SHORT CUT
ถ้ารัฐบาลไม่เอางบกลางจ่าย 140 ล้านบาทให้คนกรุง ขึ้นรถไฟฟ้า-รถเมล์ฟรี เราจะสามารถเอาเงินไปแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างไรได้บ้าง?
25-31 ม.ค. 68 รัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคม สนับสนุนการแก้ไขฝุ่นควัน PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่มีสถานการณ์วิกฤตต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงวันที่ 20 ม.ค. โดยเปิดให้ประชาชนขึ้นรถไฟฟ้าและรถ ขสมก.ฟรีทุกสาย แม้ว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม ยืนยันว่า การแก้ปัญหาครั้งนี้ทำให้คนใช้รถยนต์ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของฝุ่นในเขตเมืองน้อยลงจริง ประชาชนมีความสุข ได้ประโยชน์กันถ้วนหน้า ซึ่งมีรายงานว่ารัฐบาลจะเป็นผู้ชดเชยค่าโดยสารทั้งหมด มูลค่าราว 140 ล้านบาท โดยใช้งบกลาง
แต่ถ้าเราไม่เอาเงิน 140 ล้านบาทมาจ่ายค่าโดยสารขนส่งสาธารณะให้คนเมือง กทม.-ปริมณฑล เราจะเอาเงินก้อนนี้ไปแก้ปัญหาฝุ่นอย่างไรได้บ้าง SPRiNG สืบค้นข้อมูลและลองเปรียบเทียบ แบ่งเป็นการแก้ปัญหาโดยตรงกับกลุ่มเปราะบางและการแก้ไขปัญหาจากต้นตอ เช่น
สร้างห้องเรียนปลอดฝุ่น จะสามารถสร้างได้จำนวน 1,324 ห้อง
โดยติดตั้งเครื่องปรับอากาศ 2 ตัว และเครื่องกรองอากาศ 2 ตัว งบประมาณห้องละ 105,700 บาท(อ้างอิงจากโครงการของ กทม.)
แจกเครื่องฟอกอากาศคุณภาพดี จะได้จำนวน 10,769 เครื่อง
สำหรับใช้ในห้องพื้นที่ 125 ตารางเมตร ราคาเครื่องละ 13,000 บาท
แจกหน้ากากอนามัย N95 ได้ 23.3 ล้านชิ้น
โดยประมาณราคาหน้ากากอนามัยชิ้นละ 6 บาท
จัดซื้อรถเก็บเกี่ยวได้ 46 คัน กระจายตามจังหวัดที่มีไร่อ้อย ลดการเผาเพื่อเก็บเกี่ยว
โดยประมาณจากราคารถตัดอ้อยขนาดกลาง 3 ล้านบาทต่อคัน
จัดซื้อโดรนตรวจความร้อน ใช้ในภารกิจดับไฟป่าได้ 777 ลำ
โดรนตรวจจับความร้อนราคาลำละ 180,000 บาท
ซื้อเครื่องเป่าลม สำหรับทำแนวกันไฟและดับไฟป่าได้จำนวน 28,000 เครื่อง
ราคาประมาณ 5,000 บาทต่อเครื่อง