ทุบ 44 อดีต สส.ก้าวไกล สะเทือนพรรคร่วมรัฐบาล!

ถ้าเราคำนวณสมการการเมือง จะเห็นว่าตอนนี้ทั้งสภามี สส. ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ 493 คน

พรรคฝั่งรัฐบาล 321 คน

• เพื่อไทย 142 คน
• ภูมิใจไทย 69 คน (จากเดิม 71 คน แต่ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ 2 คน)
• รวมไทยสร้างชาติ 36 คน
• ประชาธิปัตย์ 25 คน
• กล้าธรรม 24 คน
• ชาติไทยพัฒนา 10 คน
• ประชาชาติ 9 คน
• ชาติพัฒนา 3 คน
• ไทรวมพลัง 2 คน
• ประชาธิปไตยใหม่ 1 คน

พรรคฝ่ายค้าน 172 คน

• ประชาชน 143 คน
• พลังประชารัฐ 20 คน
• ​​​​​​​ไทยสร้างไทย 6 คน
• เป็นธรรม 1 คน
• เสรีรวมไทย 1 คน
• ไทยก้าวหน้า 1 คน

แต่หากศาลมีคำสั่งให้ตัดสิทธิ์ทางการเมืองของ 44 อดีต สส. พรรคก้าวไกล จากกรณีเข้าชื่อแก้ไข มาตรา 112 ซึ่งเป็น สส. อยุ่ตอนนี้เพียง 25 คน จะทำให้เหลือจำนวน สส. ที่เป็นยอดองค์ประชุมทั้งหมดในสภา 468 คน หรือหากมีการเลือกตั้งใหม่ทดแทน 8 สส. เขตก็จะเหลือประมาณ 476 คน ดังนั้นครึ่งหนึ่งของเสียงในสภาคือ 234-238 เสียง โดยแบ่งออกเป็น สส.บัญชีรายชื่อ สส.เขต และคนที่ไม่ได้เป็น สส. ในสมัยนี้แล้ว ได้แก่

สส.บัญชีรายชื่อ มีจำนวน 17 คน ได้แก่ 
1.นส.ศิริกัญญา ตันสกุล 
2.นายนิติพล ผิวเหมาะ 
3.นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล 
4.นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ 
5.นายณัฐวุฒิ บัวประทุม 
6.นายวรภพ วิริยะโรจน์
7.นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ 
8.นายคำพอง เทพาคำ 
9.นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ 
10.นายองค์การ ชัยบุตร 
11.นายมานพ คีรีภูวดล 
12.นายวาโย อัศวรุ่งเรือง 
13.น.ส.วรรณวิภา ไม้สน 
14.นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร 
15.นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ 
16.นายรังสิมันต์ โรม 
17.นายสุรวาท ทองบุ

สส.เขต จำนวน 8 คนได้แก่ 
1.น.ส.ญาณธิชา บัวเผื่อน สส.จันทบุรี 
2.นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม. 
3.นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม.  
4.นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา 
5.นายจรัส คุ้มไข่น้ำ สส.ชลบุรี 
6.นายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด 
7.นายวุฒินันท์ บุญชู สส.สมุทรปราการ 
8.นายธีรัจชัย พันธุมาศ สส.กทม.

ไม่ได้เป็น สส. 19 คน ดังนี้ 
1.นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ 
2.นายกัญจน์พงศ์ จงสุทธนามณี 
3.นส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา 
4.นายสมเกียรติ ถนอมสินธุ์ 
5.นายทองแดง เบ็ญจะปัก 
6.พ.ต.ต.ชวลิต เลาหอุดมพันธ์ 
7.นายปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ 
8.พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ 
9.นายณัฐพล สืบศักดิ์วงศ์ 
10.นายทวีศักดิ์ ทักษิณ 
11.นายสมเกียรติ ไชยวิสุทธิกุล
12.นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ 
13.น.ส.เบญจา แสงจันทร์ 
14.นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล 
15.น.ส.ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์ 
16.นายสุเทพ อู่อ้น 
17.นายอภิชาติ ศิริสุนทร 
18.นายปดิพัทธ์ สันติภาดา 
19.นายสมชาย ฝั่งชลจิตร

สมการการเมืองที่เปลี่ยนไปก็คือ ฝ่ายรัฐบาลต้องการเสียงในสภาน้อยลงไปกว่าเดิมเพื่อให้เกินครึ่ง หากสลับพรรคร่วมบางพรรคออก และเอาบางพรรคเข้ามาแทนก็ไม่ได้สั่นคลอนเสถียรภาพในสภาของรัฐบาล สมมติถ้าเอาพรรคภูมิใจไทยที่มีเสียงเป็นอันดับสอง รองจากพรรคเพื่อไทยออกไปอยู่ฝ่ายค้านและดึงบางพรรคกลับมาเป็นรัฐบาล ฝ่ายรัฐบาลก็ยังมีเสียงข้างมากในสภาอยู่ดี 

พรรคฝั่งรัฐบาล 273 คน

• เพื่อไทย 142 คน
• รวมไทยสร้างชาติ 36 คน
• กล้าธรรม 24 คน
• ประชาธิปัตย์ 21 คน
• พลังประชารัฐ 18 คน
• ชาติไทยพัฒนา 10 คน
• ประชาชาติ 9 คน
• ไทยสร้างไทย 6 คน
• ชาติพัฒนา 3 คน
• ไทรวมพลัง 2 คน
• เสรีรวมไทย 1 คน
• ประชาธิปไตยใหม่ 1 คน

พรรคฝ่ายค้าน 195 คน

• ประชาชน 118 คน
• ภูมิใจไทย 69 คน
• ประชาธิปัตย์ 4 คน (จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน และสรรเพชญ บุญญามณี)
• พลังประชารัฐ 2 คน (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และโชติวุฒิ ธนาคมานุสรณ์)
• เป็นธรรม 1 คน
• ไทยก้าวหน้า 1 คน

ย้ำว่านี่คือการสมมติสมการการเมืองเท่านั้น เพราะการจะปรับพรรคภูมิใจไทยออกจากการร่วมรัฐบาลก็ต้องคำนึงถึงพันธมิตรของพรรคภูมิใจไทยอย่าง สว. สีน้ำเงินด้วย แต่ถึงกระนั้นพรรคร่วมรัฐบาลก็อาจจะต้องระวังเพราะถ้าไพ่ใบนี้มีผลกระทบมากกว่าพรรคประชาชน แต่ยังลามไปถึงการเขย่าพรรคร่วมรัฐบาลด้วยแล้ว การขวางมติหรือนโยบายรัฐบาล รวมไปถึงการขยายอำนาจจนเกินหน้าเกินตาก็อาจจะทำให้แกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจ จนงัดไม้นี้ออกมาใช้ก็เป็นได้