svasdssvasds

7 วันต้องมีคำตอบ สาเหตุตึกถล่ม นายกฯ สั่งสอบ แต่ไม่จับผิดสัญชาติ

7 วันต้องมีคำตอบ สาเหตุตึกถล่ม  นายกฯ สั่งสอบ แต่ไม่จับผิดสัญชาติ

นายกฯ สั่งสอบเชิงลึก ตึก สตง. ถล่ม 7 วันต้องมีคำตอบ ชี้หวั่นกระทบภาพลักษณ์ประเทศ ส่วนปมทุนจีน ไม่ควรโฟกัสที่สัญชาติ ให้ดูตามสัญญา

1 เมษายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการให้ติดตามกรณีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ถล่มลงมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ทั้งในเรื่องของสาเหตุการพังถล่ม ผลการตรวจมาตรฐานเหล็ก ตลอดจนการเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติตามธรรมชาติ

โดยแพทองธารสั่งการให้คณะกรรมการสืบหาข้อเท็จจริงกรณีอาคาร สตง.ถล่ม เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงภายใน 7 วัน หากพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการทางกฎหมายต่อไป โดยระบุว่า อาคารถล่มครั้งนี้ต้องหาสาเหตุและผู้รับผิดชอบให้ได้ มิเช่นนั้นประเทศไทยจะอยู่ยาก

และเผยว่ายังเตรียมหารือเรื่องระบบเทคโนโลยีก่อสร้างร่วมกับประเทศที่มีประสบการณ์ในด้านภัยพิบัติ เช่น ญี่ปุ่น และประเทศในยุโรป

ประเด็น เหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน 

สำหรับประเด็นเหล็กเส้นไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงอุตสาหกรรม  จะมีการตรวจสอบเชิงลึกอย่างจริงจัง เพราะวัสดุดังกล่าวอาจถูกนำไปใช้ในโครงการอื่น ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ด้านความปลอดภัย หากตรวจพบว่าเหล็กหรือตัววัสดุก่อสร้างจากอาคารที่ถล่มถูกกระจายไปยังโครงการอื่น ต้องมีการแจ้งเตือนทันที โดยย้ำว่าแม้เหตุการณ์จะเกิดกับอาคารเพียงหลังเดียว แต่กระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ จึงต้องหาข้อเท็จจริงและชี้แจงต่อสาธารณชนและนานาประเทศโดยเร็ว

 

หวั่นกระทบภาพลักษณ์ ประเทศไทย 

ในส่วนของผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวและนักลงทุน ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เร่งสื่อสารสร้างความเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีเฉพาะราย และอาคารในกรุงเทพฯ ทุกแห่งต้องผ่านมาตรฐานกฎหมาย ทั้งด้านการป้องกันแผ่นดินไหวและอัคคีภัย โดยมีมาตรฐานกำกับไว้อย่างชัดเจน

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า จะมีการตรวจสอบบริษัทข้ามชาติที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น รวมถึงผู้ที่มีส่วนในการก่อสร้างอาคารทั้งหมด โดยยึดหลักความปลอดภัยเป็นสำคัญ พร้อมทั้งกล่าวถึงแรงงานต่างชาติว่า ต้องตรวจสอบสถานะการจ้างงานและการลงทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย และแม้ในแต่ละไซต์งานจะมีแรงงานหลากหลายสัญชาติ ก็ต้องดูอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้คนไทยเสียโอกาสในการทำงาน

ในส่วนของประเด็น "ทุนจีน" นายกรัฐมนตรีชี้แจงว่า บริษัทที่เกี่ยวข้องในโครงการเริ่มต้นจากความร่วมมือระหว่างบริษัทไทยและจีน จึงต้องมีการสืบสวนตามโครงสร้างของบริษัทตามสัญญา ไม่ใช่โฟกัสที่ตัวบุคคลหรือสัญชาติ


"จะต้องดูตามสัญญาว่าบริษัทใดคุยกัน ไม่เกี่ยวกับเรื่องสัญชาติ เราจะตรวจสอบไม่ว่าเป็นประเทศใด ไม่ใช่จะไปโฟกัสความผิด"

 

ทั้งนี้ สำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมมือกับ ปภ.สรุปมาตรการในการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวโดยเร็ว และให้กรมประชาสัมพันธ์เป็นศูนย์กลางในการกระจายข่าวสารที่ถูกต้องอย่างทั่วถึง รวมทั้งกระจายไปยังช่องทางต่างๆ ให้ครบถ้วน ทั้งสถานีวิทยุ โทรทัศน์ และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ เช่น Facebook หรือ LINE รวมทั้งให้ประสานขอความร่วมมือกับเอกชนที่มีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ที่สามารถขึ้นภาพได้ทันที เพื่อให้เกิดการประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึง

related