ในวันนี้และพรุ่งนี้ (13-14 ธันวาคม พ.ศ.2567) พรรคเพื่อไทยจัดโครงการเสริมศักยภาพ สส. และบุคลากรทางการเมืองที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดย ทักษิณ ชินวัตร ได้ขึ้นพูดกับแกนนำพรรค รัฐมนตรี และ สส.พรรคเข้าร่วมสัมมนา
ทักษิณกล่าวถึงประเด็นการเมืองว่า พรรคร่วมรัฐบาล หลายพรรคเคยร่วมกันมาก็เยอะ ความสัมพันธ์ก็ควรจะดี แต่บางคนตื่นเต้นกับเรื่องที่คนจะมาร้องมาเดินขบวน แต่ตอนนี้ผมไม่หมูแล้วนะ คนที่ร้องพรรค ถ้าร้องแล้วไม่สำเร็จก็เตรียมถูกเช็กบิลได้เลย บางคนเมีย 3 ลูก 5 ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศในมหาวิทยาลัยแพงๆ เอาเงินมาจากไหน อาชีพก็ไม่มี ถึงเวลาที่เอาต้องลงไปตรงนี้ ไม่ใช่เอาจริงเอาจังกับเรื่องไร้สาระ
หลายคนตามฟ้องตัวเอง ก็ยกหูโทรหาว่าขอให้จบ แต่ถ้าไม่จบก็ไม่จบ ก็เตะออกไป นอกจากนี้ นายทักษิณ ยังกล่าวถึงการโหวต พ.ร.ก. ในสภาผู้แทนราษฎร แต่มีบางพรรคร่วมแกล้งป่วย ซึ่งถือว่าไม่ตรงไปตรงมา ไม่เห็นว่านโยบายของรัฐบาลสำคัญ
”ตรงไปตรงมา อยู่ก็อยู่ ถ้าอยู่ก็สู้ด้วยกัน ถ้าไม่อยู่ก็ส่งใบลาออก…ขนาดหมูยังรู้ว่าผมไม่หมูแล้ว… คนที่ร้องพรรค ถ้าร้องแล้วไม่สำเร็จก็เตรียมถูกเช็กบิลได้เลย“
นอกจากประเด็นการเมือง ทักษิณยังพูดถึงประเด็นเศรษฐกิจ อาทิ การขาดดุลการค้ากับอเมริกา, การขึ้นมาของ โดนัลด์ ทรัมป์, การลดค่าพลังงานไฟฟ้า รวมถึงบิตคอยน์
ทักษิณในฐานะวิทยากรรับเชิญ กล่าวว่า ตอนนี้ตัวเอง 75 ปีแล้ว เวลาเหลือไม่มาก อาจจะสัก 40 ปี สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ ทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง เพราะตอนนี้ไทยได้ดุลการค้าจากสหรัฐอเมริกา ไทยต้องระวังเรื่องการขึ้นภาษี ศึกษาเรื่อง FTA และศึกษาว่าประเทศไทยจะรับบิตคอยน์หรือ Stable Coin ได้ไหม เป็นการเพิ่มเม็ดเงินโดยไม่ต้องไปพิมพ์แบงก์ที่ไหน แถมยังทำให้เงินไหลเวียนในเศรษฐกิจ
ถึงแม้ GDP จะโตร้อยละ 4.5 ขึ้นไป แต่ก็ยังไม่พอใจเพราะถ้ายังไม่เกินร้อยละ 5 ยังไม่ปลอดภัย เพราะวันนี้หนี้สาธารณะไทยเยอะมาก ถ้าไม่ทำ GDP ให้โตก็ต้องลดการขาดดุลหรือเก็บภาษีให้เพียงพอ เป็นเรื่องยาก แต่ไม่เหลือบ่ากว่าแรงของพรรคเพื่อไทย ดังนั้นปีหน้าต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ ดัน GDP ขึ้นและกดหนี้ลงให้ได้ โดยเฉพาะรัฐวิสาหกิจ และบางอย่างต้องให้เอกชนมาลงทุนแทน เช่น การป้องกันน้ำท่วม เป็นต้น
ทักษิณยังอธิบายว่าการสื่อสารต้องให้ชัดเจน เช่น เรื่องการขึ้นภาษี 15% เราต้องอธิบายให้คนเข้าใจว่าเศรษฐกิจไทยมันเชื่อมกับเศรษฐกิจโลก ให้ภาษีเราเป็นไปตามสากลและแข่งขันได้ เราเปิดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน แล้วถ้าเราเอา 15% ให้เขามาใช้จ่ายในประเทศไทย ไม่ต้องมาทำมาหากินที่เมืองไทยแล้วกลับไปจ่ายในต่างประเทศจะดีกว่าไหม ขณะเดียวกันเราต้องคิดว่าเราจะทำอย่างไรให้คืนภาษีอย่างมีประสิทธิภาพให้คนที่มีรายได้น้อ
ทักษิณกล่าวอีกว่า วันนี้เราต้องแก้ปัญหาเรื่องหนี้สินและป้องกันการผูกขาด วันนี้ค่าไฟฟ้าเราถือว่าแพงมากที่สุด เราต้องรีดออกว่าส่วนไหนไม่จำเป็นกับประชาชน เพื่อให้ค่าไฟถูกที่สุด เพราะค่าไฟแพง ต้นทุนก็สูง เราต้องลดการผูกขาดเพื่อให้สิทธิแก่ประชาชน นักธุรกิจไทยออกไปข้างนอกน้อยไปหน่อย เราต้องส่งเสริมภาคเอกชนให้ออกไปแข่งขันข้างนอกจะได้เติบโต เราต้องทำตัวเราให้โตขึ้นใหญ่ขึ้น ที่ผ่านมาเราแคระแกร็นมาก
เช่นเดียวกัน วันนี้ Data Center เหมือนโรงกลั่นน้ำมัน แล้ว AI คือน้ำมันของดิจิทัล ไทยต้องเป็น AI Hub หลายธุรกิจสนใจมาลงทุนในประเทศไทย แต่มาพร้อมเงื่อนไข Green Energy และราคาค่าไฟที่ถูกลง เราจึงต้องมาคิดว่าจะทำอย่างไร ต้องสร้างแรงจูงใจให้ข้าราชการเพื่อมาสนับสนุนการทำงานของรัฐบาล
ทักษิณยังกล่าวถึงโครงการบ้านเพื่อคนไทย เพราะคนกรุงฯ ต้องเสียเวลาขึ้นรถเมล์มาทำงาน ไม่มีเวลาดูแลลูก จึงเป็นที่มาของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ประกอบกับคนทำงานเก็บเงินไปเรื่อยๆ ก็ไม่มีเงินดาวน์บ้าน แต่ถ้าไม่ต้องดาวน์ รัฐเปลี่ยนที่ว่างเปล่ามาทำบ้านให้คนเช่า 99 ปี พวกเขาก็จะมีบ้าน ฝันเป็นจริง มีบ้าน ราคาค่าเดินทางถูก ประชาชนก็จะมีบ้านอยู่ มีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยตั้งเป้าจะสร้าง 300,000 หลังในเฟสแรก จากเป้าหมายทั้งหมดหนึ่งล้านหลัง เป็นบ้านคนตั้งตัว ไม่ใช่บ้านคนจน ทำให้คนไทยมีฝันและเป็นฝันที่ไปได้ไกลขึ้น
นายทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า อีกหน่อยคนไทยต้องควบคุม Ai ให้ได้ ใช้ Ai ให้เป็น ให้เด็กไทยเรียนวิชาที่มีตรรกะในการสั่งงาน Ai ให้ได้ ที่พูดมาไม่ยาก แต่ต้องให้โอกาสคนไทย นอกจากนี้เรายังต้องเอาสิ่งที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาบนดินเพื่อเก็บภาษี เช่น พนันออนไลน์ ขณะที่เรากำลังจะทำดิจิทัลวอลเล็ตก็ต้องให้คนมีสมาร์ทโฟน และเพื่อทำให้สังคมดิจิทัล เราจะควบคุมสิ่งที่อยู่นอกกฎหมายให้ถูกต้องมากขึ้น
“ผมไม่ได้ครอบงำ แต่ถูกลูกสาวครอบงำ พ่อกับลูกสาวคนเล็กมันแพ้ทางกัน พ่อทำนั่นให้หน่อย ทำนี่ให้หน่อย ตัวเองเงินเดือนก็น้อย 700 บาทเพราะค่าผู้ช่วยหาเสียงวันละ 350 บาท แต่ช่วงนี้ดีหน่อยงานชุก ไม่แน่ใจว่าศรีสะเกษ หรือเชียงใหม่มีเงินจ้างหรือเปล่า?” ทักษิณทิ้งท้าย