(15 มิ.ย.65) เวลา 05.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย รศ.วิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่เปิดการจราจรทางยกระดับรามคำแหง (ขาเข้า)ในพื้นที่เขตบางกะปิ
โดยมี พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา คณะผู้บริหารสำนักการโยธา สถานีตำรวจนครบาลพื้นที่ และบริษัทผู้รับจ้างฯ ร่วมลงพื้นที่ เนื่องจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ซึ่งก่อสร้างในแนวบริเวณถนนรามคำแหง เป็นช่วงของรถไฟฟ้าใต้ดิน ดังนั้นหลังคาของสถานีรถไฟฟ้าสายสีส้ม (สถานีรามคำแหง 12) จะต้องอยู่ใต้โครงสร้างของทางยกระดับรามคำแหงช่วงทางลงฝั่งขาเข้า ระยะทางยาวประมาณ 300 ม.
การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จึงได้ยื่นขออนุญาตต่อกรุงเทพมหานคร เพื่อดำเนินการรื้อย้ายทางยกระดับบางส่วน และดำเนินการก่อสร้างสถานีรถไฟฟ้าดังกล่าว และเมื่อการก่อสร้างในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้วเสร็จ รฟม. ได้ดำเนินการก่อสร้างทางยกระดับช่วงที่รื้อย้ายกลับคืน ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาการก่อสร้างทางยกระดับดังกล่าวมีประชาชนร้องเรียนเข้ามาเป็นจำนวนมาก เกี่ยวกับการดำเนินการก่อสร้างที่มีความล่าช้ายาวนานมาแล้วกว่า 4 ปี ทำให้เกิดปัญหาการจราจรย่านรามคำแหง สำนักการโยธา กทม. ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการพิจารณาอนุญาตโครงการฯ ได้มีการติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งปัจจุบันงานก่อสร้างทางยกระดับรามคำแหงแล้วเสร็จ พร้อมเปิดการจราจรได้ในวันที่ 15 มิ.ย.65 ตั้งแต่เวลา 05.30 น. เป็นต้นไป เพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาการจราจรให้กับประชาชน
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เช้านี้ได้มาดูการจราจรเส้นรามคำแหงบริเวณดังกล่าวมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ผ่านมาได้มีการปิดการจราจรสะพานข้ามแยกรามคำแหงทำให้รถต้องลงมาใช้ทางราบส่งผลให้เกิดการจราจรติดขัด โดยได้มอบหมายให้รองผู้ว่าฯวิศณุเร่งรัดการก่อสร้างจนเปิดการจราจรเมื่อเวลา 05.30 น. ให้สามารถขึ้นจากบริเวณใกล้ๆแยกลำสาลีวิ่งเข้าเมืองไปลงถนนพระราม 9 ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระการจราจรได้ ต่อมาได้มาดูการจราจรแถวรามคำแหง 40 ซึ่งการจราจรติดขัดเหมือนกัน โดยจะเร่งคืนพื้นผิวจราจรทางราบเพื่อเคลียร์เครนก่อสร้างออกไป
จากนั้นมาดูแถวแยกลำสาลี ซึ่งจะคืนพื้นที่ถนนในวันที่ 25 มิ.ย.นี้ ในภาพรวมจะเร่งคืนทางเท้า พื้นผิวจราจร ตรวจสอบระบบระบายน้ำระหว่างเส้นทาง ซึ่งอาจมีปัญหาจากการก่อสร้างไปโดนท่อระบายน้ำเสียหาย ถ้าเกิดฝนตกอาจเกิดน้ำท่วมทางเดินเท้า รวมถึงการนำสื่อสารลงดิน ซึ่งจะได้ดำเนินการควบคู่กันไป จะได้ไม่ต้องไม่ขุดใหม่ รวมถึงด้านความปลอดภัยด้วย
เนื่องจากประชาชนต้องเดินข้ามตรงทางม้าลายทั้ง 2 ฝั่งเพราะปัจจุบันสภาพทางเท้าไม่ดีเนื่องจากมีการก่อสร้างอยู่ อีกทั้งสะพานลอยคนข้ามถูกรื้อออกไป การขยับแบริเออร์เข้าอีก 5 ซม. ก็จะช่วยเพิ่มพื้นผิวการจราจรได้อีกมากทำให้รถเคลื่อนตัวได้ดีขึ้น ซึ่งตั้งเป้าจะแล้วเสร็จ 2 ต.ค.นี้ ส่วนไหนเสร็จก็ทยอยเปิดใช้งาน โดยจะเร่งรัดรีบคืนพื้นที่ให้แก่ประชาชนโดยเร็วที่สุด
ด้านรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวด้วยว่า ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานทางปฏิบัติร่วมกับทางกรุงเทพมหานคร และรฟม. เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าว ป้องกันอุบัติเหตุในระหว่างการก่อสร้าง ประสานผู้รับจ้างดูแลไฟส่องสว่าง ป้ายสัญญาณต่าง ๆ รวมถึงการเปิดช่องทางจราจรให้มากที่สุดและมีความชัดเจน เพื่อความสะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น
“ นับว่าเป็นการร่วมมือกันของ 4 ส่วน คือ กรุงเทพมหานคร รฟม. ส่วนจราจร และผู้รับจ้าง ในการพูดคุยประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง ทางเราเป็นเจ้าของพื้นที่ ต้องเข้มงวดกวดขันในเรื่องคุณภาพในการคืนพื้นที่ให้แก่ประชาชน โดยเอาความสะดวกประชาชนเป็นที่ตั้ง เพื่อการเดินทางอย่างปลอดภัย ” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวในตอนท้าย