ครม.อนุมัติโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม หรือ “เออร์ลี่รีไทร์ทหาร” ชั้นยศ พันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอกขึ้นไป โดยออกเป็นร่างพระราชกฤษฎีกาจ่ายเงินช่วยเหลือ รับเงินก้อนสูงสุดไม่เกิน 10 เท่าของเงินเดือน
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ครม. มีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเงินช่วยเหลือผู้ซึ่งออกจากราชการตามโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม พ.ศ…. ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
โดยสาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เป็นแผนปฏิรูปการบริหารจัดการกำลังพล โดยกำหนดเป้าหมายการปรับลดกำลังพลลงร้อยละ 5 ของยอดกำลังพล ซึ่งตั้งเป้าปีงบประมาณ 2563 ถึง 2570 และปรับลดกำลังพลนายทหารชั้นนายพลในตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ผู้ทรงคุณวุฒิ และนายทหารปฏิบัติการ ให้เหลือร้อยละ 50 ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2551 ถึง 2571 เพื่อให้เกิดความสมดุลของสัดส่วนกำลังพลในทุกระดับ มุ่งสู่การเป็นกองทัพที่กะทัดรัด ทันสมัย มีการบริหารจัดการกำลังพลที่มีประสิทธิภาพ
ดังนั้น เพื่อให้ส่งผลให้กลาโหมเกิดความสมดุลของสัดส่วนกำลังพลในทุกระดับ รวมถึงเป็นการประหยัดงบประมาณด้านบุคลากรภาครัฐในระยะยาว และทำให้การพัฒนาระบบบริหารจัดการของกลาโหมและกองทัพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
รองโฆษกรัฐบาลกล่าวอีกว่า โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดนี้ มีหลักการเป็นการจูงใจข้าราชการทหารที่ดำรงตำแหน่งสูงให้ลาออกจากราชการก่อนเกษียณอายุโดยสมัครใจ
ทั้งนี้ ข้าราชการทหารที่มีคุณสมบัติที่กำหนด เช่น ทหารชั้นยศ พันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอก ขึ้นไป ซึ่งดำรงตำแหน่งและประจำหน่วยอายุ 50 ปีขึ้นไป และมีเวลาราชการ 25 ปีขึ้นไป (ไม่รวมเวลาราชการทวีคูณ)
โดยจะได้รับสิทธิประโยชน์เป็นเงินก้อน 7 ถึง 10 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย รวมเงินประจำตำแหน่ง (ถ้ามี) โดยไม่รวมเงินค่าตอบแทนพิเศษอื่น ๆ
รองโฆษกรัฐบาลกล่าวอีกว่า โครงการเกษียณอายุก่อนกำหนดของกระทรวงกลาโหม จะใช้เงินงบฯ บุคลากรของกระทรวง ภายในกรอบวงเงิน 600 ล้านบาท โดยไม่ต้องของบฯ กลางเพิ่มเติม ซึ่งระยะเวลาดำเนินโครงการ 3 ปี (2568-2570) วงเงินปีละ 200 ล้านบาท ซึ่งประมาณการผู้เข้าร่วมโครงการ 3 ปี 732 นาย เฉลี่ยปีละ 244 นาย