SHORT CUT
“ทวี” ไม่ห่วงอภิปราย ม.152 พาดพิง “ทักษิณ” เชื่อประธานสภาฯ คุมอยู่ ไม่ตั้งองครักษ์พิทักษ์ รมต.จะชี้แจงเอง แต่หากผิดข้อบังคับ สส. ประท้วงได้ รับเจออดีตนายกฯ ที่งานศพ แต่ไม่ถามอาการป่วย ขอเชื่อมั่นความเห็นทีมแพทย์
พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงการรับมือศึกอภิปรายตามมาตรา 152 โดยเฉพาะเรื่องกระบวนการยุติธรรมที่จะมีการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า การอภิปรายของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 152 มันคือกระทู้ใหญ่ ซึ่งเป็นประโยชน์กับรัฐบาล เพราะไม่ได้มีการลงมติไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจ ที่สำคัญมีเวลาให้ฝ่ายรัฐบาลตอบคำถามได้มาก ขณะที่รัฐบาลพึ่งมาบริหารประเทศได้ 6 เดือนบางอย่างอาจมองไม่รอรอบด้าน หรือมีอะไรซุกไว้ใต้พรม ก็เป็นเรื่องดีที่กระทรวงยุติธรรมจะได้เข้าไปตรวจสอบ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ประกาศสร้างความเข้มแข็งขอฃหลักนิติธรรม ให้มีประสิทธิภาพโปร่งใส เป็นที่ยอมรับของนานาชาติ แต่บางอย่างอาจจะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน หรือที่เป็นความคาดหวังของประชาชน หลังจากนี้รัฐบาลก็ต้องมาสื่อสารสร้างความเข้าใจที่ดีต่อสังคมให้มีความมั่นใจ ไม่มีความหนักใจอะไร
เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยมีการตั้งทีม สส. มาคอยช่วยหรือไม่ เพราะต้องเกิดการประท้วงแน่นอน พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า ในความเป็นจริงควรจะปล่อยให้รัฐมนตรีตอบ เพียงแต่ว่าถ้ามีการพาดพิงแล้วผิดข้อบังคับ ก็ควรจะเป็นสิทธิ์ สส. แต่ถ้าเป็นการถามก็ควรจะรอให้รัฐมนตรีตอบ อย่างกระทรวงยุติธรรม หรือกระทรวงอื่น เท่าที่ทราบเขาก็พร้อมจะชี้แจง
ส่วนที่ฝ่ายค้านยืนยันชัดเจนจะต้องเอ่ยชื่อนายทักษิณ แต่ในขณะที่ประธานสภา บอกไม่ให้เอ่ยชื่อ จะเกิดความวุ่นวายแน่นอน พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า ยังไม่ได้ยินคำพูดนี้ แต่มันมีข้อบังคับอยู่แล้ว ถ้าเอ่ยก็ควรเอ่ย เรารู้ว่าเจตนาเป็นอย่างไร ขณะนี้ฝ่ายค้าน รัฐบาล รวมถึงทุกฝ่าย ก็พัฒนาไปเยอะ ส่วนประธานสภาฯ ก็เป็นประธานมาหลายสมัยแล้ว ท่านก็คงรักษาการประชุมให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า การอภิปราย 2 วัน คนที่จะได้ประโยชน์สูงสุดคือประชาชน ซึ่งประชาชนตื่นรู้ว่าความเป็นรัฐบาลในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนไม่ได้อยู่รับใช้รัฐบาล แต่รัฐบาลต่างหากที่ต้องรับใช้ประชาชน
เมื่อถามย้ำว่า เป็นห่วงหรือไม่ ที่ฝ่ายค้านหยิบเรื่องความเชื่อถือของประชาชนที่มีต่อกระบวนการยุติธรรม ที่เสื่อมถอยลงไป พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า ไม่เป็นห่วง เพราะความจริงคืออะไรก็คืออย่างนั้น วันนี้เรากำลังจะแก้ไข อย่างเช่นรัฐบาลมีความจริงใจที่จะแก้ เพราะที่ผ่านมาเรามีกระบวนการยุติธรรมย่อยเยอะ ตอนนี้ทางกระทรวงก็ใช้พระราชบัญญัติพัฒนาและบริหารงานยุติธรรม ที่มีองค์กรต่างๆได้มาคุยกัน เพราะกระบวนการยุติธรรมควรมีเป้าประสงค์เดียว คือเพื่อความยุติธรรมของประชาชน ซึ่งบางทีกระบวนการยุติธรรมก็อยู่เป็นสัดส่วนที่ต่างคนต่างอยู่ ก็ต้องทำให้มีเป้าประสงค์เดียว ก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามอยู่
ส่วนที่ถูกกล่าวหาเรื่องของ 2 มาตรฐาน ขอยืนยันว่า เราต้องมีมาตรฐานเดียว คือมาตรฐานตามกฏหมาย ถ้ากฎหมายไม่ดีก็ไปแก้กฎหมาย และในรัฐบาลนี้ยังไม่ได้แก้กฎหมายในกระบวนการยุติธรรมเลย ซึ่งกำลังพยายามจะแก้ไขอยู่ โดยอะไรที่ประชาชนเสียโอกาส หรือเป็นการเลือกปฏิบัติ ก็จะแก้ให้มีมาตรฐานกฎหมาย จะต้องปกป้องคุ้มครองทุกคน แต่บางครั้งถ้าใครไปสั่งการเกินกฎหมาย นอกจากผิดกฎหมายแล้ว ผู้สั่งก็ต้องถูกดำเนินคดี วันนี้เรามีกระบวนการยุติธรรมไทยเรื่องปัญหาการทุจริตคอรัปชั่น ซึ่งเรามีศาลทุจริตที่แยกออกมาต่างหาก ก็พยายามสร้างให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่งเกิดได้ไม่นาน
พันตำรวจเอก ทวี ยังเปิดเผยด้วยว่า ได้พบกับนายทักษิณที่งานศพของ บิดา นายจาตุรนต์ ฉายแสง แต่ไม่ได้คุยอะไร ซึ่งไม่ทราบล่วงหน้ามาก่อน แต่มาทราบเมื่อจะไปถึงงาน โดยกรมคุมประพฤติรายงานว่า นายทักษิณ ขออนุญาตออกนอกพื้นที่มา จ.ฉะเชิงเทรา
ส่วนอาการป่วยของนายทักษิณที่เห็นอยู่ขณะนี้ มีพัฒนาการเหมือนคนปกติ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ กระทรวงยุติธรรมการันตีว่าป่วยหนัก พันตำรวจเอกทวี กล่าวว่า ตนไม่ได้ถามอาการนายทักษิณ วันนั้นเพียงแต่ไปนั่งอยู่ข้างหลัง ซึ่งในเรื่องการป่วยนั้น มาตรฐานของเราคือยอมรับความเห็นของแพทย์ทุกอย่าง อาการป่วยของนายทักษิณ ทุกคนใช้ความเห็นของแพทย์ ซึ่งก็ไม่ใช่แพทย์คนเดียว แต่เป็นคณะแพทย์ ถ้าเราไม่ยอมรับกันเลย เรามีองค์กร เราเขียนกฎหมายให้องค์กรแล้ว แต่ถ้าในอนาคตเห็นว่าควรจะแก้ไขกฎหมายอย่างไร ซึ่งรัฐบาลก็เปิดกว้างที่จะรับฟังการแก้ไข
ข่าวที่เกี่ยวข้อง