svasdssvasds

ค่ายมือถือ! ลงทุนสร้างเครือข่าย ทรู ชู "Synergies" -AIS ลุยดาต้าเซ็นเตอร์

ค่ายมือถือ! ลงทุนสร้างเครือข่าย ทรู ชู "Synergies" -AIS ลุยดาต้าเซ็นเตอร์

โลกแห่งยุคดิจิทัลค่ายมือถือไทย! เดินหน้าลงทุนสร้างเครือข่าย ทรู ชู "Synergies" 2.5 แสนล้านบาท-AIS ลุยดาต้าเซ็นเตอร์

SHORT CUT

  • โครงข่ายโทรคมนาคมดีจะช่วยตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ดี อีกทั้งยังเป็นการรองรับการขยายตัวของเมือง และเศรษฐกิจ
  • โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลแบบนี้ค่ายมือถือเริ่มเปิดแผนลงทุนสร้างเครือข่าย และดาต้าเซ็นเตอร์ มากขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมลูกค้าที่มีความต้องการที่สูงขึ้นไป
  • จากการสำรวจค่ายมือถือในไทย พบว่ายังคงเดินหน้าลงทุนสร้างเครือข่าย เช่น ทรู ชู "Synergies" 2.5 แสนล้าน ส่วน AIS ลุยดาต้าเซ็นเตอร์

     

โลกแห่งยุคดิจิทัลค่ายมือถือไทย! เดินหน้าลงทุนสร้างเครือข่าย ทรู ชู "Synergies" 2.5 แสนล้านบาท-AIS ลุยดาต้าเซ็นเตอร์

ประเทศใดโครงข่ายโทรคมนาคมดีจะช่วยตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ดี อีกทั้งยังเป็นการรองรับการขยายตัวของเมือง และเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในยุคดิจิทัลแบบนี้ ค่ายมือถือในไทยเริ่มเปิดแผนลงทุนสร้างเครือข่าย และดาต้าเซ็นเตอร์ มากขึ้น เพื่อรองรับพฤติกรรมลูกค้าที่มีความต้องการที่สูงขึ้นไป วันนี้ #SPRiNG จะพามาดูว่าค่ายมือไทยค่ายไหนมีการลงทุนอย่างไรบ้าง มาเริ่มกันที่บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ที่ได้ออกมาเผยผลประโยชน์ที่ได้จากการควบรวมกิจการ คิดเป็นมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) 2.5 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ได้มีการระบุถึงปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดประโยชน์ดังกล่าว ซึ่ง 35% มาจากระบบโครงข่ายเดียว (Single Grid) คาด EBITDA เติบโต แซงการเติบโตของรายได้จากการให้บริการจากการมุ่งที่การเติบโตอย่างมีกำไรในการทรานส์ฟอร์มครั้งใหญ่ โดยคาดว่าจะสามารถประหยัดกระแสเงินสดได้ในระดับคงที่ประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท ตั้งแต่ปี 2569

โดยปัจจุบันทรู คอร์ปอเรชั่น มีจำนวนผู้ใช้บริการรวม 49.3 ล้านเลขหมาย ในไตรมาส 3/2567  ลดลงจากไตรมาสก่อน 1.2 ล้านเลขหมาย โดยผู้ใช้บริการระบบรายเดือนลดลงมาอยู่ที่ 15.2 ล้านราย ขณะที่ผู้ใช้บริการระบบเติมเงินมีอยู่ 34.1 ล้านราย ปัจจุบันทรู คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้ให้บริการที่มีคลื่นความถี่ทุกย่านเพื่อให้บริการ ประกอบด้วยคลื่น 700 MHz, 850 MHz, 900 MHz, 1800 MHz, 2100 MHz, 2300 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz เพื่อให้บริการแก่ลูกค้ากว่า 50 ล้านรา

นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า แผนการลงทุนโครงข่าย 5G ในปี 2568 ยังมีต่อเนื่อง โดยเฉพาะการทำระบบ Single Grid จะเข้ามาผสานจุดแข็งของเสาสัญญาณทรู และดีแทค ทำให้ได้ประสิทธิภาพการทำงานของโครงข่ายที่ดีขึ้นในทุกช่วงคลื่นสัญญาณ พร้อมกับลดปัญหาเสาซ้ำซ้อนที่อาจก่อให้เกิดสัญญาณรบกวน ทำให้จากเดิมลูกค้าดีแทค ก่อนควบรวมสามารถเข้าถึงเสาสัญญาณได้ประมาณ 24,000 แห่ง และทรูที่เข้าถึงเสาสัญญาณประมาณ 35,000 แห่ง เมื่อทำระบบ Single Grid แล้วลูกค้าแต่ละแบรนด์จะเข้าถึงเสาสัญญาณที่เพิ่มขึ้นเป็น 44,000 เสา ภายในปี 2568 ซึ่งจะช่วยให้สามารถให้บริการ 5G ได้ครอบคลุม 97% ของประชากร

อย่างไรก็ตามขณะนี้แผนงานดังกล่าวคืบหน้ามา 2 ใน 3 ซึ่งคาดว่าภายในไตรมาส 2 – 3 ปี2568 การทำจะสำเร็จ และพัฒนาเสาเพิ่ม ขยายสัญญาณเพิ่มทั้ง 44,000 ต้น มีอุปกรณ์กระจายสัญญาณคลื่นของทั้งดีแทค และทรู ในเสาเดียวกัน ที่ถูกควบคุมจากอุปกรณ์ชุดเดียวกัน เพื่อทำให้ได้ประสบการณ์ใช้งานคลื่นความถี่ที่ดีที่สุดในเสา ซึ่งที่ผ่านมาจากการทดสอบ 5G คลื่น 2600  เมกะเฮิรตซ์ (MHz)  5G คลื่น 700 MHz 4G คลื่นความถี่ต่ำ (Low band) 4G คลื่นความถี่กลาง (Mid band) ที่นำร่องทำโครงข่ายระบบเดียว (Single Grid) ในพื้นที่ภาคใต้ พบว่าความเร็ว ความแรง และคุณภาพสัญญาณดีขึ้นราว 2 เท่า

สำหรับแผนการเข้าร่วมประมูลคลื่นความถี่ใหม่ในปี 2568 ก่อนสัมปทานใบอนุญาตใช้งานคลื่นความถี่ที่ย่าน 850 MHz, 2100 MHz และ 2300 MHz ของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT จะหมดอายุในเดือน กันยายน 2568 นั้น จะต้องรอดูความชัดเจนที่แน่นอน ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ถึงการนำคลื่นความถี่เพื่อนำมาประมูล โดยทรูฯ มีความสนใจในการเข้าร่วมประมูล แต่จะต้องขอความชัดเจนเรื่องหลักเกณฑ์การประมูล และทีสำคัญ การราคาเริ่มต้นการประมูลที่คลื่นความถี่ ซึ่งบริษัท มีความเชื่อมั่นว่าการสิ้นสุดสัญญาฯ บนคลื่น 850 MHz จะไม่กระทบต่อการให้บริการลูกค้า

พามาดูอีกหนึ่งค่าย คือ AIS ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) ที่ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 ที่ผ่านมาว่า ได้มีมติอนุมัติให้ บริษัท เอไอเอส ดีซี เวนเจอร์ จำกัด (“AISDC”), บริษัท แฟกซ์ ไลท์ จำกัด (“FXL”) และ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (“AWN”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าทารายการที่เกี่ยวโยงกันกับ บริษัท จีเอสเอ ดาต้า เซนเตอร์ 02 จำกัด (“GSA02”) บริษัทย่อยของ บริษัท จีเอสเอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (“GSA Holdings”)

ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนที่บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 25 ร่วมกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ได้แก่ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (“GULF”) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 40 และ Singtel Strategic Investments Pte Ltd. (“Singtel”) ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 35 โดยประกอบด้วย 1) รายการให้ความช่วยเหลือทางการเงินตามสัดส่วนการถือหุ้น ในวงเงิน 125 ล้านบาท และ 2) รายการขายที่ดิน มูลค่า 145.2 ล้านบาท มูลค่ารายการรวมทั้งสิ้นประมาณ 270.2 ล้านบาท

ทั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งบริษัทฯ เข้าร่วมลงทุนผ่าน GSA Holdings ให้สอดรับกับการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาด โดยเฉพาะการตอบสนองความต้องการของลูกค้าในกลุ่ม Hyperscale ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และเป็นโอกาสในการสร้างผลตอบแทนตามสัดส่วนการถือหุ้น นอกจากนี้ ยังเป็นการใช้ประโยชน์จากที่ดินที่ยังไม่ได้ถูกใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

 

 

 

 

 

related