SHORT CUT
รมว.กลาโหม เผย "คดีตากใบ" จบแล้ว ขออย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ ผ่านมาเกือบ 20 ปี ไม่เคยหยิบยก จะมาพุ่งเป้าให้ "แพทองธาร" รับผิดชอบตอนนี้ รัฐบาลได้ทำเต็มที่แล้ว ลั่น "ช่วงคดีกำลังถึงที่สุดโดยธรรมชาติไม่มีใครจะยอมขึ้นศาลหรอก"
วันที่ 26 ตุลาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวหลังคดีตากใบได้หมดอายุความไปแล้วเมื่อวานนี้ (25 ต.ค. 67) โดยกล่าวว่า ความกังวลเรื่อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีมาตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะความรุนแรงก็ยังไม่ได้จบ ทั้งๆ ที่ฝ่ายรัฐตั้งใจจะปิดคดีนี้ตั้งแต่ 4-5 ปีแรกหลังเกิดเหตุ แต่บางครั้งการพูดความจริงไม่หมดก็อาจจะเป็นปัญหาได้ ไม่ว่าจะจากใครก็ตาม ซึ่งไม่ได้กล่าวหาใคร
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ศาลได้ตัดสินคดีในช่วง 5 ปีแรก แต่ผ่านมาเกือบ 15 ปี ไม่มีการหยิบยก ไม่ว่าผ่านรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีหลายสมัย ดังนั้นการจะพุ่งเป้าที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ขณะนั้นท่านอายุได้เพียงสิบกว่าขวบ แต่โดยบทบาทความเป็นรัฐ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ความสำคัญ ไม่มีใครปรารถนาให้เรื่องยืดเยื้อเป็นปัญหาในอนาคต ก็พบว่าไม่สามารถทำตามที่หลายฝ่ายร้องขอได้ ทั้งการดำเนินคดีและการออก พ.ร.ก. ตามที่มีผู้เสนอ นายกรัฐมนตรีก็ได้กล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์นี้ และกำชับให้ใช้เป็นบทเรียน นำมาศึกษาว่าจะทำให้กระบวนการยุติธรรมที่จะทำให้ดีกว่านี้ได้คืออะไร
"จริงๆ ถ้าคดีต่อเนื่องมาตั้งแต่ 15 ปีก่อน กระบวนการที่จะดำเนินการต่างๆจะดีกว่านี้ ไม่ใช่เพิ่งมาเรียกร้องเอาช่วงสุดท้าย ซึ่งเป็นช่วงที่คดีกำลังถึงที่สุดโดยธรรมชาติ 'ไม่มีใครยอมขึ้นศาลหรอก' อันนี้ไม่ได้หมายความว่าผมไปเชียร์เขา แต่ชี้ให้เห็นว่ามันเกิดความยากลำบากในการติดตาม ผมคิดว่าความรุนแรงในภาคใต้ก็ยังคงมีอยู่ ตราบใดที่เรายังทำงานไม่บรรลุผล ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีตากใบว่าพอผลคดีตากใบเป็นแบบนี้แล้วจะทำให้เกิดความรุนแรงขึ้นต่อเนื่อง"
ส่วนการที่มี ส.ส.พรรคหนึ่ง จะให้มีการเยียวยาผู้สูญเสียนั้น นายภูมิธรรม มองว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องนำไปคิด แต่ไม่ใช่เรื่องเงิน รัฐบาลก็ใช้งบประมาณ 600 ถึง 700 ล้านบาทในการเยียวยาผู้สูญเสียไปแล้ว หากจะมาพูดถึงเรื่องนี้อีกก็คงจะเป็นการต่อความยาวสาวความยืด ซึ่งรัฐบาลก็ยืนยันว่าเงินที่จ่ายไปไม่สามารถซื้อชีวิตผู้ที่รักของกลุ่มผู้สูญเสียกลับมาได้ เหนือสิ่งอื่นใดอย่าให้ประเด็นเหล่านี้มาเป็นเครื่องมือในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มผู้หวังประโยชน์
รมว.กลาโหม ย้ำว่า เรื่องทั้งหมดนี้เป็นความมั่นคงของรัฐไทย ไม่ใช่รัฐบาลไทย วันนี้จึงขอร้องว่าอย่าใช้นำมาเป็นประเด็นเคลื่อนไหวทางการเมือง ขอให้คิดถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ
ผู้สื่อข่าวยังถามถึงเหตุการณ์ที่นายตำรวจถูกลอบยิงระหว่างละหมาด อาจจะเป็นผลพวงจากคดีตากใบหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่อาฟเตอร์เอฟเฟกต์อะไร เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ขอว่าอย่านำคดีตากใบไปเกี่ยวโยง อย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ พอจะทำให้ความรู้สึกถึงขนาดนี้มันสูงขึ้น ทำให้เหตุการณ์ไม่จบ รัฐก็ต้องไปดูว่าบรรเทาเบาบางอย่างไรไม่ให้ปัญหานี้เกิดขึ้นอีก