเข้ามาชม คนนอกพื้นที่ก็จะได้มาถ่ายรูป มันเป็นการใช้ต้นทุนที่เมืองมีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า

ทั้งนี้ คนรุ่นก่อนอาจจะมีมุมมองว่า การรีโนเวทอาคารเก่าให้ทันสมัย คือการทำลายคุณค่าแบบเดิมๆ แต่เรากลับมองว่า การเพิ่มสิ่งใหม่ ใส่ไปในอาคารเดิมที่สวยงามอยู่แล้ว มันน่าจะก่อให้เกิดประโยชน์กับตัวอาคารมากกว่าปล่อยไว้เฉยๆซึ่งทำให้อาคารดูทรุดโทรมลงไปเรื่อยๆ

เพราะเราอยากจะทำให้คนรุ่นหลังได้เห็นสิ่งเดิมที่ดีอยู่แล้ว ถูกต่อยอดด้วยสิ่งใหม่ มันไม่ใช่การทำลาย แต่คือการอนุรักษ์ในแบบสร้างสรรค์

\"โชะเด๊ะ\" สถาปนิกสาวทรานส์ ผลงานพิสูจน์คน ไม่ใช่เพศ

 

การมีคนจำได้ คือที่สุดของอาชีพสถาปนิก

ทุกวันนี้ เราอยู่ได้ด้วยผลงาน ซึ่งเราไม่เคยพูดเลยว่าผลงานเราดีหรือไม่ดี เพราะเราจะให้คนที่มาสัมผัสตัดสินเอาเองว่ามันสวยหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่เขาก็พูดประทับใจผลงานของเรา ทำให้เราภูมิใจมากกว่าการพูดออกไปเองเสียอีก

ชีวิตประจำทุกวันนี้ คือการให้คำปรึกษา เวลาคุยเรื่องการออกแบบกับใคร เราจะบอกว่า อันนี้ดีแบบนี้ อันนั้นดีแบบนั้น เพื่อให้คนที่มาถามเราได้ความรู้ไปไม่มากก็น้อย

คนในสังคมมักจำแต่ตึกสวยๆ โดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนออกแบบ แต่ทุกวันนี้หลายคนจำเราได้จากผลงาน ตึกนู้นบ้าง ตึกนี้บ้าง ซึ่งมันดีมากๆ ที่มีคนรู้ว่ามุมหนึ่งของอาชีพสถาปนิกก็มี นักออกแบบที่เป็น LGBTQ อยู่ด้วย ซึ่งถือว่าดีมาก ๆ

เดิมเราเป็นคนยโสธร แต่ย้ายมาอยู่เชียงใหม่ 15 ปี แล้ว และไม่คิดจะย้ายไปไหน เพราะที่นี่เมืองที่มีสถาปัตยกรรมคลาสสิกเต็มไปหมด และมีเสน่ห์ในวัฒนธรรมหลายๆ ด้าน ถ้าคนที่มาอยู่จะสัมผัสได้ว่าที่นี่น่ารัก และเราก็รอคอยโอกาสที่จะได้รีโนเวทตึกสวยๆ ด้วยความตื่นเต้นตลอด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

 

related