สธ.เผยผลวิจัยฟ้าทะลายโจรในผู้ป่วยกับไวรัสโควิด 19 ที่อาการไม่รุนแรงทุกรายมีอาการดีขึ้น เตรียมต่อยอดวิจัยในผู้ป่วยที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เผยผลวิจัยฟ้าทะลายโจรกับผู้ป่วยไวรัสโควิด 19 ที่ระดับความรุนแรงน้อย ซึ่งได้รับการตรวจยืนยันการติดเชื้อภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีอาการ ทุกรายมีอาการดีขึ้น ตั้งแต่วันที่สามของการได้รับสารสกัด มอบนโยบายขยายการวิจัยในคนระยะที่ 2
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การเภสัชกรรม(อภ.) ดำเนินการศึกษานำร่องผลของยาสารสกัดฟ้าทะลายโจรขนาดสูงต่อผู้ป่วยโรคโควิด 19 หลังจากการวิจัยในหลอดทดลอง พบมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อและยังยั้งการแบ่งตัวของไวรัสได้ แต่ไม่มีฤทธิ์ในการป้องกันเซลล์จากการติดเชื้อไวรัส จึงไม่แนะนำให้รับประทานเพื่อการป้องกันโรค โดยที่ยังไม่มีอาการ
ขณะนี้ได้ขยายผลต่อยอดงานวิจัยในคน โดยร่วมโรงพยาบาลสมุทรปราการ ซึ่งดูแลผู้ป่วยจากนอกประเทศในสถานที่ที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ผลการศึกษาเบื้องต้นในผู้ป่วยที่รับประทานสารสกัดฟ้าทะลายโจร ขนาด 180 มิลลิกรัมต่อวัน ผู้ป่วยทุกรายมีอาการดีขึ้นตั้งแต่วันที่สามของการได้รับสารสกัดดังกล่าว โดยหากแยกรายละเอียดอาการ จะพบว่า อาการไอ,เจ็บคอ,มีเสมหะ,มีน้ำมูก,ปวดกล้ามเนื้อ และปวดศีรษะ มีอาการดีขึ้น ผู้ป่วยไม่มีอาการข้างเคียง ค่าการทำงานของตับและไต อยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนผลลัพท์ด้าน Pro-inflammatory cytokines และสารชีวโมเลกุล อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูลที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
แพทย์หญิงอัมพร กล่าวต่อว่า การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิกในผู้ป่วยโควิด-19 ซึ่งได้รับการตรวจยืนยันการติดเชื้อ SARS-CoV-2 ภายใน 72 ชั่วโมง หลังเริ่มเกิดอาการแสดง อย่างไรก็ตาม การศึกษานี้ เป็นการศึกษาผลเบื้องต้น (Preliminary study) ถึงความปลอดภัยและขนาดที่เหมาะสมในการใช้ยา รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีต่างๆ ในเลือด เอนไซม์ที่เกี่ยวกับการป้องกันการอักเสบ และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จึงขยายการวิจัยต่อในคนเป็นระยะที่ 2 โดยได้ศึกษาเภสัชจลนศาสตร์ของตัวยาในร่างกายมนุษย์ภายใต้ความร่วมมือกับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เพื่อยืนยันปริมาณสารสำคัญต่าง ๆ ที่จะพบในร่างกายเมื่อใช้สารสกัดขนาดสูงให้เป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการใช้ยาสมุนไพร ที่น่ายินดีอีกเรื่องหนึ่งคือโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ มีความสนใจร่วมศึกษาผล ของฟ้าทะลายโจร โดยได้เสนองานวิจัยเข้าพิจารณาในคณะกรรมการงานวิจัยของโรงพยาบาลและพูดคุยกับทีมงาน ถึงความเป็นไปได้ในการร่วมวิจัยกับกรม ต่อไป