SHORT CUT
'ณัฐพงษ์' โชว์แคมเปญ 'เปิด เปลี่ยน กรุง' กรุยทางเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ปี 69 นำทัพ สส.-ส.ก. พรรคประชาชน พร้อมเสนอนโยบาย-แคนดิเดตดีที่สุด เปลี่ยนเมืองหลวงให้ดีกว่าเดิม
วันนี้ 25 ก.พ. 2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน นำทีม สส. และส.ก.พรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวแคมเปญ "เปิด เปลี่ยน กรุง" เตรียมเดินหน้าผลักดันนโยบาย กทม. ผ่านการมีส่วนร่วมของประชาชน พร้อมนำเสนอแคนดิเดต และนโยบายที่ดีที่สุดให้ชาว กทม. ในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และสมาชิกสภา กทม. ในปี 2569
ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาที่เกิดรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้การผลักดันวาระใหญ่อย่างการแก้รัฐธรรมนูญไม่สามารถผลักดันได้ วันนี้เราในฐานะพรรคฝ่ายค้านมาแถลงข่าวแคมเปญ “เปิด เปลี่ยน กรุง” เพื่อยืนยันกับว่าพรรคประชาชนไม่จำเป็นต้องรอได้อำนาจในฝ่ายบริหาร แต่สามารถดำเนินการหลายอย่างเพื่อเตรียมแก้ปัญหาให้ประชาชนได้
ที่ผ่านมา สส. กทม. และ ส.ก.พรรคประชาชน ทำหน้าที่ทั้งในระดับเขต และในสภา ในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้หลายเรื่อง ซึ่งสิ่งที่พรรคประชาชนจะทำต่อจากนี้ภายในอีก 1 ปีข้างหน้า คือการเดินหน้านำเสนอนโยบายที่ดีที่สุดและตัวแทนประชาชนที่ดีที่สุดให้ชาวกรุงเทพฯ ได้เลือกในปี 2569 และเพื่อแก้ไขปัญหาให้ชาวกรุงเทพฯ อย่างแท้จริง
สำหรับทิศทางการทำงานของพรรคประชาชนต่อจากนี้ จะยังเป็นการเดินหน้าทำงานด้วยแนวทาง “สามจริง” คือพบประชาชนจริง ในสถานการณ์จริง และสถานที่จริง เหมือนตัวอย่างที่เขตทวีวัฒนาที่ ส.ก. ลงสำรวจรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบ กรณีการเดินทางด้วยรถเมล์ของประชาชนบนถนนพุทธมณฑลสาย 3 มีรถเมล์แต่ไม่มีป้ายรถเมล์
ซึ่ง ส.ก. ได้เข้าไปขับเคลื่อนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนปัจจุบันมีจุดจอดรถเมล์เพิ่มเติม หรือกรณี ส.ก.พระโขนง ลงสำรวจทางเท้าบนถนนอุดมสุข ที่ยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ผลักดันแก้ไขโดยมีการเชิญทั้งประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างผู้ใช้วีลแชร์ และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงสำรวจและมองเห็นปัญหาร่วมกันจนมีการปรับปรุงพื้นที่ให้ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้
การแก้ไขปัญหาต่อจากนี้มีกฎหมายและนโยบายอีกหลายข้อที่ต้องช่วยกันผลักดัน และยังมีอีกหลายปัญหาในกรุงเทพฯ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ประโยชนที่ดินรกร้าง การใช้พื้นที่สีเขียว การจัดการปัญหามลพิษและสิ่งแวดล้อม หลายนโยบายแก้ปัญหาไม่ได้ด้วยการเมืองในระดับท้องถิ่นหรืออำนาจของผู้ว่า กทม. อย่างเดียว เช่น ปัญหาถนน หรือการเอาสายไฟลงดิน ที่ไม่สามารถทำได้เพราะอยู่ใต้อำนาจของหน่วยงานอื่น ดังนั้นปัญหาของคน กทม. จำเป็นต้องแก้ไขด้วยการผลักดันผ่านการเมืองระดับประเทศและการแก้กฎหมายของ สส. ไปพร้อมกัน
ทุกปัญหาของชาวกรุงเทพฯ ต่อจากนี้ พรรคประชาชนจะผลักดันให้มีการแก้ไขคู่ขนานกันทั้งในระดับรัฐสภาและสภา กทม. ต่อจากนี้เหลือเวลาอีกแค่ 1 ปีก่อนการเลือกตั้ง กทม. ในปีหน้า ขอเชิญชาวกรุงเทพฯ ที่อยากร่วมสร้างการเปลี่ยนแปลงกรุงเทพฯ ให้ดีขึ้นมาร่วมเดินทางไปด้วยกัน ทั้งในการแสดงความคิดเห็นในฐานะประชาชน หรือร่วมเป็นตัวแทนของพรรคประชาชนในระดับสมาชิกสภา กทม. (ส.ก.)
โดยโจทย์ของพรรคประชาชนในวันนี้เราต้องการส่งมอบนโยบายที่ดีที่สุดและแคนดิเดตที่ดีที่สุดให้ชาวกรุงเทพฯ ต่อจากนี้จะมีการจัดเวทีรับฟังความเห็นพัฒนานโยบายกรุงเทพฯ เพื่อให้นโยบายเหล่านั้นไม่ใช่เป็นเพียงนโยบายของพรรคประชาชน แต่เป็นนโยบายของประชาชนชาวกรุงเทพฯ ทุกคน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.สมัยหน้า นายชัชชาติจะลงอีกครั้ง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทุกคนที่เราเตรียมไว้มีคุณสมบัติเพียบพร้อม ขณะนี้มีมากกว่า 5 คน ซึ่งทุกคนมีความเป็นนักบริหาร และสิ่งสำคัญ คือ มีอุดมการณ์ยืนเคียงข้างประชาชน กล้ามีปากมีเสียงต่อสู้เพื่อประชาชน
ด้านนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ สส.กทม. เขต 27 พรรคประชาชน แถลงถึงปัญหาสำคัญเฉพาะหน้าในปัจจุบันของชาวกรุงเทพฯ คือกรณีปัญหาฝุ่น PM2.5 โดยระบุว่าหลังการพูดคุยโดยวงกว้างของสมาชิกทั้ง สส. และ ส.ก.พรรคประชาชน เราเห็นว่าปัญหาฝุ่น PM 2.5 เป็นวิกฤตต่อเนื่องที่ส่งผลร้ายแรง ประชาชนต้องเผชิญชะตากรรมอย่างไร้ทางออก จากปี 2567-2568 อากาศที่คนกรุงเทพฯ หายใจเลวร้ายขึ้นทุกวินาที
โดยเฉพาะสำหรับเด็กเล็กที่มีอายุ 0-6 ขวบที่มีอัตราการหายใจสูงกว่าผู้ใหญ่ มีโอกาสหายใจอากาศพิษเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่าผู้ใหญ่ ต้องเผชิญกับภาวะเสี่ยงโรคหอบหืด โรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรัง และโรคหัวใจ
ในอนาคตอีก 10-20 ปี ถ้าไม่มีการแก้ปัญหาในวันนี้ กทม. ต้องใช้งบประมาณในแก้ปัญหา 3 โรคนี้ วันนี้ต้องเริ่มต้นได้แล้ว แก้ปัญหาให้ประชากรที่เกิดใหม่ สร้างพื้นที่ปลอดฝุ่นให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก (ศพด.) ทั้ง 292 แห่งทั่ว กทม. ที่ดูแลเด็กเล็กกว่า 17,000 คน ซึ่งที่ผ่านมาทั้ง สส. และ ส.ก.พรรคประชาชน ได้ลงสำรวจ ศพด. หลายแห่งและพบว่ามีปัญหาคล้ายคลึงกันที่ยังคงมีความต้องการพื้นที่ปลอดฝุ่น โดยหลายแห่งมีความพร้อมแต่ยังไม่มีงบประมาณจัดสรรเข้าไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง