svasdssvasds

สภาเดือด หลังเปิดแผลนายกฯ "เลี่ยงภาษี?" | SPRiNG สรุปให้

ทีมองครักษ์ประท้วงวุ่น! หลัง วิโรจน์ สส. พรรคประชาชน และ พิมพ์พร สส. พรรคพลังประชารัฐ เปิดปมนายกฯ อาจเข้าข่ายทำนิติกรรมอำพราง เลี่ยงภาษีเงินได้ และไม่เสียภาษี?

หลังจาก วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และพิมพ์พร พรพฤฒิพันธุ์ สส.เพชรบูรณ์ พลังประชารัฐ อภิปรายเรื่องการแจกแจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของนายกรัฐมนตรีว่าพบพิรุธเรื่องการซื้อหุ้นจากพี่สาว พี่ชาย แม่ ลุงและป้าสะใภ้ ในรูปแบบของตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือ ตั๋ว PN รวมมูลค่า 4,434.5 ล้านบาท โดยมีสัญญาว่าถ้าไม่ทวงก็ไม่ต้องใช้หนี้ และไม่เรียกเก็บดอกเบี้ย

พิมพ์พร อภิปรายว่าการทำแบบนี้มันทำให้รัฐเสียรายได้จากภาษีไหม? เพราะตามกฎหมายหากยืมเงินกันระหว่างบุคคล และไม่มีการตั้งอัตราดอกเบี้ย ก็สามารถคิดดอกเบี้ยได้ที่ 3% ต่อปี หรือรัฐอาจเสียรายได้จากภาษีถึงปีละ 132 ล้านบาท

นอกจากนี้ วิโรจน์ ยังมองว่าเป็นการเข้าข่ายนิติกรรมอำพราง เพราะถ้าเป็นการให้เงินได้โดยเสน่หาจากบุพการีและบุคคลในครอบครัว ต้องเสียภาษี 5% ตามมาตรา 42(28) เงินได้ที่ได้รับจากการอุปการะโดยหน้าที่ธรรมจรรยา หรือจากการให้โดยเสน่หาเนื่องในพิธี หรือตามโอกาสแห่งขนบธรรมเนียมประเพณี จากบุคคลซึ่งไม่ใช่บุพการี ผู้สืบสันดาน หรือคู่สมรส จะได้รับการยกเว้นภาษีเฉพาะเงินได้ในส่วนที่ไม่เกิน 10 ล้านบาท ถ้าเกิน 10 ล้านบาท ส่วนที่เกินต้องเสียภาษีในอัตรา 5% 

ด้านนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า การเลือกใช้วิธีออกตั๋วสัญญาใช้เงินแทนการรับให้ เพราะเป็นการดำเนินการธุรกิจอย่างเปิดเผย เพราะฉะนั้น สิ่งที่ทำคือไม่สามารถแอบทำได้ ต้องถูกกฎหมาย และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องบรรลุนิติภาวะแล้ว ส่วนเรื่องการปรับโครงสร้างหุ้น จำเป็นต้องใช้การซื้อขาย แต่ ณ เวลานั้น ตนเองไม่ได้มีความพร้อมที่จะชำระค่าหุ้นด้วยเงินสด จึงทำตั๋วสัญญาใช้หนี้แทน ซึ่งได้แสดงไว้ในบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. เรียบร้อยแล้ว พูดคุยกันในครอบครัวอยู่แล้วว่ามีแผนที่จะชำระอยู่แล้ว ซึ่งรอบแรกจะเกิดขึ้นภายในปีหน้านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนและครอบครัวตกลงกัน ไม่ได้มีปัญหาอะไร แน่นอนว่าเมื่อเกิดการซื้อขายเกิดขึ้น หลักฐานจะปรากฏในบัญชีทรัพย์สินของตนอย่างแน่นอน และ ป.ป.ช. ก็ตรวจสอบได้อีกเช่นกันก็โปร่งใส พอมีการซื้อขาย และจ่ายภาษีเกิดขึ้น ยังไงก็หลบการจ่ายภาษีไม่ได้