svasdssvasds

นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ต่าง บัตรสวัสดิการรัฐ?

นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ต่าง บัตรสวัสดิการรัฐ?

จัดหนักรัฐบาลใหม่! ทีม ศก.​ พรรคพลังประชารัฐ ‘’อุตตม-สนธิรัตน์-ธีระชัย“ แพ็คทีมวิพากษ์ นโยบาย ศก. รัฐบาลใหม่ ยก ดิจิทัลวอลเล็ต มีจุดบกพร่องเยอะมาก ไม่ต่าง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มอง เปลี่ยนตลอด ทั้งวิธีการ-กลุ่มเป้าหมาย-เกิดพายุหมุนลำบาก ไม่สมเป็นนโยบายเรือธง

SHORT CUT

  • อดีตรัฐมนตรีเศรษฐกิจ พปชร. ตั้งโต๊ะแถลงตรวจสอบนโยบายรัฐฯ เน้นนโยบายแก้หนี้ ดิจิทัลวอลเล็ต กองทุนวายุภักษ์
  • "สนธิรัตน์" ตั้งข้อสังเกต ดิจิทัลวอลเล็ตเปลี่ยนไปมา ทั้งไทม์ไลน์และวิธีการดำเนินโครงการของรัฐบาล
  • วิจารณ์ ดิจิทัลวอลเล็ตที่เปลี่ยนมาแจกเงินสด และเพิ่มกลุ่มผู้พิการเข้ามา ไม่ต่างกลับบัตรสวัสดิการรัฐที่พวกตนเคยทำสำเร็จ

จัดหนักรัฐบาลใหม่! ทีม ศก.​ พรรคพลังประชารัฐ ‘’อุตตม-สนธิรัตน์-ธีระชัย“ แพ็คทีมวิพากษ์ นโยบาย ศก. รัฐบาลใหม่ ยก ดิจิทัลวอลเล็ต มีจุดบกพร่องเยอะมาก ไม่ต่าง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มอง เปลี่ยนตลอด ทั้งวิธีการ-กลุ่มเป้าหมาย-เกิดพายุหมุนลำบาก ไม่สมเป็นนโยบายเรือธง

วันที่ 17 กันยายน 2567 ทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ​ ประกอบด้วย ดร.อุตตม สาวนายน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ร่วมกันแถลงข่าวตรวจสอบนโยบายรัฐบาลนายกแพทองธารที่แถลงต่อรัฐสภา โดยมุ่งตรงไปยังนโยบายเศรษฐกิจ ทั้งการแก้หนี้ ดิจิทัลวอลเล็ตและกองทุนวายุภักษ์

นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ต่าง บัตรสวัสดิการรัฐ?

ด้านนายอุตตม กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับรัฐบาลที่กำหนดการแก้หนี้เป็นนโยบายเร่งด่วนลำดับแรกของคณะรัฐมนตรี แต่อย่างไรก็ตาม มีข้อเสนอแนะว่า การแก้หนี้ให้บรรลุผลนั้น ต้องทำครบวงจร เช่น รัฐบาลต้องผนึกธนาคารแห่งประเทศไทย สถาบันการเงินเอกชน/รัฐ เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างยืนในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง เพื่อบรรเทาความเดือนร้อน เติมกำลังให้ประชาชนและเศรษฐกิจ สร้างอนาคตประเทศ ทั้งนี้ โครงการที่ทำต้องเข้าถึงประชาชนฐานรากทั่วทั้งประเทศ บริการเสมอภาคเป็นธรรม พร้อมทั้งมีการนำเทคโนโลยีมาร่วมขับเคลื่อน

นายอุตตม กล่าวถึงมาตรการที่ใช้ขับเคลื่อนว่า “รัฐมนตรีการคลังควรหารือกับ ธปท. ถึงแนวทางการลดเงินที่เก็บเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ (FIDF) เหลือ 0.23% ต่อ 6 เดือน ชั่วคราว 5 ปี เพื่อนำเงินที่ประหยัดได้ไปลด ยอดหนี้ (Haircut) สำหรับลูกหนี้ที่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/เดือน และต้องเจรจาให้ธนาคารต้องนำกำไรสะสมมาร่วมด้วยไม่น้อยกว่า 25% ของหนี้ที่ลดให้แก่ลูกหนี้ อันเป็นการร่วมมือกันแก้ปัญหาระหว่างรัฐกับเอกชน” นายอุตตม กล่าวทิ้งท้าย

นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ต่าง บัตรสวัสดิการรัฐ?

นายสนธิรัตน์ ตั้งข้อสังเกตว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเป็นนโยบายที่เปลี่ยนมาโดยตลอด ตั้งแต่รูปแบบที่เดิมทีจะแจกเป็นเงินดิจิทัล ทั้งที่มีหลายฝ่ายท้วงติง มาเป็นเงินสด มีการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายที่จะได้รับการแจกเงิน กระทั่งการเปลี่ยนแปลงของประเภทสินค้าที่จะใช้จ่าย เรียกได้ว่า ทั้งทามไลน์และวิธีการดำเนินโครงการที่รัฐบาลประกาศว่าเป็นนโยบายเรือธงมีการขยับตลอดเวลา

นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ต่าง บัตรสวัสดิการรัฐ?

“ขณะนี้ การดำเนินโครงการมาถึงจุดที่ประกาศว่า จะแจกเป็นเงินสดให้กับประชาชนกลุ่มเปาะปราง 14.5 ล้านคน  เพียงเพิ่มกลุ่มคนพิการเข้ามา ถ้าเป็นแบบนี้ก็มีแนวโน้มที่จะไม่ต่างอะไรจากโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่พวกตนได้ทำกันมา รูปแบบการแจกเงิน ก็ใช้ตามแนวทางเดิม ทำให้เห็นว่า บัตรสวัสดิการแห่งรัฐเป็นโครงการที่สำเร็จ กระตุ้นกลุ่มเป้าหมายได้ดี ช่วยเหลือประชาชนได้จริง”

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตัวโครงการยังประเมินผลลัพธ์ไว้สูงมากว่าจะมีพายุหมุนทางเศรษฐกิจหลายรอบ แต่ท่ามกลางเศรษฐกิจ​แบบนี้ต้องถามว่า เงินจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจะสร้างพายุหมุนได้จริงกี่รอบสมเป็นโครงการเรือธงที่รัฐบาลคาดหวัง นอกจากนั้นที่มาของงบประมาณในการดำเนินโครงการ ก็ได้มีการดึงงบจากหลายส่วนมาทำโครงการนี้ ซึ่งมีแนวโน้มจะไปกระทบกับการจัดบริการสาธารณะหรือโครงการใหญ่อื่นๆ ที่ต้องใช้งบประมาณ ในประเด็นสุดท้ายคือมีประชาชนไปลงทะเบียนโครงการนี้ 36 ล้านคน แต่จะแจกจริงผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแค่ 14.5 ล้านคน ทั้งยังไม่มีความชัดเจนของทามไลน์ที่จะแจกรุ่นต่อไป รัฐบาลจะเยียวยา จะดูแล หรือจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชนกลุ่มนี้อย่างไร นี่เป็นคำถามใหญ่ที่อยากฝากไว้

ด้านนายธีระชัย กล่าวว่า การขับเคลื่อนนโยบายของรัฐที่นำเอากองทุนวายุภักษ์ เพื่อระดมทุนนั้น เป็นการใช้นโยบายอุ้มคนมีเงิน สร้างความไม่เป็นธรรมในสังคมและมีความเสี่ยงผิดกฎหมาย ตนขอเตือนว่าการระดมเงินแล้วไปเก็งกำไร ทั้งในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาดหลักทรัพย์ ทั้งทองคำ น้ำมันดิบ สินค้าโภคภัณฑ์ หุ้นกู้เครดิตต่ำ (Junk Bond) ฯลฯ ที่ไม่ใช่กิจหน้าที่ของกระทรวงการคลัง เป็นเรื่องไม่เหมาะสมและเสี่ยงผิดกฎหมาย

“มีหนังสือ 4 ฉบับเสนอแนะให้นายกฯ แพทองธาร ชินวัตรทบทวน เพราะมีปัญหา 2 ด้าน คือก่อปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคม เป็นการรอนสิทธิของประชาชนทั้งประเทศ สิทธิของข้าราชการ และสิทธิของผู้ใช้แรงงานไปให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. ซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อย และยังอาจมีปัญหาคนต่างชาติใช้ชื่อคนไทยเป็นนอมินีเพื่อแสวงหาประโยชน์อีกด้วย นอกจากนี้ มีความเสี่ยงผิดกฎหมาย กรณีหากมีผู้ใดฟ้องศาลให้ระงับเงื่อนไข ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนรายใหม่ได้รับความเสียหาย รัฐมนตรีคลังอาจเข้าข่ายประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง" นายธีรชัยกล่าว

นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ต่าง บัตรสวัสดิการรัฐ?

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related