เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2022 เป็นช่วงที่ความต้องการสมาร์ทโฟนของผู้บริโภคยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยอดจัดส่งสมาร์ทโฟนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลง 4% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2565 เหลือ 23.5 ล้านเครื่อง ถือว่าเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในภูมิภาคนี้
โดยซัมซุง ยังคงเป็นผู้นำตลาด มียอดจัดส่งเครื่องที่ 5.9 ล้านเครื่อง หรือ 25% ของภาพรวมตลาด ตามมาด้วย ออปโป้ 4.5 ล้านเครื่อง คิดเป็น 19% วีโว่ 3.5 ล้านเครื่อง เสียวหมี่ 3.1 ล้านเครื่อง และเรียลมี 2.1 ล้านเครื่อง ส่วนแบรนด์อื่นๆ รวมกันอยู่ที่ 4.4 ล้านเครื่อง (ซึ่งในกลุ่มนี้จะรวมยอดขาย iPhone ด้วย)
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม ปัญหาเงินเฟ้อยังคงต่อเนื่องจนปิดปี 2565 นี้ รวมทั้งกระแสเศรษฐกิจทั่วโลกก็ส่งผลต่อเรื่องสำคัญต่อประเทศในด้านต่างๆ ที่ส่งผลเสียต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
แม้ว่าสมาร์ทโฟนจะเป็นกลุ่มสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาด แต่ด้วยมูลค่าของเครื่องที่ค่อนข้างสูง สวนทางกับรายได้ของประชาชน จึงส่งผลให้ผู้บริโภคต้องคิดอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อ
ดังนั้น กลยุทธ์ของแบรนด์มือถือส่วนใหญ่จึงเน้นหนักไปที่การแจกของแถม อัดโปรโมชั่นเพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกคุ้มค่ากับการตัดสินใจซื้อแม้จะต้องแบกดอกเบี้ยจากการซื้อผ่านบัตรเครดิตสูงขึ้นกว่าเดิมก็ตาม
แม้ว่าแบรนด์สมาร์ทโฟนจะมีการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง แต่ก็มีการปรับลดราคา ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย และทำแคมเปญผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อกระตุ้นผู้บริโภคให้รีบตัดสินใจ รวมทั้งการมีพาร์ทเนอร์มา collaboration ทำให้เพิ่มสีสันของตลาดและสร้างโอกาสเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ
ทางด้านกลุ่มสินค้าพรีเมียมอย่าง Samsung ได้สร้างสีสันด้วยการปล่อยสมาร์ทโฟนจอพับและเดินหน้าอัดแคมเปญให้ลูกค้าสนใจอย่างต่อเนื่อง
ส่วน Apple เอง หลังจากปล่อย iPhone 14 ออกสู่ตลาดไทยและสิงคโปร์ ซึ่งไทยได้เป็น Tier-1 ส่งผลให้ยอดขายผ่านดีลเลอร์อย่าง COM7 มียอดจองสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เรียกได้ว่ายังจุดกระแสความต้องการได้อย่างแข็งแรงในซีรีส์ Pro แม้ราคาเครื่องจะสูงมากก็ตาม ชี้ให้เห็นว่ากำลังซื้อสินค้าในกลุ่มพรีเมียมยังเป็นไปได้ดี
แต่แม้กระแสของ iPhone 14 ในไทยจะดีอย่างไร แต่ภาพรวมยอดขายของ iPhone14 และ iPhone14 Plus ทั่วโลก ก็ไม่ได้ดีมากพอ
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของเงินเฟ้อที่ยังเป็นปัญหาสำคัญของทั่วโลก แต่ข่าวดีคือเงินเฟ้อไม่ได้ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากสักเท่าไหร่ แต่ก็ต้องจับตาดูในเชิงเศรษฐกิจภาพรวม ว่าจะกระทบกับผู้บริโภคกลุ่มกลางถึงล่างมากน้อยแค่ไหน รวมทั้งเรื่องของค่าเงินบาทที่แม้จะติดตัวแดง แต่ภาคธุรกิจก็ยังมีการลงทุนและร่วมทุนกันต่อได้
ขณะเดียวกัน การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประชาชนทำให้ผู้ผลิตต้องสร้างสัมพันธ์อันดีกับภาครัฐและหน่วยงานโทรคมนาคม เพื่อรักษาโอกาสที่จะเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มใหม่ๆ และสร้างความไว้วางใจในแบรนด์ที่จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนของนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักลงทุนชาวจีนที่ยังเข้ามาทำธุรกิจใหม่ๆ ในภูมิภาคนี้