เปิดเวทีเสวนา ชำแหละ! ร่าง กม.เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ นักวิชาการเตือนรัฐทำไม่ชัดเจน ระวังจะเจ๊ง กลายเป็นแหล่งอาชญากรรมข้ามชาติ "มาดามเดียร์" ซัดรัฐบาลยังสับสน ส่วนพรรคประชาชน จี้รัฐจะทำกาสิโน อย่ามาซ่อนรูป
ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ (EntertainmentComplex) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ซึ่งร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการท่องเที่ยวและส่งเสริมการลงทุนตลอดจนแก้ปัญหาเรื่องการพนันที่ผิดกฎหมาย
.
แม้ว่าเรื่องนี้ ยังไม่มีการทำประชามติ แต่ล่าสุดมีการจัดกิจกรรมงานเสวนา เพื่อถก แสดงความคิดเห็นต่อร่าง พรบ.ดังกล่าว โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นที่ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ซึ่งมีผู้ที่มาร่วมวงเสวนา ได้แก่ "รองศาสตราจารย์ ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์" อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาปัญหาการพนัน , "วทันยา บุนนาค" อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ "กันตพงษ์ ประยูรศักดิ์" จากพรรคประชาชน
ด้าน"รศ.ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์" ยกตัวอย่างประเทศสิงคโปร์ ที่มีการกำหนดสัดส่วนพื้นที่เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ในการทำกาสิโน อย่างชัดเจน คือ 3 เปอร์เซ็นต์ แต่ของไทยกำหนดว่าต้องมีพื้นที่ 10 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ยังแนะให้ไปดูประเทศที่ไม่ระมัดระวัง ไม่อย่างนั้นระวังจะเจ๊ง และจะกลายเป็นแหล่งอาชญากรข้ามชาติได้ เรื่องนี้ต้องมีความรอบคอบชัดเจน ส่วน กรณีมาเก๊า ที่ประสบความสำเร็จ เพราะระบุกฎหมายมาอย่างรัดกุม ว่าจะทำกาสิโนกี่แห่ง และมีการประเมินกิจการ
รศ.ดร.นวลน้อย ยังเปรียบเทียบรายได้ ให้เห็นว่า ในขณะที่ไทยไม่มีกาสิโนก็มีรายได้จากจำหนายสลากกินแบ่งรัฐบาล หักล้างขอกล่าวอ้างจากคนในรัฐบาล ที่ว่าจำเป็นต้องมีกาสิโน เพื่อสร้างรายได้เข้าประเทศ
"ปัจจุบันสิงคโปร์มีรายได้ จากนักท่องเที่ยวเข้ามาในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ สองแห่ง แสนกว่าล้าน เก็บภาษีพนันซึ่งแปลงเป็นเงินไทย คือ 2 หมื่นล้านบาท ในขณะที่ประเทศไทย มีการจำหน่ายล็อตเตอร์รี่ และยังขยายเพิ่มมาอีก ส่งรายได้เข้ากระทรวงการคลัง เป็นจำนวนเงิน 4 หมื่นล้านบาท เยอะกว่ากาสิโนของสิงคโปร์เสียอีก แล้วไม่รู้เงินสี่หมื่นล้านไปทำอะไรบ้าง" รศ.ดร. นวลน้อย กล่าว
ด้าน มาดามเดียร์ หรือ วทันยา บุนนาค แนะว่า รัฐบาลต้องพิจารณาทุกมิติ พร้อมตั้งคำถามว่าไทยเอาไปเปรียบกับสิงคโปร์ได้จริงหรือเปล่า ? เพราะองค์ประกอบไม่ได้ใกล้เคียง ซึ่งองค์ประกอบของไทยนั้นควรเปรียบ กับประเทศใกล้เคียง อย่างฟิลิปปินส์
รวมถึงตั้งคำถามว่า กาสิโน มันดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่ม มันได้จริงหรือ? หรือ ที่บอกอยากแก้ปัญหาให้สิ่งที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดิน อย่างถูกกฎหมาย ซึ่ง 2 ข้อนี้ เจตนารมย์มันไม่เหมือนกัน เหมือนว่ารัฐบาล ยังสับสนในการร่างกฎหมาย
"สิงคโปร์ใช้เวลาศึกษากาสิโน 10 ปี ตั้งมา 5 ปี หรือ มาเก๊า ตั้งมาตั้งแต่ปี 1962 ตั้งแต่มีซัพพลายน้อย แต่ของไทยคิดกำลังตั้ง ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านเขามีหมดแล้ว แล้ววัตถุประสงค์เราบอกว่าจะสามารถเพิ่มนักท่องเที่ยวได้ คำถามว่าดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จริงหรือ การ่างกฎหมายของเราจึงไม่เหมือนกับเขา สรุปรัฐบาลยังสับสนตนเอง" มาดามเดียร์ กล่าว
สำหรับ กันตพงษ์ ประยูรศักดิ์ แนะว่า กฎหมายควรแยกไปคนละฉบับ เพราะเนื้อหาร่างกฎหมายของกระทรวงการคลังมีความคลุมเครือ ไม่ครอบคลุม ควรจะศึกษากรอบกฎหมายจากต่างประเทศให้รอบคอบ เรื่องวัตถุประสงค์ ที่ต้องการจะดึงดูดนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่กลับจะสร้างแหล่งการพนันถูกกฎหมาย โดยไปเขียนไว้ใน กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์
"อย่างสิงคโปร์ .มี 13 หมวด อินเดีย มี 20 หมวด แต่ของเรามี 9 หมวด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัตถุประสงค์ ต้องการดึงดูดนักท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ แต่กลับจะสร้างแหล่งการพนันถูกกฎหมาย โดยเขียนไว้ในกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ต่างประเทศจริงจัง ในการออกออกกฎหมาย ป้องกันการก่อเหตุจากผลกระทบจากการมีกาสิโน โดยเขียนไว้ในกฎหมายด้วยถ้าจะทำกาสิโนถูกกฎหมาย บอกมาตรงๆ ไม่ใช่เลี่ยงไปว่า. ทำกม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ " กันตพงษ์ กล่าว