การรักษาสายตาให้สุขภาพดีอย่างสม่ำเสมอนั่นคือ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และบำรุงสายตา, การสวมแว่นกันแดด และการตรวจสุขภาพสายตาเป็น ประจำ
ดวงตา เป็นหนึ่งในอวัยวะสำคัญและมีการใช้งานอยู่ตลอดเวลา หลายคนมักละเลยการดูแลรักษาสายตาซึ่งอาจทำให้คนเหล่านั้นประสบปัญหาโรคทางสายตาโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะเป็น โรคสายตาสั้น สายตาเอียง โรคต้อกระจก หรือดวงตาเสื่อมก่อนวัยอันควร
นอกจากนี้พฤติกรรมของผู้คนส่วนใหญ่มักจดจ้องอยู่กับหน้าจอโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์อยู่เป็นประจำ แสงสีฟ้าจากหน้าจอจึงเป็นอีกหนึ่งตัวกระตุ้นสำคัญที่ส่งผลเสียต่อดวงตา เพื่อให้คุณเห็นถึงความสำคัญของการรักษาสายตามากยิ่งขึ้น วันนี้เราจะมาบอกถึงความสำคัญของการรักษาสายตา พร้อมแนะนำ 8 วิธีถนอมสายตา เพื่อให้ดวงตาของคุณแข็งแรงและอยู่กับคุณให้นานที่สุด
รู้จักกับโรคตาที่พบได้บ่อยในวัยทำงาน
1. โรคสายตาสั้น สายตาเอียง
โรคสายตาสั้นและภาวะสายตาเอียง (Myopia and Astigmatism) เป็นโรคที่พบได้บ่อยในวัยทำงาน ซึ่งปัจจุบันคนเริ่มมีพฤติกรรมในการใช้สายตาจดจ้องโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ในระยะเวลานานเกินไป หรือแม้แต่การได้รับผลกระทบมาจากกรรมพันธุ์ โดยอาการของผู้ป่วยโรคนี้จะมองเห็นวัตถุในระยะไกลไม่ชัดเจน มองเห็นภาพเบลอ มีอาการปวดตา ตาล้า เนื่องจากใช้กล้ามเนื้อตรงส่วนดวงตาเพ่งมากจนเกินไป
โดยทั่วไปผู้ป่วยที่มีปัญหาสายตาสั้น หากไม่ทำการถนอมรักษาสายตาอาจทำให้สายตาพร่ามัวเป็นระยะเริ่มต้นได้ และอาจนำไปสู่การเกิดต้อจุดเล็ก สะสมจนเป็นก้อนใหญ่ทำให้เกิดเป็นโรคต้อกระจกได้
2. โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม
โรคคอมพิวเตอร์วิชั่นซินโดรม (Computer Vision Syndrome) เป็นโรคที่ได้รับผลกระทบจากการใช้สายตาจดจ้องกับหน้าจอที่มีแสงสีฟ้านานเกินไป ซึ่งผู้ป่วยมักจะมีอาการตาแห้ง แสบตา ปวดตา เคืองตา ปวดศีรษะ ปวดคอ และปวดไหล่ ร่วมกับมีอาการปวดหลังจากการนั่งท่าเดิมนาน ๆ ไม่ค่อยได้เปลี่ยนท่าอิริยาบถใด ๆ หากไม่ได้รับการรักษาสายตาหรือใช้สายตาโดยไม่ถนอมสายตา อาจทำให้เกิดภาวะสายตาเอียง ภูมิแพ้ขึ้นตา และเกิดภาวะตาเหล่ได้
3. โรควุ้นในตาเสื่อม
โรควุ้นในตาเสื่อม (Vitreous Degeneration) เป็นภาวะที่ได้รับผลกระทบจากภาวะสายตาสั้น การเสื่อมสภาพวุ้นตาตามอายุ และผลกระทบจากอุบัติเหตุผ่านดวงตาและการผ่าตัด ซึ่งระยะเริ่มต้นของภาวะวุ้นในตาเสื่อมคือวุ้นจับตัวเป็นก้อนจนกลายเป็นจุดฝ้าดำข้างใน ทำให้ผู้ป่วยมองเห็นภาพเหมือนมีหยากไย่ลอยไปมา หรือการเห็นแสงสว่างคล้ายแสงแฟลช หากไม่ได้รับการรักษาสายตาอาจนำไปสู่ภาวะตาบอดได้
4. โรคจอประสาทตาเสื่อม
โรคจอประสาทตาเสื่อม (Macular Degeneration) สำหรับโรคนี้มักเกิดจากผลกระทบจากกรรมพันธุ์ การเข้าสู่สภาวะสูงวัย และการใช้สารเสพติดอย่างการสูบบุหรี่เป็นประจำ ที่ส่งผลให้เกิดการเสื่อมสภาพการทำงานของจอประสาทตา ในระยะเริ่มต้นผู้ป่วยมักมีอาการมองไม่ชัดเป็นครั้งคราว มองเห็นภาพบิดเบี้ยว มองเห็นจุดดำกลางภาพ การมองเห็นสีที่เพี้ยน เมื่อเกิดอาการเหล่านี้ควรทำการนัดจักษุแพทย์เพื่อทำการรักษาสายตาโดยเร็วที่สุด
การรักษาสายตาสำคัญอย่างไร
ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญและมีความละเอียดอ่อนอย่างมาก จึงจำเป็นต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษ เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นรวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตในปัจจุบันของผู้คนส่วนใหญ่มักจดจ้องอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือหน้าจอโทรศัพท์ที่มีแสงสีฟ้า (Blue Light) ที่สามารถสร้างผลกระทบต่อสุขภาพสายตา สิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ทำให้ดวงตาเกิดความเหนื่อยล้าและเสื่อมลงก่อนวัยอันควร และถ้าหากดวงตาซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญไม่ได้รับการดูแลจะทำให้ประสิทธิภาพในการมองเห็นลดลงจนกระทบการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนั้นการดูแลรักษาสายตาอย่างถูกวิธีจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยถนอมสายตาให้มีสุขภาพดีและมีประสิทธิภาพในการมองเห็นชัดอยู่เสมอ
แนะนำ 8 วิธีถนอมสายตา
1. ปรับความสว่างของห้อง
การถนอมสายตาด้วยการปรับความสว่างของห้องให้มีความโปร่งใส โล่ง และสบายตา จะช่วยให้ภาพรวมภายในห้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ลงตัวและมีแสงสว่างที่เพียงพอต่อสายตา รวมไปถึงการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่มีพื้นผิวสีสะท้อนในการตกแต่งห้อง จะช่วยลดอัตราแสงสะท้อนและการกระทบของตัวแสงเข้าตาโดยตรง
2. จัดวางตำแหน่งคอมพิวเตอร์ให้เหมาะสม
การจัดวางของตำแหน่งคอมพิวเตอร์ขณะนั่งทำงานก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยรักษาสายตาของคุณไม่ให้เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ โดยการจัดวางคอมพิวเตอร์ควรมีระยะห่างจากจอภาพถึง 50-70 เซนติเมตร ดวงตาทั้งสองข้างควรอยู่ในระนาบเดียวกับจอภาพที่มีระยะห่าง 5-9 นิ้ว และควรเลือกโต๊ะและระดับความสูงที่เหมาะสมกับระยะสายตาผู้ใช้งาน
3. เลือกใช้แว่นตาที่เหมาะสมกับการใช้คอมพิวเตอร์
สำหรับผู้ที่ต้องอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นประจำ การเลือกใช้แว่นคัดกรองแสงสีฟ้าจะช่วยลดการสะท้อนของแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในการช่วยถนอมสายตาให้สามารถใช้งานได้ยืดยาวมากยิ่งขึ้น
4. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และบำรุงสายตา
สิ่งสำคัญในการรักษาสายตาให้สุขภาพดีอย่างสม่ำเสมอนั่นคือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะอาหารจะช่วยชะลอหรือลดการเกิดโรคทางสายตาประเภทไขมันโอเมก้า 3, ซิงค์, วิตามินซี และวิตามินอี เช่น ผักใบเขียว, เนื้อปลาที่มีกรดไขมันจำเป็นสูง, ไข่ และส้ม เป็นต้น
5. ปกป้องดวงตาจากแสงแดด
แสงแดดเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดโรคต้อกระจก, ต้อเนื้อ และโรคทางสายตาอื่น ๆ เมื่อต้องเผชิญกับแสงแดดหรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรปกป้องดวงตาจากแสงแดดโดยการสวมใส่แว่นกันแดดชนิดที่มีเลนส์กรองแสงยูวีเอ (UV-A) และยูวีบี (UV-B) เป็นประจำ ซึ่งเป็นวิธีในการถนอมสายตาได้ดีที่สุด
6. กะพริบตาให้ถี่ขึ้น
การกะพริบตาถี่ขึ้นเป็นอีกหนึ่งวิธีการถนอมสายตาที่จะช่วยให้ดวงตาของคุณมีน้ำหล่อเลี้ยงและปรับโฟกัสดวงตาได้เป็นอย่างดี และสามารถป้องกันสิ่งระคายเคืองจากการจดจ้องจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ ได้ ดังนั้นการปรับพฤติกรรมให้กะพริบตาในอัตรา 20-22 ครั้งต่อนาทีจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ดวงตาอย่างสม่ำเสมอ
7. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
วิธีถนอมสายตาที่สำคัญ คือ การออกกำลังกายและควบคุมอาหารอย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติทำให้ห่างไกลจากโรคอ้วน โรคเบาหวาน ไขมันสูง ซึ่งโรคเหล่านี้มักมีอาการแทรกซ้อนต่อดวงตาและเกิดปัญหาสายตาได้ในอนาคต
8. ตรวจสุขภาพสายตา
การตรวจสุขภาพสายตาเป็นประจำ ปีละ 1 ครั้ง จะช่วยให้คุณสามารถตรวจเช็กส่วนประกอบต่าง ๆ ของดวงตาเกิดความผิดปกติหรือไม่ หรือเกิดโรคแทรกซ้อนที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น โรคต้อกระจก ต้อลม ต้อเนื้อ และต้อหิน ที่อาการเริ่มต้นจะเหมือนอาการปวดตาทั่วไป ดังนั้นหากได้รับการตรวจดวงตาเป็นประจำ จะช่วยให้สามารถวินิจฉัยและนำไปสู่การดูแลรักษาสายตาได้อย่างถูกต้อง
ท่าบริหารกล้ามเนื้อตา
บริหารกล้ามเนื้อตาได้ง่าย ๆ ด้วย 3 ท่า เป็นการรักษาสายตาที่ทุกคนก็สามารถทำได้เป็นประจำทุกวัน
1. การกลอกลูกตาซ้าย-ขวา ใบหน้าตั้งตรง กลอกลูกตาไปมาทางซ้ายและขวา ทำติดต่อกัน 10 ครั้ง โดยที่ศีรษะอยู่นิ่ง
2. การกลอกลูกตาขึ้น-ลง ใบหน้าตั้งตรง กลอกลูกตาขึ้นและลงไปมา ทำติดต่อกัน 10 ครั้ง โดยที่ศีรษะอยู่นิ่ง
3. การนวดบริเวณดวงตา หลับตาแล้วใช้มือทั้งสองข้างนวดบริเวณหัวคิ้วไปจนถึงหัวตาเบา ๆ จะช่วยให้ดวงตาเกิดความผ่อนคลาย โดยนวดคลึงตามเข็มและทวนเข็มนาฬิกาสลับไปมา ติดต่อกัน 10 ครั้ง
ข้อสรุปเรื่องรักษาสายตา
ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ เป็นอวัยวะที่สำคัญและละเอียดอ่อนมาก เพราะถ้าหากละเลยและไม่รู้จักถนอมสายตาอาจทำเกิดโรคแทรกซ้อนทางดวงตาที่จะส่งผลต่อการมองเห็นและการใช้ชีวิตประจำวันได้ในที่สุด
ดังนั้นจึงควรรู้จักวิธีการดูแลรักษาสายตาอย่างถูกต้องและหมั่นบริหารกล้ามเนื้อตาอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้สุขภาพดวงตาของคุณแข็งแรงและสดใสยาวนานมากขึ้น