svasdssvasds

5 บ้านใหญ่ตระกูลดังครองเก้าอี้นายก อบจ. นานที่สุด

5 บ้านใหญ่ตระกูลดังครองเก้าอี้นายก อบจ. นานที่สุด

5 บ้านใหญ่ตระกูลดังครองเก้าอี้นายก อบจ. นานที่สุด จากหลากหลายภูมิภาคและหลากสไตล์ท้องถิ่น สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของตำแหน่ง นายก อบจ.

SHORT CUT

  • การเมืองท้องถิ่นได้รับอิทธิพลอย่างมากจากระบบอุปถัมภ์และเครือญาติ ซึ่งทำให้ตระกูลการเมืองเหล่านี้มีฐานเสียงที่แข็งแกร่ง สมาชิกในตระกูลมักจะดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่างๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ
  • แม้ว่าตระกูลการเมืองจะมีอิทธิพลอย่างมาก แต่ก็มีการแข่งขันทางการเมืองที่เข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ ที่ต้องการเข้ามามีบทบาทในการเมืองท้องถิ่น
  •  การเมืองท้องถิ่นในประเทศไทยมีความเชื่อมโยงกับระบบอุปถัมภ์และตระกูลการเมืองที่เรียกว่า "บ้านใหญ่" โดยตระกูลเหล่านี้มักจะผูกขาดตำแหน่งนายก อบจ. ในแต่ละจังหวัดเป็นระยะเวลานาน

5 บ้านใหญ่ตระกูลดังครองเก้าอี้นายก อบจ. นานที่สุด จากหลากหลายภูมิภาคและหลากสไตล์ท้องถิ่น สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของตำแหน่ง นายก อบจ.

การเมืองไทยเป็นที่ทราบกันว่าล้วนผูกพันกับระบบอุปถัมภ์มาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะการเมืองท้องถิ่นมีสายใยเชิงเครือญาติรวมไปปถึงระบบอุปถัมภ์ ที่พูดกันอย่างเข้าใจง่ายๆ ว่า “บ้านใหญ่”

5 บ้านใหญ่ตระกูลดังครองเก้าอี้นายก อบจ. นานที่สุด

ในแต่ละพื้นที่เองล้วนมีกลุ่มตระกูลการเมืองบ้านใหญ่ที่ผูดขาดอำนาจในจังหวัด โดยเฉพาะเก้าอี้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) มาอย่างยาวนาน

SPRiNG คัดมาให้ชม 5 บ้านใหญ่ตระกูลดังครองเก้าอี้นายก อบจ. นานที่สุด โดยนับตั้งแต่ปี  พ.ศ. 2547 ซึ่งเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนจังหวัดทั่วประเทศไทย และเป็นการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่นโดยตรงจากประชาชนเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

5 บ้านใหญ่ตระกูลดังครองเก้าอี้นายก อบจ. นานที่สุด

สมศักดิ์ (โกหงวน) กิตติธรกุล นายก อบจ.กระบี่ 7 สมัย ผู้สร้างตำนานแห่งอันดามัน

สมศักดิ์ กิตติธรกุล หรือที่รู้จักกันในชื่อ "โกหงวน" เป็นบุคคลสำคัญของจังหวัดกระบี่ ผู้ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) กระบี่ถึง 7 สมัย ซึ่งถือเป็นคนแรกและคนเดียวที่ดำรงตำแหน่งนี้ยาวนานที่สุดในประเทศไทย บทความนี้จะนำเสนอประวัติและบทบาทของโกหงวนในการพัฒนาจังหวัดกระบี่อย่างละเอียด

โกหงวนเป็นชาวกระบี่โดยกำเนิด เป็นบุตรชายของกำนันชิ้น กิตติธรกุล อดีตกำนันตำบลอ่าวนางและอดีตประธานสภาจังหวัดกระบี่ โกหงวนศึกษาที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย หลังจากนั้นได้ไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจจาก Southern Louisiana University, Hammond ประเทศสหรัฐอเมริกา

5 บ้านใหญ่ตระกูลดังครองเก้าอี้นายก อบจ. นานที่สุด

หลังจากกลับจากสหรัฐอเมริกา โกหงวนได้เริ่มบุกเบิกธุรกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดกระบี่ โดยสร้างโรงแรมพีพี ไอส์แลนด์ คาบาน่า ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งแรกบนเกาะพีพี เมื่อปี พ.ศ. 2533 โรงแรมนี้เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว มีห้องพัก 162 ห้อง และยังคงเปิดให้บริการจนถึงปัจจุบัน ในปี พ.ศ. 2535 โกหงวนได้ก่อตั้งสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวกระบี่ขึ้นเป็นครั้งแรก และดำรงตำแหน่งนายกสมาคมคนแรก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการนำความเจริญด้านการท่องเที่ยวมาสู่จังหวัดกระบี่

โกหงวนยังได้ริเริ่มจัดเรือรับ-ส่งจากกระบี่ไปหมู่เกาะพีพี รวมถึงนำเที่ยวเกาะต่างๆ และดำน้ำ ทำให้กระบี่มีชื่อเสียงในระดับโลก อ่าวมาหยาซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ฮอลลีวู้ดเรื่อง The Beach ก็เป็นผลจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวของโกหงวน ต่อมาโกหงวนได้ยกเลิกการเดินเรือท่องเที่ยวให้ชาวบ้านทำมาหากิน และหันมาบุกเบิกทำเรือโดยสารขนส่งกระบี่-พีพี-ภูเก็ต และต่อมาวิ่งตรงกระบี่-ภูเก็ต เพื่อให้การขนส่งผู้โดยสารและสินค้ารวดเร็วขึ้น นอกจากธุรกิจการท่องเที่ยว โกหงวนยังทำกิจการด้านการเกษตร คือ สวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน

โกหงวนเริ่มเข้าสู่การเมืองท้องถิ่นโดยได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาจังหวัดกระบี่ และเป็นประธานสภาจังหวัดกระบี่ในปี พ.ศ. 2538 เมื่อมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัดในปี พ.ศ. 2540 โกหงวนก็ได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.กระบี่คนแรก โกหงวนได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.กระบี่ต่อเนื่องถึง 6 สมัย รวม 24 ปี ท่ามกลางการแข่งขันจากพรรคการเมืองต่างๆ แต่ไม่สามารถเอาชนะความศรัทธาที่ประชาชนมีต่อโกหงวนได้

ในระหว่างดำรงตำแหน่ง โกหงวนได้รับรางวัลมากมาย เช่น รางวัลพระปกเกล้าทองคำ 2 ครั้ง, โล่รางวัลพระปกเกล้า 4 ครั้ง, รางวัลด้านการป้องกันการทุจริตจาก ป.ป.ช., รางวัลองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต้นแบบด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตจากสำนักงาน ป.ป.ช., และรางวัลกินรีด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวจาก ททท.

ในปี พ.ศ. 2560 โกหงวนได้รับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง นอกจากนี้ โกหงวนยังดำรงตำแหน่งนายกสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการนำ อบจ. ทั่วประเทศในการปฏิรูปองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ผลงานและนโยบายที่โดดเด่น

การพัฒนาสนามบิน: โกหงวนมีส่วนร่วมในการประสานงานก่อสร้างสนามบินกระบี่จนเป็นสนามบินนานาชาติ ซึ่งมีสถิติเที่ยวบินมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของกรมการขนส่งทางอากาศ และรัฐบาลมีโครงการพัฒนาสนามบินเพิ่มเติมเพื่อรองรับผู้โดยสาร 8 ล้านคนต่อปี

การบริหารงานแบบ "ติดดิน": โกหงวนบริหารงานโดยเข้าถึงประชาชนทุกชนชั้น ด้วยนโยบาย "ติดดิน" เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย ไม่ต้องมีผู้คุ้มกัน

การช่วยเหลือชาวบ้าน: โกหงวนจัดงบประมาณสร้างฝายทดน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมในหลายตำบลของกระบี่

การส่งเสริมการศึกษา: โกหงวนให้ความสำคัญกับการศึกษา โดยจัดตั้งโรงเรียนของ อบจ. ให้การศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดี มีทุนการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยให้นักเรียนทุกคน โดยมีสัญญาว่าต้องกลับมาพัฒนาจังหวัดกระบี่

การรวมกลุ่มชาวจีน: โกหงวนรวบรวมชาวจีนที่เข้ามาทำมาหากินในกระบี่ตั้งเป็นตระกูล "แซ่เตียวก๊ก" เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลกันและร่วมมือกับราชการ

การสนับสนุนกีฬา: โกหงวนเป็นเจ้าของทีมฟุตบอล "กระบี่ เอฟซี" ซึ่งมีสปอนเซอร์หลักคือโรงแรมพีพี ไอส์แลนด์ คาบาน่า

ในการเลือกตั้งนายก อบจ. เมื่อปี พ.ศ.2563 โกหงวนลงสมัครเป็นสมัยที่ 7 โดยไม่มีคู่แข่ง ได้รับคะแนนเสียง 162,356 คะแนน โกหงวนยังนำทีม "รักกระบี่" ลงพื้นที่หาเสียงให้สมาชิกสภา อบจ. ในทุกพื้นที่ เพื่อให้ลูกทีมได้รับเลือกตั้งเข้ามาทุกเขต

สมศักดิ์ "โกหงวน" กิตติธรกุล ได้สร้างตำนานในฐานะนายก อบจ. 7 สมัย ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาจังหวัดกระบี่ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยว การศึกษา การเกษตร หรือการกีฬา โกหงวนเป็นที่รักและศรัทธาของชาวกระบี่ และเป็นแบบอย่างของผู้นำท้องถิ่นที่แท้จริง

"ซ้อสมทรง" แห่งกรุงเก่า

สมทรง พันธ์เจริญวรกุล หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ซ้อสมทรง" เป็นนักการเมืองหญิงที่ทรงอิทธิพลในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ซ้อสมทรงเกิดที่อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา สาขาพัฒนาชุมชน โดยครอบครัวของซ้อสมทรงทำธุรกิจค้าไม้และวัสดุก่อสร้าง ต่อมาได้สมรสกับนายวีระชัย พันธ์เจริญวรกุล ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (อบจ.) เป็นสมัยที่ 4

5 บ้านใหญ่ตระกูลดังครองเก้าอี้นายก อบจ. นานที่สุด

ซ้อสมทรงเริ่มต้นเส้นทางการเมืองจากการเป็นผู้ใหญ่บ้านแทนสามี ต่อมาได้เป็นหัวคะแนนคนสำคัญของมนตรี พงษ์พานิช ในพื้นที่อำเภอวังน้อย และได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ. พระนครศรีอยุธยา ถึง 3 สมัย ต่อมาซ้อสมทรงได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา เป็นสมัยที่ 4 โดยเอาชนะนายวัชรพงศ์ ระดมสิทธิพัฒน์ จากกลุ่มก้าวใหม่อยุธยา ด้วยคะแนน 245,457 ต่อ 114,063 คะแนน 

ซ้อสมทรงได้รับการสนับสนุนจากฐานเสียงที่แข็งแกร่งของตระกูล "พันธ์เจริญวรกุล" และความเป็น "บ้านใหญ่สีน้ำเงิน" (พรรคภูมิใจไทย) ทำให้ครองใจคนในพื้นที่มาหลายสิบปี

ซ้อสมทรงมีบทบาทในการผลักดันให้ลูกหลานเข้าสู่แวดวงการเมือง โดยมีลูก ๆ ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหลายตำแหน่ง ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ อาทิ: สุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สมศรี พันธ์เจริญวรกุล เป็นนายกเทศมนตรีตำบลลำตาเสา อำเภอวังน้อย สุวิมล พันธ์เจริญวรกุล เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อดิศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล เป็นรองนายก อบจ. อยุธยา พงษ์ปณต พันธ์เจริญวรกุล เป็นอดีตสมาชิกสภา อบจ. อยุธยา เขตอำเภอวังน้อย ซ้อสมทรงและครอบครัวมีความผูกพันกับพรรคภูมิใจไทย และมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนพรรคในพื้นที่อีกด้วย

สมทรง พันธ์เจริญวรกุล หรือ "ซ้อสมทรง" เป็นนักการเมืองหญิงที่ประสบความสำเร็จและมีอิทธิพลในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยการสนับสนุนจากครอบครัวและฐานเสียงที่แข็งแกร่ง ทำให้สามารถครองตำแหน่งนายก อบจ. ได้ถึง 4 สมัย นอกจากนี้ ซ้อสมทรงยังเป็นผู้ที่ส่งเสริมให้บุตรหลานเข้ามามีบทบาททางการเมืองอย่างต่อเนื่อง และยังเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอีกด้วย

เมืองเพชรซุ้ม "อังกินันทน์"

ชัยยะ อังกินันทน์ เป็นบุคคลสำคัญทางการเมืองท้องถิ่นของจังหวัดเพชรบุรี โดยมีบทบาทสำคัญในหลายด้าน

ชัยยะ อังกินันทน์ เป็นลูกชายคนโตของ ปิยะ (เดอะแป๋ง) อังกินันทน์ อดีต สส.เพชรบุรี ตัว ชัยยะ เองยังเป็นนายก อบจ.เพชรบุรีถึง 4 สมัยติดต่อกันอีกด้วย

โดยล่าสุด ชัยยะ อังกินันทน์ ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.เพชรบุรี ก่อนที่จะลาออกจากตำแหน่งในช่วงปลายเดือนกันยายน พ.ศ.2567 เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรีอีกครั้งในนาม "กลุ่มรวมใจเพชร"

5 บ้านใหญ่ตระกูลดังครองเก้าอี้นายก อบจ. นานที่สุด

ในการเลือกตั้ง ชัยยะ อังกินันทน์ ลงสมัครในนามกลุ่มรวมใจเพชร โดยมีคู่แข่งคือ กฤษณ์ แก้วอยู่ อดีต สส.เพชรบุรี

ชัยยะ อังกินันทน์ มีบทบาทในการเมืองระดับชาติ โดยเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังการจัดการแข่งขันวัวลานโชว์ในการประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดเพชรบุรี เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2567 นอกจากนี้ยังเป็นผู้ที่ได้รับการติดต่อจาก สุชาติ ชมกลิ่น และ พล.อ.กนิษฐ์ ชาญปรีชญา ให้จัดทีมผู้สมัคร สส.เพชรบุรี ในนามพรรคพลังประชารัฐ เมื่อปี พ.ศ.2562

โดยที่ผ่านมา ชัยยะ อังกินันทน์ เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้ง สส.เพชรบุรี ปี พ.ศ.2562 ซึ่งพรรคได้รับเลือกตั้งทั้ง 3 ที่นั่ง

ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2566 ชัยยะ อังกินันทน์ จัดทีมผู้สมัคร สส.เพชรบุรี ภายใต้สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งสามารถคว้าที่นั่ง สส. ได้ 2 ที่นั่ง

ชัยยะ อังกินันทน์ และตระกูลอังกินันทน์ เป็นตระกูลที่มีอิทธิพลทางการเมืองในเพชรบุรี โดยภรรยาของเขาคือ ธิวัลรัตน์ (กระแต) อังกินันทน์ สส.เพชรบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ธิวัลรัตน์เป็นลูกสาวของ อันธีร์ อักษรนันทน์ อดีต สส.เพชรบุรี ทั้ง ชัยยะ และ จ.อ.อภิชาติ แก้วโกศล สส.เพชรบุรี เขต 3 ต่างก็เป็นคู่เขยของตระกูลอักษรนันทน์.

ในอดีตตระกูลอังกินันทน์เคยสนับสนุนพรรคการเมืองของทักษิณ แต่ต่อมาได้เปลี่ยนไปสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

โดยการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่จะมาถึง ชัยยะ อังกินันทน์ และทีม สจ.รวมใจเพชร มีแนวโน้มที่จะมีโอกาสที่จะได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.อีกสมัย

แม้ว่าการเมืองระดับชาติจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่การเมืองท้องถิ่นในเพชรบุรีนั้นยังคงยึดติดกับตัวบุคคล ทำให้ชัยยะ อังกินันทน์ยังคงมีฐานเสียงที่มั่นคง

"วิลาวัลย์" บ้านใหญ่ลุ่มน้ำบางประกง

ตระกูลวิลาวัลย์เป็นตระกูลที่มีบทบาทสำคัญในการเมืองของจังหวัดปราจีนบุรีมาอย่างยาวนานกว่า 40 ปี โดยมี สุนทร วิลาวัลย์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ "โกทร" เป็นผู้นำคนสำคัญของตระกูล

สุนทร วิลาวัลย์ เริ่มต้นเส้นทางการเมืองด้วยการเป็นนายกเทศมนตรีเมืองปราจีนบุรี ในปี พ.ศ.2523 และเป็นหัวคะแนนคนสำคัญของบุญส่ง สมใจ อดีต สส.ปราจีนบุรี

บทบาทในระดับชาติสุนทรได้รับเลือกเป็น สส.ปราจีนบุรีครั้งแรกในปี พ.ศ.2526 สังกัดพรรคราษฎร ก่อนจะย้ายไปอยู่พรรคชาติไทยในปี พ.ศ.2529 และเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในรัฐบาล พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในปี พ.ศ.2539

5 บ้านใหญ่ตระกูลดังครองเก้าอี้นายก อบจ. นานที่สุด

สุนทรได้ย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองหลายพรรค ได้แก่ พรรคความหวังใหม่, พรรคไทยรักไทย, พรรคมัชฌิมาประชาธิปไตย และพรรคภูมิใจไทย

หลังจากที่น้องสาวคือ บังอร วิลาวัลย์ ("ป้าอ้วน") ดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ปราจีนบุรีมา 4 สมัย สุนทรได้กลับมาลงสมัครและได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ปราจีนบุรีในปี พ.ศ. 2563

ทายาทโดยสายเลือดของโกทรไม่สามารถลงสมัครได้ โดยกนกวรรณ วิลาวัลย์ ("ครูโอ๊ะ") ลูกสาวของสุนทร ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจากกรณีรุกป่าเขาใหญ่

มีบุคคลหลายคนที่อาจได้รับการสนับสนุนจากตระกูลวิลาวัลย์ให้ลงสมัครนายก อบจ.ปราจีนบุรี ได้แก่ ธนาวัฒน์ วารีสมานคุณ รองนายก อบจ.ปราจีนบุรี, ปวรรณ วิลาวัลย์ ศรีจันทร์งาม ลูกชายของกนกวรรณ, และ ณภาภัช อัญชสาณิชมน ("สจ.จอย") ส.อบจ.ปราจีนบุรี

การเสียชีวิตของ สจ.โต้ง ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ ลูกบุญธรรมของสุนทร อาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองท้องถิ่นในปราจีนบุรีเป็นครั้งแรก

ตระกูลวิลาวัลย์มีอิทธิพลอย่างมากในการเมืองปราจีนบุรี โดยมีสุนทร วิลาวัลย์เป็นผู้นำที่สำคัญและดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้งในระดับชาติและท้องถิ่นมาอย่างยาวนาน การประกาศวางมือทางการเมืองของสุนทรและการเสียชีวิตของ สจ.โต้ง อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในจังหวัดปราจีนบุรี นอกจากนี้ คดีรุกป่าเขาใหญ่ของกนกวรรณ วิลาวัลย์ และสุนทร วิลาวัลย์ ยังส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเมืองของตระกูลด้วย

“ไตรสรณกุล” บ้านใหญ่เมืองภูเขาไฟ

ตระกูลไตรสรณกุลเป็นตระกูลที่มีบทบาทสำคัญในการเมืองศรีสะเกษ โดยมีเครือข่ายและเครือญาติที่เกี่ยวข้องหลายคน ซึ่งมีอิทธิพลต่อการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ

จุดเริ่มต้นของตระกูล เริ่มจาก ฮวด ไตรสรณกุล เป็นผู้เริ่มต้นธุรกิจการเกษตรในอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และเคยเป็น ส.จ. ศรีสะเกษ ในปี พ.ศ. 2518 เนื่องจากข้อจำกัดด้านคุณสมบัติทางการเมืองในปี พ.ศ. 2522 ฮวดจึงส่งต่อภารกิจทางการเมืองให้ลูกชายคนโตคือ วีระ ไตรสรณกุล

สำหรับ วิชิต ไตรสรณกุล เป็นลูกชายของฮวด เคยเป็น ส.จ. ศรีสะเกษ และได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 และดำรงตำแหน่งต่อเนื่องมา 6 สมัย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการผูกขาดตำแหน่งนายก อบจ. ของตระกูลเป็นเวลานานกว่า 20 ปี

5 บ้านใหญ่ตระกูลดังครองเก้าอี้นายก อบจ. นานที่สุด

ในการเลือกตั้งนายก อบจ. ที่กำลังจะมาถึง วิชิตลงสมัครอีกครั้งเพื่อรักษาตำแหน่ง โดยมีพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง แม้ว่าพรรคจะประกาศว่าไม่ส่งผู้สมัคร

สมาชิกคนอื่นๆ ในตระกูลไตรสรณกุล ล้วนมีบทบาททางการเมืองไม่ว่าจะเป็น ธีระ ไตรสรณกุล (ลูกชายคนที่ 2 ของฮวด) เป็น สส.ศรีสะเกษ 3 สมัย สังกัดพรรคเพื่อไทย ต่อมาได้ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย อุดมลักษณ์ เพ็งนรพัฒน์ (ลูกสาวคนเล็กของฮวด) เป็นภรรยาของ จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ และเคยเป็น สส.ศรีสะเกษ สังกัดพรรคภูมิใจไทย จาตุรงค์ เพ็งนรพัฒน์ (สามีของอุดมลักษณ์) เคยเป็น สส. ศรีสะเกษ สังกัดพรรคเพื่อไทย ต่อมาได้ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย

ไตรศุลี ไตรสรณกุล (ลูกสาวของวิชิต) ดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อมาเป็นเลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เคยลงสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ชิตพล ไตรสรณกุล (ลูกชายของวิชิต) เคยเป็น ส.อบจ.ศรีสะเกษ เขต อ.กันทรลักษ์ จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล (ลูกสาวของธีระ) ทำงานเป็นผู้ช่วย สส.ในพื้นที่ อ.ขุนหาญ และ อ.ภูสิงห์

ตระกูลไตรสรณกุลเคยสนับสนุนพรรคเพื่อไทย แต่ต่อมาได้ย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย ทำให้เกิดการแข่งขันทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทยอย่างเข้มข้น

การเลือกตั้งนายก อบจ. ในอนาคตจะเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญของตระกูลไตรสรณกุล เพื่อรักษาตำแหน่งที่ผูกขาดมาอย่างยาวนาน พรรคเพื่อไทยมีเป้าหมายที่จะล้มบ้านใหญ่ตระกูลไตรสรณกุล โดยมองว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการเดิมพันที่สำคัญ

การเลือกตั้งนายก อบจ. ครั้งนี้จึงเปรียบเสมือน "ตีงูเห่าภาค 2" โดยมีเป้าหมายที่จะโค่นล้มอำนาจของตระกูลไตรสรณกุลอย่างเบ็ดเสร็จ พรรคเพื่อไทยได้ส่ง วิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ลงสมัคร โดยมี สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ช่วยหาเสียง

วิชิต ไตรสรณกุล ต้องเน้นย้ำถึงความสำคัญของการมีผู้นำที่เข้าใจท้องถิ่นและเติบโตมาจากผืนดินศรีสะเกษเอง

จะเห็นได้ว่าตระกูลไตรสรณกุลมีเครือข่ายที่เข้มแข็งในพื้นที่ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ มีการส่งต่อบทบาททางการเมืองจากรุ่นสู่รุ่น แต่การย้ายไปสังกัดพรรคภูมิใจไทยทำให้เกิดการแข่งขันทางการเมืองกับพรรคเพื่อไทยอย่างเข้มข้น และการเลือกตั้งนายก อบจ. ครั้งนี้เป็นการวัดพลังกันระหว่างสองพรรคเพื่อล้มบ้านใหญ่

ตระกูลบ้านใหญ่ทั้งหมดรวมไปถึงบุคคลที่ยกมาเป็นเพียงตัวอย่างบ้านใหญ่ที่เด่นๆ โดยพยายามเลือกมาจากทุกภาคให้เห็นถึงการเมืองในแต่ละพื้นที่ สะท้อนให้เห็นว่าการเมืองท้องถิ่นผูกขาดพื้นที่มาอย่างยาวนาน โดยปัจจัยอาจมาจากทั้งเครือข่ายระบบอุปถัมภ์ หรือรวมไปถึงผลงานที่ต้องตาต้องใจประชาชนทำให้พวกเขาสามารถรักษาเก้าอี้นายก อบจ. ไว้อย่างยาวนานก็เป็นได้

อ้างอิง

คมชัดลึก / TheThaiger / กรุงเทพธุรกิจ / TNews / 

related