'สมถวิล ปธานวนิช' ชู "Holistic Health" หรือ สุขภาพองค์รวม คือ สิ่งสำคัญ ของการใช้ชีวิตในสังคม Smart City ในงาน Thailand Smart City 2025
นางสมถวิล ปธานวนิช ผู้ร่วมก่อตั้งและที่ปรึกษา โรงพยาบาลเมดพาร์ค ได้แสดงทัศนะ ในงาน Thailand Smart City 2025 หัวข้อ Smart Life ว่า เทคโนโลยีต่างๆ ถูกพัฒนาขึ้นเป็นเครื่องมือที่เหมาะสม เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ แต่สิ่งที่ท้าทายคือ เราจะใช้ชีวิตอย่างไรให้เกิดภาพรวมที่ดี
"เราต้องเข้าใจ Holistic Health ของร่างกาย และ เข้าใจเทคโนโลยีที่พัฒนาควบคู่กันไป แต่ต้องไม่ลืมว่ามันคือเครื่องมือ อย่าทำทุกอย่างที่สั่ง เราควบคุมAI ไม่ใช่ AI ควบคุมเรา" นางสมถวิล กล่าว
ดังนั้นสิ่งสำคัญ คือ ต้องบูรณาการกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเข้าด้วยกัน ดังนี้
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ (Nutrition)
การออกกำลังกาย (Physical Activities)
- ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายชนิดใดก็ตาม ถือ เป็นเรื่องที่ดีต่อร่างกาย
คุณภาพการนอน (Sleep)
- การนอน ควรจะนอนให้พอ และเข้าใจวิถีการนอน เช่น ช่วงเวลาที่หลับลึก (Deep Sleep) ทั้งนี้ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ที่มีปัญหาการนอน แต่มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่มาตรวจคุณภาพการนอน ซึ่งประโยชน์ของการตรวจคุณภาพการนอน ที่เรียกว่า Sleep test ไม่ใช่แค่ให้นอนดี แต่สามารถคัดกรองโรคได้ด้วย เพราะอาจจะมีปัญหาอื่นๆในร่างกายเกิดขึ้นได้
การขจัดความเครียด (Stress Management)
- วิธีการหนึ่งที่จะจัดการกับความเครียด คือ การอาบป่า ซึ่งเป็นศาสตร์ชนิดหนึ่งที่ช่วยให้มนุษย์ฉ่ำปอด ฉ่ำใจ และสมองผ่อนคลาย ทั้งนี้การชื่นชมธรรมชาติยังมีแง่ดี ที่สอนให้รู้จักความสุขที่อยู่กับธรรมชาติ และดีต่อการจัดการกับความเครียดได้
ซึ่งสำหรับเมือง หรือชุมชนควรจะมีสวนสาธารณะ ซึ่งทุกๆ 15 นาทีควรจะมีสวนสาธารณะหนึ่งแห่งให้ประชาชนสามารถเข้าไปได้
การเข้าสังคม (Social Connection)
- การเข้าสังคมหรือปฏิสัมพันธ์กับสังคม การแสดงความยินดี การเจอผู้คน ล้วนทำให้เกิดการเยียวยาจิตใจ รวมไปถึงการคบเพื่อนต่างวัย ซึ่งจะก่อให้เกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และร่วมมือกันได้ในยุค Smart City
การทำสิ่งที่ดีให้สังคม (Give the best of you to others) การทำสิ่งที่ดีมีคุณค่าแก่สังคมและผู้อื่นเป็นความสุขที่เหนือกว่าความสุขอื่นใด ทำให้มีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี
โรงพยาบาลเมดพาร์คจึงได้จัดกิจกรรมต่างๆ ที่พยายามจะกระจายไปตามจุดต่างๆ ไม่กระจุกตัวอยู่แค่ที่ กทม. และมีโอกาสที่จะช่วยสังคมด้านอื่นๆ เช่น การฉีดวัคซีนกับผู้ป่วยในเขตพื้นที่คลองเตย หรือการร่วมมือกับกทม.ในงานวิ่งมาราธอนต่างๆ เป็นต้น
นางสมถวิลกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการบูรณการความเป็นอยู่โดยองค์รวมแล้ว การดูแลตัวเองด้านการป้องกันโรค หรือการตรวจเช็คสุขภาพเป็นอีกส่วนที่สำคัญ ซึ่งควรต้องทำอยู่อย่างสม่ำเสมอ ยกตัวอย่าง การคัดกรองเรื่องสายตา และ คุณภาพการนอนหลับ
Eye Screening พบว่าเด็กหลายคนมีปัญหาสายตา แต่พ่อแม่ไม่ทราบเลย กว่าจะทราบก็สายไปแล้ว สายตาเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อการพัฒนาทางสมองของเด็กเป็นอย่างมาก จึงควรคัดกรองอยู่เสมอ
.
Sleep Quality พบว่าวัยทำงานจะมีปัญหาเรื่องการนอนไม่หลับ ซึ่งควรตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง เพราะอาจจะมีสาเหตุมาจากโรคต่างๆ ได้หลายโรคด้วยกัน จึงควรที่จะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
นอกจากนี้ ประเด็นของการนำ AI มาใช้ทางการแพทย์ นางสมถวิลมองว่า แม้ AI จะเข้ามามีส่วนทางการรักษามากขึ้น แต่ AI ก็มีหน้าที่ในการตรวจจับ แต่ผู้ที่ตัดสินใจรักษาก็ยังคงต้องเป็น แพทย์ ซึ่งความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์และผู้ป่วยยังเป็นสิ่งสำคัญ
นางสมถวิล ยังกล่าวทิ้งท้าย ถึงการสร้างสังคม Smart City 2025 ว่า " สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้คนในเมือง ควรแชร์วิสัยทัศน์เดียวกันว่า ทำเพื่อความสุขและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน"