“ฟ้าทะลายโจร” ช่วงนี้คงได้ยินชื่อยาสมุนไพรไทยชนิดนี้กันบ่อยขึ้น กับคำถามตามมาว่า ฟ้าทะลายโจรมีสรรพคุณสามารถยับยั้งบรรเทาอาการโรคโควิด-19 ได้จริงหรือ และมีวิธีกินอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
มารู้จักฟ้าทะลายโจรกันหน่อย
“ฟ้าทะลายโจร” เป็นสมุนไพรที่อยู่ในตำรายาไทยโบราณมานาน มีรสขม จัดอยู่ในกลุ่มยาเย็น มีสรรพคุณทางการแพทย์แผนไทย
ในฟ้าทะลายโจรมีสารสำคัญอยู่ 2 ชนิด คือ
1. สารแอนโดรกราโฟไลด์ (Andrographolide)
2. 14-ดีออกซี-11,12-ไดดีไฮโดรแอนโดรกราโฟไลด์ (14-deoxy-11,12-didehydroandrographolide)
สารทั้งสองชนิดนี้ สามารถบรรเทาอาการท้องเสีย อาการหวัด เจ็บคอ และการติดเชื้อในระบบหายใจส่วนบน นอกจากนี้ ยังมีสรรพคุณช่วยรักษาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาการท้องเสียชนิดที่ไม่ติดเชื้อ
ฟ้าทะลายโจรยังเป็นสมุนไพรที่ถูกบรรจุอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ.2542 ของกระทรวงสาธารณสุข
นายกรัฐมนตรี พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ประกาศเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 ให้ใช้ฟ้าทะลายโจรร่วมกับยาฟาวิพิราเวียร์ในผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ต่อมาคณะกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติได้พิจารณาเพิ่มสรรพคุณให้ยาฟ้าทะลายโจรใช้กับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพื่อลดอาการรุนแรงคือเชื้อลงปอด และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาถามหางานวิจัยรองรับที่สมบูรณ์มากพอ เราเลยจุดนั้นมาแล้ว ถ้าเรามีสมุนไพรท้องถิ่นเป็นยาดี ราคาถูก เข้าถึงง่าย เหตุผลอะไรที่จะไม่พิจารณาใช้เป็นทางเลือกในการรักษาผู้ป่วย ” อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย ม.รังสิต กล่าว
เผยผลการใช้ฟ้าทะลายโจร
ผลจากการใช้ยาฟ้าทะลายโจรเป็นที่น่าพอใจ จากที่ทางกรมการแพทย์แผนไทย การแพทย์ทางเลือก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำฟ้าทะลายโจรไปใช้กับผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งผลออกมาค่อนข้างดี ทาง ศบค. ก็ยืนยันแล้วว่าฟ้าทะลายโจรเป็นทางเลือกในการรักษาโควิด-19 ได้ในผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง
ข้อมูลสถิติการใช้ฟ้าทะลายโจรจากเรือนจำเชียงใหม่
ข้อมูลจากเฟสบุ๊ก อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ระบุว่า จากการระบาดระลอกที่สาม ระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2564 จนถึงวันที่ 25 มิถุนายน 2564 มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เฉพาะช่วงเวลาดังกล่าวจำนวน 207,428 คน มีผู้ป่วยเสียชีวิต 1,725 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 0.83% สะท้อนให้เห็นว่าอัตราการเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นกว่าช่วง 3 เดือนแรกของปี 2564
ช่วงเวลาเดียวกันนี้เองได้เกิดการระบาดโรคโควิด-19 ขึ้นที่เรือนจำกลางเชียงใหม่ ทางกระทรวงยุติธรรมได้ใช้ยาฟ้าทะลายโจรเป็นยาร่วมรักษา ผลปรากฏว่า จำนวนผู้ต้องขัง ณ วันที่ 18 มิถุนายน 2564 มีนักโทษรวมทั้งสิ้น 6,562 คน ติดเชื้อโควิด-19 สะสมรวมทั้งสิ้น 4,169 คน รักษาหายแล้วถึง 3,980 คน มีผู้เสียชีวิต 3 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิต 0.072% เท่านั้น ซึ่งน่าอัศจรรย์ว่าเป็นกลุ่มคนที่มีอัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในประเทศไทยในทุกช่วงเวลา
สรุปสัดส่วนผู้เสียชีวิตกับผู้ติดเชื้อแต่ละช่วงเวลา
แต่สำหรับเรือนจำกลางเชียงใหม่ซึ่งมีการใช้ “ฟ้าทะลายโจร”ในการลดอาการของผู้ป่วย ช่วงวันที่ 1 เมษายน 2564 - วันที่ 18 มิถุนายน 2564 ถ้ามีผู้ติดเชื้อ 10,000 คน จะมีผู้เสียชีวิต 7 คนเท่านั้น
นอกจากการนำฟ้าทะลายโจรไปใช้ที่เรือนจำกลางเชียงใหม่แล้ว ยังมีการนำมาใช้ในกลุ่มผู้ต้องขังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อรักษาอาการป่วยการโควิด-19 ในกลุ่มผู้ป่วยสีเขียว และได้ผลดี
10 ข้อควรรู้ วิธีกินฟ้าทะลายโจร
1. ผู้ที่ยังไม่ได้ตรวจหาเชื้อ แต่มีอาการไม่สบาย เจ็บคอ , มีไข้ ปวดเมื่อย , ปวดศีรษะ กินฟ้าทะลายโจรขนาด 400 มิลลิกรัม 4 เม็ดต่อครั้ง 4 ครั้งต่อวัน ติดต่อกันไม่เกิน 5 วัน
2. ถ้ายังมีไข้ เจ็บคอ ปวดศีรษะ หลังใช้ฟ้าทะลายโจรไปแล้ว 2 วัน ให้เพิ่มปริมาณการกินฟ้าทะลายโจรเป็น 2 เท่า และดูอาการไปอีก 3 วัน จนครบ 5 วัน ถ้าอาการไม่ดีขึ้น มีอาการหอบเหนื่อยหายใจลำบากร่วมด้วย ให้รีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
3. ผู้ที่ตรวจแล้วพบเชื้อโควิด-19 ให้ใช้ฟ้าทะลายโจรโดยเร็วที่สุด กินฟ้าทะลายโจรขนาด 400 มิลลิกรัม 5 เม็ดต่อครั้ง 4 ครั้งต่องวัน หากภายในวันที่ 2 อาการไม่ดีขึ้น ให้กินฟ้าทะลายโจรเพิ่มเป็น 2 เท่าตัว และภายใน 5 วันอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปโรงพยาบาลเร็วที่สุด
4. ถ้าตรวจพบเชื้อโควิด-19 และมีอาการหอบเหนื่อย หายใจไม่สะดวก ออกซิเจนต่ำ กว่า 95% ให้สงสัยว่าเชื้อลงปอดแล้ว ผู้ป่วยกลุ่มนี้ ฟ้าทะลายโจรจะไม่สามารถรักษาได้ ต้องไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
5. ผู้ที่กินยาลดความดัน หรือยาละลายลิ่มเลือด ต้องพิจารณาเลือกกิน เพราะฟ้าทะลายโจรเสริมฤทธิ์ไปในทางเดียวกัน รวมถึงผู้ป่วยโรคเบาหวานต้องพิจารณาเช่นกัน เพราะฟ้าทะลายโจรทำให้น้ำตาลลดลง หญิงตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์
6. ผู้ที่เป็นโรคตับ ฟ้าทะลายโจรมีผลป้องกันและฟื้นฟูสภาพตับ และใช้รักษาโรคตับหลายชนิด อย่างไรก็ตามกรณีใช้ฟ้าทะลายโจรขนาดสูงเป็นเวลานาน อาจทำให้มีการเพิ่มของเอนไซม์ของตับในระดับต่ำ ยังไม่พบรายงานการทำลายตับ
เมื่อทุกคนตื่นรู้ “ฟ้าทะลายโจร” ก็ขาดตลาดเสียแล้ว
ฟ้าทะลายโจรเริ่มขาดตลาด ขาดสต๊อก จำกัดการซื้อ เพราะมีการใช้ยาฟ้าทะลายโจรมาเป็นยาทางเลือกมากขึ้น เกษตรกรผู้ปลูกเร่งผลิตเต็มกำลัง ถ้าเราสามรถปลูกได้เอง ทำยาไว้ใช้เองก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีในวันที่ต้องพึ่งพาตัวเองเป็นฐานที่ตั้ง
คุณรสนา โตสิตระกูล กรรมการมูลนิธิสุขภาพไทย ได้อธิบายบอกตั้งแต่สรรพคุณ , มือใหม่เริ่มปลูก , ระยะเก็บเกี่ยวที่มีสารสำคัญสรรพคุณทางยา , ปลูกกับมือเอาไปทำอะไรกินได้บ้าง
ดูคลิปเต็มที่ลิงค์ด้านล่าง และสามารถติดตามรายการอยากเห็นเมืองไทยดีกว่านี้ ทุกวันอาทิตย์ เวลา 09.30 - 10.00 น. ทางเนชั่นทีวีช่อง 22 และสปริงออนไลน์