ดีเอสไอ เตรียมนำพยานหลักฐานคดีค้ามนุษย์ เข้าพบพนักงานอัยการ หารือข้อกฎหมายเสนอขอออกหมายจับ หม่อง ชิตตู่ ผู้นำกองกำลัง BGF พร้อมพวก
วันนี้ 11 ก.พ. 68 ที่ทำเนียบรัฐบาล พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณี กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เตรียมนำหลักฐานคดีค้ามนุษย์เข้าพบอัยการ เพื่อหารือประเด็นการออกหมายจับผู้ต้องหา ประกอบด้วย ผู้นำกองกำลัง BGF ที่จะมีการเสนอขอออกหมายจับ อาทิ
เป็นคดีเก่าหลายปีมาแล้ว ที่คนไทยโดนกักตัวในประเทศเพื่อนบ้าน และได้มีการสอบสวนพบว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ โดยนอกจาก 3 รายชื่อนี้แล้ว ยังมีคนต่างชาติด้วย
เมื่อถามว่ารายชื่อคนกลุ่มนี้ ตรงกับรายชื่อที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงฯ สาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งข้อมูลมาให้ใช่หรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า ไม่ใช่ แต่เป็นหลักฐานของดีเอสไอ ซึ่งดำเนินการอยู่แล้ว แต่ในระหว่างนั้นต้องการให้เกิดความรอบคอบ เพราะเป็นบุคคลสำคัญที่ถูกกล่าวถึงในสังคม
จึงให้ ป.ป.ส. และอีกหลายหน่วยงาน ได้รวบรวมข้อมูล ซึ่งการทำคดีมีระยะเวลาในการดำเนินการ แต่เนื่องจากเป็นคดีที่เกิดนอกราชอาณาจักร ต้องสอบสวนร่วมกับอัยการ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ จึงต้องหารือร่วมกันว่าจะออกหมายจับใครบ้าง
เมื่อถามเพิ่มเติมว่า ประเด็นนี้เกิดขึ้นในช่วงที่มีการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และผู้นำกองกำลัง BGF ก็อยู่ในพื้นที่ มันเกี่ยวโยงการใช่หรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า เราดำเนินการไม่ได้ดูสถานการณ์ แต่ดำเนินการตามหลักฐาน เพราะพนักงานสอบสวนและดีเอสไอ นอกจากพัฒนาการความเชี่ยวชาญแล้ว ต้องมีความเป็นธรรมไม่อคติ และดำเนินการด้วยความรวดเร็ว
ส่วนจะนำคดีนี้ไปเชื่อมโยงกับคดีใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นหรือไม่ ต้องมีพยานหลักฐานเป็นองค์ประกอบ แต่คดีเก่ามีผู้เสียหายชัดเจน ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้จะมีการขยายผลไปยังคดีฟอกเงิน และยึดทรัพย์ ซึ่งเราจะทำอย่างตรงไปตรงมา และหลังจากมีความคืบหน้าในการพูดคุยระหว่างอัยการกับพนักงานสอบสวน ก็จะให้อธิบดีดีเอสไอเป็นผู้แถลงข่าว
เมื่อถามต่ออีกว่า ต้องมีการประสานไปยังรัฐบาลเมียนมา เพื่อขอตัวผู้ที่ถูกออกหมายจับหรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี กล่าวว่า โดยหลักแล้วต้องมีการจับกุมก่อน และประสานความร่วมมือ เนื่องจากความผิดค้ามนุษย์เป็นอาชญากรรมข้ามชาติของกลุ่มประเทศอาเซียน คงไม่มีประเทศใดช่วยเหลือผู้กระทำผิด
เมื่อถามย้ำอีกครั้งว่ามีกลุ่มคนจีนถูกออกหมายจับด้วยหรือไม่ พันตำรวจเอก ทวี ยอมรับว่า มี และยืนยันว่าได้รับการประสานงานอย่างใกล้ชิด ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ได้เดินทางมาพบตน เรื่องการฉ้อโกง เพราะคนของเขาก็ตกเป็นเหยื่อเช่นกัน
ขณะเดียวกันเอกอัครราชทูตจีน ก็มาพบ ซึ่งเราเห็นว่าเป็นภัยพิบัติของมนุษยชาติ มีประชาชนทุกคนตกเป็นเป้าการหลอกลวง โดยศูนย์กลางยังระบุว่าเป็นพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ รวมถึงยาเสพติดด้วย ซึ่งเรื่องเหล่านี้มีผู้กระทำผิด ไม่ว่าจะเป็นใครเราต้องพิสูจน์ให้ชัดเจน โดยเฉพาะเส้นทางการเงิน ในหลายเรื่องต้องมีการบูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง