กลายเป็นแชทบอทยอดนิยมไปแล้ว สำหรับ "ChatGPT" ที่ Statista รายงานยอดผู้ใช้งานแตะ 1 ล้านคน หลังจากเปิดตัวเพียง 5 วัน! เมื่อเปรียบเทียบกับแอปโซเชียลมีเดียและบริการยอดนิยมอื่นๆ แล้ว จะพบว่า ChatGPT ตรงใจในเรื่องการใช้งานได้เร็วกว่าแอปอื่นๆ
สำหรับ ChatGPT เป็นแชทบอท AI เชิงสนทนาที่สามารถสร้างข้อความโต้ตอบเลียนแบบเหมือนมนุษย์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ ถูกนำไปใช้งานในหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น การเขียนเรื่องสั้น ร้อยแก้ว ดนตรี และภาคนิพนธ์ ไปจนถึงการเขียนโปรแกรม (Coding) รหัสพื้นฐาน การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ และการแปล
ซึ่งค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานในแง่ของความสร้างสรรค์และเสมือนมนุษย์ได้แบบตรงใจ ทำให้เหล่าผู้บริหารบริษัทเทคโนโลยีหลายคนได้ออกมาแสดงความเห็น เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI อย่าง ChatGPT อาจเข้ามาทำงานแทนที่พนักงานออฟฟิศในสายงานต่างๆ ได้
เมื่อเปรียบเทียบกับแอปฯ โซเชียลมีเดีย หรือแอปฯ ด้านความบันเทิงอื่นๆ พบว่าแอปฯ เหล่านั้นต้องใช้เวลานานหลายปี กว่าจะมียอดผู้ใช้งานในจำนวนหลักล้านคนแบบนี้ได้ ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่ามนุษย์เราคุ้นชินและปรับตัวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
ลองดูตัวเลขเปรียบเทียบการเติบโตของการใช้งานเทคโนโลยีนี้กัน
หมายเหตุ
- Kickstarter* นับยอดผู้ใช้งานจากจำนวนผู้ที่ร่วมลงทุนสนับสนุนโปรเจกต์ (backer)
- Airbnb** นับยอดผู้ใช้งานจากจำนวนการจองห้องพักแบบ Night booked
- Instagram*** นับยอดผู้ใช้งานจากจำนวนดาวน์โหลดแอปฯ
อย่างไรก็ตาม หากพูดถึงการใช้งานแอปฯ ยอดนิยม หรือเครื่องมือค้นหาข้อมูลทางออนไลน์ โดยทั่วไปบริการออนไลน์อื่นๆ มักจะใช้เวลานานมากในการที่จะมียอดผู้ใช้งานได้ถึง 1 ล้านคน แต่ ChatGPT ทำได้โดยใช้เวลาแค่ 5 วัน นี่จึงเป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นรายอื่นๆ สนใจ และจับตามองความสามารถของ ChatGPT ว่าจะล้ำหน้าไปถึงจุดใด
ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับ Instagram พบว่า เป็นหนึ่งในแอปฯ ที่สามารถทำยอดผู้ใช้งานได้ใกล้เคียงกับ ChatGPT มากที่สุด โดยใช้เวลาเพียง 2.5 เดือน แม้ว่าจะวัดจากการดาวน์โหลดแอปฯ ก็ตาม
ส่วน Spotify และ Dropbox เองก็เป็นบริการที่ประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ส่วนเหตุผลที่ทำให้ ChatGPT ได้รับความนิยมสูงนั้น อาจมาจากบริการต่างๆ ของ ChatGPT สามารถนำไปปรับใช้งานได้จริงในทันที
ยิ่งแอปพลิเคชั่นและผู้ให้บริการออนไลน์ต่างๆ สามารถแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของการใช้งานแอปพลิเคชั่นบนโลกออนไลน์ของคนทั่วโลก ในอนาคตยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวใช้งานอินเทอร์เน็ตและสร้างโอกาสเข้าถึงผู้ใช้ได้เร็วขึ้นเช่นกัน
ที่มา : Statista, กรุงเทพธุรกิจ