svasdssvasds

ทักษิณ เคยเตือน ม.112 อย่ารื้อโครงสร้าง "ธนาธร" โต้แค่ข้ออ้างไม่ร่วมรัฐบาล

ทักษิณ เคยเตือน ม.112 อย่ารื้อโครงสร้าง "ธนาธร" โต้แค่ข้ออ้างไม่ร่วมรัฐบาล

‘ทักษิณ’ เผยเคยคุยกับ ‘ธนาธร’ ปม ม.112 - เตือนอย่ารื้อโครงสร้างมากเกินไป ย้ำพรรคร่วมรัฐบาลลงสัตยาบันไม่แตะ ม.112 "ธนาธร" โต้ไม่ใช่แกนนำก้าวไกลมุทะลุ แต่มีเหตุผลอื่นที่จะไม่ร่วมรัฐบาลกัน แล้วใช้ 112 เป็นข้ออ้าง

ที่ จ.อุดรธานี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สัมภาษณ์ถึงการปราศรัยเรื่องความเท่าเทียมบนเวที และตอนนี้อยู่ที่เมืองหลวงของคนเสื้อแดง จะสามารถทวงคืนความยุติธรรมให้กับนักโทษทางการเมืองคนอื่นได้อย่างไร ว่า เรื่องนี้มีความซับซ้อนหลายอย่าง ที่จริงแล้วเรื่องการเมือง 

"หลังจากที่ผมโดนปฏิวัติ ก็ไล่ห้ำหั่นกันในทางการเมือง และต่อมาที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งโดนปฏิวัติเหมือนกัน หลังจากนั้นก็ผสมโรงด้วยคนต่างๆ ซึ่งวันนี้ผมก็พูดบนเวที และมีความชัดเจนมากขึ้น"

เมื่อถามถึง การนิรโทษกรรมที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่เอาด้วยในประเด็นมาตรา 110 และมาตรา 112 นายทักษิณ กล่าวว่า คดีเกี่ยวกับมาตรา 112 เป็นเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลให้สัตยาบันไว้ว่า เราจะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เราจะไม่แตะเรื่องมาตรา 112 แต่จริงๆ แล้วปัญหาอยู่ที่การบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งตนก็เป็นเหยื่อรายหนึ่ง ในการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 112 

คนที่รับคดีครั้งแรกบอกว่า เดี๋ยวจะหาว่าไม่จงรักภักดี ให้ฟ้องไปก่อน ทั้งที่หลักฐานไม่มี หากคนที่สองไม่ฟ้องเดี๋ยวก็จะโดนอีก จึงฟ้อง โดยที่ไม่ได้ดูความถูกต้องของพยานหลักฐาน จึงทำให้การจงรักภักดี และรักสถาบันไม่ถูกต้อง การจงรักภักดีที่ถูกต้องคือ การรักษากฎหมายที่เป็นธรรม นี่คือสิ่งที่ต้องแก้ไข แต่ก็ไม่ง่ายในการแก้ ซึ่งต้องใช้เวลา
 

เมื่อถามว่า ในสมัยหน้าร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ ทั้งพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชนจะผลักดันหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้ความเห็นเรื่องนี้ ตนไม่อยากมีบทบาท เดี๋ยวจะมีการหาว่าเพราะคนนั้น คนนี้ ถ้าเราอยู่บนหลักการ และทุกอย่างก็มีทฤษฎี ก็จะไม่เป็นแบบนี้ แต่เนื่องจากเราไปมองว่าเป็นเรื่องของพวกใคร พวกมันมากกว่า จึงได้เป็นปัญหา ถ้าเมื่อไหร่เราจิตใจนิ่งสงบ คิดถึงหลักการเป็นหลัก ไม่คิดถึงพวกใครพวกมัน ก็จะดีขึ้น

ในแต่ละเหตุการณ์มีบริบทเหมือนหรือต่างกัน อย่างไรทั้งเหตุการณ์รัฐประหารปี 2549, 2557 จนถึงพรรคการเมืองโดนยุบเพราะมีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 นายทักษิณ กล่าวว่า ตนเคยคุยกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ว่า ตนก็โดนยุบไป 3 พรรค ต้องไปอยู่ต่างประเทศ 17 ปี ดังนั้น ขอให้เราช่วยทำงานให้บ้านเมือง อย่าพยายามไปรื้อโครงสร้างให้มากเกินไป ถ้าเราแก้ปัญหาด้วยหลักการ และเอาบ้านเมืองให้อยู่ได้ จะดีที่สุด

“อย่าไปคิดถึงสิ่งที่มีอยู่ สิ่งที่คนไทยเคารพนับถือ ซึ่งเป็นโครงสร้างสำคัญของสถาบัน เราต้องจรรโลงอย่างเดียว ตนไม่ได้บอกว่านายธนาธร หรือพรรคก้าวไกลไม่จงรักภักดี แต่ต้องยึดหลักให้ถูกต้อง อย่าไปมุ่งหาเสียง บางทีจุดที่โฆษณามันอันตราย กว่าความตั้งใจที่จะทำ” นายทักษิณ กล่าว

หากจะแก้ปัญหาโดยไม่แตะโครงสร้างจะมีวิธีการอย่างไร นายทักษิณ กล่าวว่า ต้องทำตามหลักการของกฎหมาย ถ้ากฎหมายไม่ดีก็ต้องแก้ไขกฎหมายไปทีละขั้นตอน ไม่ใช่บอกว่ากฎหมายไม่ดี ต้องไม่ทำเลย เพราะกฎหมายมันมีอยู่

หลังจากนั้น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thanathorn Juangroongruangkit - ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ระบุว่า 

คุณทักษิณรู้ดีที่สุด ว่าเหตุผลที่ก้าวไกลและเพื่อไทยไม่ได้ร่วมรัฐบาลกัน ไม่เกี่ยวข้องกับมาตรา 112 เลย

สิ่งที่คุณทักษิณกล่าว อาจทำให้คนทั่วเข้าใจไปได้ว่าผมเคยคุยกับคุณทักษิณเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 หรือมีความคิดรุนแรงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งในความเป็นจริงเราไม่ได้พูดคุยตกลงอะไรกันเรื่องนี้เลย

การพูดคลุมเครือแบบที่คุณทักษิณกล่าวในวันนี้ ยังเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้งต่อพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน เพื่อพยายามสร้างความเข้าใจในหมู่ประชาชนว่าเหตุที่ดีลร่วมรัฐบาลล่ม เป็นเพราะพรรคก้าวไกลไม่ยอมลดราวาศอกเรื่อง 112

112 ไม่ใช่เงื่อนไขการร่วมรัฐบาล

ไม่ใช่ว่าก้าวไกลเสนอให้การแก้ไข 112 เป็นเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล และเมื่อถูกทักท้วงจากพรรคเพื่อไทยและพรรคอื่นแล้วก็ไม่ยอมถอย

112 ไม่เคยอยู่ในเงื่อนไขตั้งแต่แรกต่างหาก

ไม่มีอยู่ใน MoU ร่วมรัฐบาลที่เซ็นร่วมกันและเป็นที่รับรู้ต่อสาธารณะ

คุณทักษิณรู้ดีที่สุด

ไม่ใช่แกนนำก้าวไกลมุทะลุ ไม่มีวุฒิภาวะ แต่มีเหตุผลอื่นที่จะไม่ร่วมกัน แล้วใช้ 112 เป็นข้ออ้างต่างหาก

ในทางกลับกัน คุณทักษิณเอง น่าจะเป็นคนที่เข้าใจปัญหาโครงสร้างดีที่สุด แทนที่จะร่วมแก้ปัญหา กลับเลือกเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา

ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล เราไม่เคยโฆษณาหรือใช้เรื่อง 112 เป็นประเด็นหลักในการรณรงค์เพื่อคะแนนนิยมในการเลือกตั้ง

เราตอบหรือพูดเรื่อง 112 อย่างซื่อตรงเมื่อถูกสื่อมวลชนหรือประชาชนถามเท่านั้น

ผมทราบดีว่าการแก้ไขปัญหาโครงสร้างที่สั่งสมมาหลายสิบปีของประเทศไม่ใช่สิ่งที่ “ลัดขั้นตอน” ได้ แต่ต้องทำงานความคิดอย่างหนักและต่อเนื่อง เพื่อให้สังคมเห็นชอบร่วมกัน และแก้ปัญหาอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ไม่แก้ปัญหาโครงสร้าง ก็ปะผุประเทศไทยกันต่อไป ประเทศจะเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน มีแต่การให้คนในสังคมมีวุฒิภาวะพอ กล้ายอมรับปัญหา เผชิญหน้ากับมัน และค่อยๆ พูดคุยหาทางออกร่วมกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

related