ตึกประกันสังคม 7 พันล้าน ลงทุนคุ้มหรือไม่ ซื้อแพงเกินราคาจริง?

จากกรณีที่ น.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กทม. พรรคประชาชน และนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน เปิดข้อมูลประเด็น อาคาร SKYY9 แถลงข่าวข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการลงทุนของกองทุนประกันสังคม กว่า 7 พันล้านบาท ในการเข้าซื้อตึกประกันสังคม อาคารที่มีมูลค่าราว 3 พันล้านบาท โดยเป็นอาคารเก่าตั้งแต่ยุค "ต้มยำกุ้ง" แต่นำมารีโนเวทใหม่แล้วขายต่อ 

ตึกราคา 7 พันล้านบาท ช่วงวิกฤต "ต้มยำกุ้ง" เคยเป็นตึกร้าง

การลงทุนด้วยซื้อตึกด้วยราคา 7 พันล้านบาทในปี 2565-2566 ซึ่งไม่ใช่ตึกที่เพิ่งสร้างเสร็จ แต่เป็นตึกที่ในอดีตช่วงวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้งเป็นตึกร้าง จนกระทั่งมีบริษัทแห่งหนึ่งซื้อตึกไปปรับปรุงซ่อมแซม เมื่อปรับปรุงเสร็จก็ประจวบเหมาะกับช่วงที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ปรับแก้ระเบียบต่างๆ ทำการศึกษา และมีการตัดสินใจลงทุนพอดี อย่างไรก็ตาม ตึกแห่งนี้ในช่วงปลายปี 2565 มีอัตราการเข้าทำกำไรหรืออัตราการเช่าอยู่ที่ 1% เท่านั้น เรียกว่าทั้งตึกมีคนมาเช่าเพียง 1%

สปส. ได้เข้าซื้อตึกนี้โดยมีการทำแผนงานที่สวยหรู อ้างถึงผลตอบแทนที่จะได้รับอย่างเหมาะสม แต่เมื่อเริ่มดำเนินการกลับมีผู้เช่าในปีแรกเพียง 1-2% เท่านั้น ปัจจุบันตัวเลขที่ สปส. รายงานมีคนเข้าใช้ตึกประมาณ 40% แต่เป็นตัวเลขที่น่าสงสัย น่าจะมีการรวมผู้เช่าที่คาดว่าจะเข้ามาใช้ในอนาคตด้วย และตัวเลขจริงอาจต่ำกว่า 40% อยู่ที่เพียง 20-30% เท่านั้น

 

 

 

ตั้งเป้าไว้สวยหรู แต่ตัวเลขต่ำกว่าเป้าทั้งหมด

ตึกนี้ทำกำไรในปี 2567 ประมาณ 40 ล้านบาท แต่ค่าบริหารจัดการรวมกับค่าจ้างกองทุนในการบริหารอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านบาท ถ้าทำกิจการด้วยอัตรานี้ต่อไปเท่ากับจะติดลบทุกปี ดังนั้น  เงิน 7 พันล้านบาทที่ สปส. ทุ่มลงทุนไปจะสูญเปล่า

ตึกแห่งนี้ถูกตั้งเป้าจัดทำประเมินการคาดการณ์ไว้อย่างสวยหรู แต่ตัวเลขที่ปรากฏในปัจจุบันต่ำกว่าเป้าทั้งหมด ทั้งการคาดการณ์ที่บอกว่าภายใน 2 ปีจะมีผู้มาเช่าใช้ 60% แต่ตัวเลขตามรายงานอยู่ที่ 40% และต่อให้มีคนมาเช่าใช้ 100% ก็ต้องใช้เวลา 30 ปีกว่าจะคืนทุน

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ชื่อผู้ที่ครอบครองกรรมสิทธิ์ของอาคาร SKYY9 Centre ก่อนที่จะมีการขายให้กับกองทุนประกันสังคม ในสมัยที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น ในขณะนั้นดำรงตำแหน่ง รมว.แรงงาน คือ บุตรชายของนักการเมือง “ส” ที่เคยมีตำแหน่งใหญ่ในรัฐบาล ก่อนที่จะมีดีลขายอาคารดังกล่าวให้กับสำนักงานประกันสังคม นักการเมือง “ส” ได้มีการเสนอให้พรรคการเมืองต้นสังกัดเลือกใช้อาคาร นี้เป็นที่ทำการพรรคอีกด้วย

 

"สุชาติ" ชี้ราคาประเมิน 3 พันล้านสมัยต้มยำกุ้ง ปัดรู้จักเจ้าของ

นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ และอดีต รมว.แรงงาน ชี้แจงว่า ตามพ.ร.บ.ประกันสังคม รัฐมนตรีไม่มีสิทธิเข้าไปยุ่งเกี่ยวแม้กระทั่งรับรู้ ไม่มีสิทธิไปแต่งตั้งบอร์ดต่างๆ จนเมื่อเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พิจารณาเสร็จแล้ว ตนถึงจะมีสิทธิลงนามแต่งตั้งเท่านั้น และไม่มีหน้าห้องนั่งอนุกรรมการลงทุน ส่วนที่บอกว่า มีคณะที่ปรึกษาไปนั่งนั้น ตนตั้งสหภาพแรงงานเป็นที่ปรึกษาเป็นร้อยคน ซึ่งคนที่ไปนั่งตรงนั้น เป็นบอร์ดก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่งเป็นสิบปี เป็นบอร์ดมาตั้งไม่รู้กี่รอบแล้วแบบนี้จะเกี่ยวอะไรกับตน

 

 

 

ประเด็นที่บอกว่าราคาประเมินอาคาร 3,000 ล้านบาท แล้วประกันสังคมไปซื้อในราคา 7,000 ล้านบาท นายสุชาติ กล่าวว่า  จาการสอบถามคนที่เกี่ยวของ ราคาประเมิน 3,000 ล้านบาท เป็นราคาประเมินตอนวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อปี 2540 แล้วคนที่ซื้อมาลงทุน มีการรีโนเวทอย่างไร ตนไม่รู้เรื่อง ส่วนว่าทำไมไปซื้อผ่านกองทุนทรัสต์ ก็เนื่องจากว่าสำนักงานประกันสังคมไม่มีเจ้าหน้าที่ ที่รู้เรื่องการบริหารการตลาด จึงต้องบริหารผ่านกองทุนทรัสต์

รายได้ที่เข้ามามีกำไรเป็นบวกหมดแล้ว

นายสุชาติ เผยอีกว่า จากที่ได้สอบถามเมื่อวันที่ 10 มี.ค. 68 ถึงการเช่าที่ได้รับคำตอบว่า เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด 60%  และมีการเช่าอยู่ 50%  ส่วนทำไมถึงขาดทุน ก็เหมือนเรามีอพาร์ตเมนต์ ให้คนเช่าฟรีก่อน 2-3 เดือนแรก เป็นการทำการตลาดที่ช่วงแรกมีคนเช่าน้อย แต่ตอนนี้รายได้ที่เข้ามามันมีกำไรเป็นบวกหมดแล้ว ซึ่งประกันสังคมลงทุน เพื่อเอาผลตอบแทนรายปีที่มากกว่าการฝากธนาคารที่ได้ดอกเบี้ย 50 สตางค์ต่อปี แต่เอามาลงทุนตรงนี้ได้ผลตอบแทน 3-5% ต่อปี

ประเด็นเจ้าของอาคารอาจจะมีความใกล้ชิดกับนักการเมือง นายสุชาติ กล่าวว่า  ไม่ทราบใครเป็นเจ้าของ เพราะการซื้อตึก ซื้ออะไร รัฐมนตรีรู้ไม่ได้ ถ้ารู้ก็จะมีปัญหาผิดกฎหมาย และตนก็ไม่ได้อยู่ในบอร์ด โดยตนรู้แค่ เขาลงทุนไปแล้ว ผลตอบแทนได้เท่าไร ถูกต้องตามพ.ร.บ.ประกันสังคมหรือไม่

กรณีบริษัทประเมินราคาตึก 7,000 ล้าน

ประเด็นที่มีการทุ่มซื้อตึกนี้แห่งเดียว นายสุชาติ กล่าวว่า จากการสอบถามจะมีการลงทุนในประเทศ และนอกประเทศ เช่น หากมีการลงทุนตึกที่สิงคโปร์ มีคนเช่า 100% ก็กำไรมหาศาล แต่วันนั้นที่เขาไปลงทุนสิงคโปร์ เพราะวันนั้นเงินบาทแข็ง พอเงินบาทอ่อน กำไรก็เหลือ 20 - 30% นี่คือวิธีการคิดของนักลงทุน

"ไอซ์" แฉเพิ่ม ซื้อตึกพระราม 9 พร้อมหนี้สินอีกกว่า 2 พันล้าน

ต่อมานางสาวรักชนก และนายสหัสวัต แถลงข่าวอีกครั้ง ชี้แจงกรณีที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ในฐานะอดีตรมว.แรงงาน ที่กล่าวถึงราคาประเมินตึกสำนักงานย่านพระราม 9 ที่กองทุนประกันสังคมทุ่มงบซื้อกว่า 7,000 ล้านบาท ทั้งที่ราคาประเมินอยู่ที่ 3,000 ล้านบาท ซึ่งนายสุชาติ ชี้แจงว่าเป็นราคาประเมินตั้งแต่ช่วงสมัยต้มยำกุ้ง

นางสาวรักชนก กล่าวว่าการแถลงเรื่องตึกย่านพระราม 9 เราไม่ได้มีเจตนาขัดขวางเรื่องการลงทุนสินทรัพย์นอกตลาด หากสามารถพิสูจน์ได้ว่าคุ้มค่าอย่างแท้จริง เงิน กำไร เข้ากองทุนแน่นอน ไม่มีใครขวาง แต่เมื่อเรามีบทเรียนแล้วว่าการลงทุนสินทรัพย์นอกตลาดสามารถถูกแทรกแซงได้โดยฝ่ายการเมืองเพื่อซื้อของแพงเกินราคา

ดังนั้นการพิจารณาร่างประกาศคณะกรรมการประกันสังคม เรื่องการลงทุนอสังหาริมทรัพย์นอกตลาด จากเดิมที่ลงได้ 10,000 ล้านบาท จะปรับเพิ่มเป็น 137,000 ล้านบาท จึงเป็นเรื่องที่น่าจับตา เพราะไม่ใช่เงินจำนวนน้อย มีมูลค่ามากกว่า 10 เท่าของก้อนเดิมที่จะขยายขึ้นมา

ตัวเลข 3,000 ล้านบาทมาจากการประเมินมูลค่าบริษัท ประกันสังคมไม่ได้ซื้อตึกแต่ซื้อบริษัทที่ถือครองตึกนี้ซึ่งมีการประเมินราคาสินทรัพย์ก่อนจะเข้าซื้อในราคา 3,000 กว่าล้านบาท ทั้งนี้การซื้อบริษัทนี้ไม่ได้ซื้อแต่อสังหาริมทรัพย์ แต่บริษัทมีหนี้สินอยู่ 2,080 ล้านบาท ซึ่งกองทุนประกันสังคม ซื้อบริษัทและตึกพร้อมหนี้สินทั้งหมด

คนที่ลงนามซื้อตึกนี้ขณะนั้นคือ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เมื่อครั้งเป็นเลขาธิการ สปส. ที่ตอนนี้เป็นปลัดกระทรวงแรงงาน คนนี้คีย์แมนทำงานสำคัญในการทำงานของ สปส. ฝากถามว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ และอดีต รมว.แรงงาน ขณะนั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ ดังนั้น รมว.แรงงาน คนปัจจุบัน ในฐานะเจ้ากระทรวง ควรตั้งกรรมการตรวจสอบย้อนหลังเรื่องนี้

โดยน.ส.รักชนก และนายสหัสวัต เตรียมยื่นเอกสารถึงนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ให้ตรวจสอบเรื่องตึกย่านพระราม 9 ชี้ว่าเป็นโอกาสที่ดีที่นายพิพัฒน์จะแสดงความจริงใจ ไม่ใช่แค่ พูดแต่ปากอย่างเดียว

หากมีการตรวจสอบทั้งตนเอง นายสหัสวัต และผู้ประกันตนทุกคนสรรเสริญ แต่หากท่านไม่ทำตามที่พูด คงอาจจะโชคร้ายที่เป็นรัฐมนตรีอีกท่านที่ถูกก่นด่า “ท่านเลือกได้ว่า รัฐมนตรีเป็นฮีโร่หรือเป็นแบบคนเก่า"

ตราบใดที่การลงทุนในกองทุนประกันสังคม ยังไม่สามารถชี้แจงให้กระจ่าง จะเป็นการเปิดช่องให้นักการเมืองอาจเข้าไปแทรกแซง หลังจากนี้จะยื่นเรื่องไปยังแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้ 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• รัชนก จี้นายกฯ ตรวจสอบซื้ออาคาร 7,000 ล้าน ของกองทุนประกันสังคม
• รู้จัก CARE สูตรใหม่คำนวณ "บำนาญชราภาพ" ประกันสังคม หลังเกษียณได้เงินเท่าไหร่
• ประกันสังคม เงินของใคร! ขอเงินคืนไม่ได้ บอร์ดใช้จ่ายฟุ่มเฟือย?