svasdssvasds

จากโลกร้อน สู่โลกเดือด กลุ่มธุรกิจ TCP ขอเป็นส่วนหนึ่งปลุกพลังให้โลกดีขึ้น

จากโลกร้อน สู่โลกเดือด กลุ่มธุรกิจ TCP ขอเป็นส่วนหนึ่งปลุกพลังให้โลกดีขึ้น

ปีหน้าภัยพิบัติจะรุนแรงขนาดไหน หลัง UN เปลี่ยนนิยามจากภาวะโลกร้อน สู่ภาวะโลกเดือด เพื่อฝ่าวิกฤตโลกรวน กลุ่มธุรกิจ TCP ขอเป็นส่วนหนึ่งในการปลุกพลังให้โลกนี้ดีขึ้น

เราจะเห็นว่า ปีนี้ทั่วโลกเผชิญหน้ากับภัยพิบัติทางธรรมชาติหนักมาก ไม่ว่าจะเป็นฝนร้อยปีในฮ่องกง ไฟป่าในฮาวาย แคนาดา กรีซ และสเปน เอลนีโญและคลื่นความร้อนทุบสถิติในประเทศแถบยุโรป รวมถึงทะเลไทยกับปรากฏการณ์แพลงก์ตอนบลูม จนทะเลศรีราชากลายเป็น DEAD ZONE

ปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาระดับโลก และคาดว่าจะรุนแรงขึ้นในปีต่อ ๆ ไป คนที่จะแก้ไขปัญหาเหล่านี้คือมนุษย์เราทุกคนนี่แหละ และแรงกระเพื่อมที่ใหญ่ที่สุดในการเปลี่ยนแปลงคือกลุ่มอุตสาหกรรม

กลุ่มธุรกิจ TCP หนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ที่เรารู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี เช่น กระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ โสมพลัส สปอนเซอร์ แมนซั่ม ไฮ่! เพียวริคุ และซันสแนค ขอเป็นส่วนหนึ่งในการชวนกันลงมือทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ทันรับมือต่อความท้าทายด้านสภาพภูมิอากาศของโลก

นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP

จัดงานประชุมด้านความยั่งยืนเพื่อปลุกพลังอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มมาช่วยกันเปลี่ยนโลก ภายใต้แนวคิด “Net Zero Transition...From Commitment to Action” หรือ “การเปลี่ยนผ่านสู่ Net Zero จากพันธสัญญาสู่การปฏิบัติ”

การจะเปลี่ยนโลกต้องเริ่มที่การเปลี่ยนความคิด (Mindset) กลุ่มธุรกิจ TCP มองว่าต้องเริ่มต้นด้วยการเปลี่ยน Mindset ในการทำธุรกิจ ที่จะเป็นตัวเราในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าเดิม ไม่ได้แข่งขันกันแต่ช่วยกันทำให้ดีขึ้น ไม่ว่าเป็น

  • การเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ของกลุ่มธุรกิจ TCP ทั้งหมดให้สามารถรีไซเคิลได้ 100% รวมไปถึงการเปลี่ยนกระป๋องอะลูมิเนียมให้บางลง ลดน้ำหนักบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วและขวดพลาสติก
  • ตั้งเป้าบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 ทั้งในไทยและต่างประเทศ
  • ลดการใช้ทรัพยากรน้ำ และคืนน้ำกลับสู่ธรรมชาติและชุมชนให้มากกว่าน้ำที่ใช้ในกระบวนการผลิต ภายในปี 2030

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภัยธรรมชาติ เป็นภัยที่มนุษย์ไม่อาจรอดพ้นได้ นอกจากตั้งรับและยอมรับผลที่ตามมา  TCP เค้าเองก็มีโครงการดี ๆ ในการเยียวยาผู้ประสบภัยด้วย และนี่ เป็นกล่องที่เค้าแจกผู้มาร่วมงาน ซึ่งเดี๋ยวจะได้นำไปใช้จริงเมื่อเกิดภัยครั้งหน้า

เป็นไอเดียที่เก๋ดี เพราะเค้าใช้ความเชี่ยวชาญด้านอาหารและเครื่องดื่ม เริ่มจาก ตัวกล่องจะเป็น เค้าจะมีชื่อเต็มว่า “กล่องเติมพลังกาย พลังใจ” ทำจากวัสดุที่ไม่ใช้แล้วในองค์กร

กล่องเติมพลังกาย พลังใจ ต่อมาอาหารประทังชีวิตด้านใน เป็นนวัตกรรมเครื่องดื่มธัญญาหารสำเร็จรูปผสมผักและผลไม้ที่มีชื่อว่า “พลังธัญ” แล้วภายในกล่องยังมี ยาสามัญและอุปกรณ์ทำแผลฉุกเฉิน และมีถุงคลุมเท้าสำหรับใช้ลุยน้ำหรืออื่น ๆ ได้ด้วย นี่ก็เป็นอีกหนึ่งโครงการช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน แต่จะดีกว่าถ้าภัยพิบัติไม่เกิดเลย  ไม่รุนแรง หรือกระทบเราน้อยที่สุด

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น และในปี 2024 เราจะได้เห็นเป้าหมายที่ชัดและไปไกลกว่าเดิม และเป็นตัวอย่างของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มที่น่าชื่นชมในการหันมาสนใจปัญหาของโลกมากยิ่งขึ้น 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related