SHORT CUT
จีน ทำลายสถิติโลกด้วยการเปิดตัวเครือข่ายอินเทอร์เน็ตใหม่ที่เร็วกว่าทั่วโลกถึง 10 เท่า สามารถส่งข้อมูลเทียบเท่าภาพยนตร์ 150 เรื่องต่อวินาที ขณะที่ประเทศอื่นๆ รวมถึงสหรัฐฯ ยังตามหลังอย่างเห็นได้ชัด
จีน เปิดตัว "เครือข่ายอินเทอร์เน็ตที่เร็วที่สุดในโลก" ซึ่งถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญด้านเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต เครือข่ายนี้มีความเร็วในการส่งข้อมูลถึง 1.2 เทราบิตต่อวินาที เร็วกว่าความเร็วทั่วโลกมากกว่าสิบเท่า ส่งผลให้สามารถส่งข้อมูลเทียบเท่ากับภาพยนตร์ 150 เรื่องต่อวินาที
ความเร็วนี้เหนือกว่าโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตทั่วโลกอย่างมาก ส่วนใหญ่ทั่วโลกทำงานใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วเพียง 100 กิกะบิตต่อวินาที แม้แต่สหรัฐอเมริกาก็ยังมีความเร็วอินเทอร์เน็ตเฉลี่ยเพียง 400 กิกะบิตต่อวินาทีเท่านั้น
ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากโครงการที่ดำเนินมายาวนาน 10 ปี โดย China Education and Research Network (Cernet) ร่วมกับ China’s Future Internet Technology Infrastructure (FITI) โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัย Tsinghua, China Mobile, Huawei และ CERNET.com Corporation เครือข่ายความเร็วสูงนี้ครอบคลุมระยะทาง 3,000 กิโลเมตร เชื่อมต่อปักกิ่ง อู่ฮั่น และกวางโจว ผ่านเครือข่ายสายเคเบิลใยแก้วนำแสงที่กว้างขวาง
นอกเหนือจากความเร็วที่น่าประทับใจ โครงการนี้ยังโดดเด่นด้วยการใช้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่ผลิตภายในประเทศ ช่วยลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงความก้าวหน้าในด้านเราท์เตอร์ สวิตช์ และการเชื่อมต่อด้วยสายใยแก้วนำแสง ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีของจีน
การเน้นย้ำของโครงการเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ผลิตภายในประเทศ ยิ่งเน้นความทะเยอทะยานของจีนในการเป็นอิสระทางเทคโนโลยี ความมุ่งมั่นนี้ในการพึ่งตนเองทางเทคโนโลยีอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคตของจีนและอิทธิพลระดับโลก
ผลกระทบของความก้าวหน้าครั้งนี้ขยายไปไกลกว่าความเร็วในการดาวน์โหลดที่เร็วขึ้น ความก้าวหน้าครั้งนี้มีศักยภาพในการขับเคลื่อน นวัตกรรมในหลายภาคส่วน เช่น การแพทย์ทางไกล (Telemedicine), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งอาจทำให้จีนก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลกในยุคดิจิทัล
จากการที่จีนก้าวกระโดดด้านโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต และมีผลกระทบต่อการพัฒนาในหลายภาคส่วนนั้น ประเทศไทยควรศึกษาและนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับประเทศไทย จะเห็นได้ว่าประเทศไทยยังมีความท้าทายในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับจีน ซึ่งจะส่งผลต่อการแข่งขันทางเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศในระยะยาว
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตของไทยเป็นเรื่องเร่งด่วนและมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศในยุคดิจิทัล การเรียนรู้จากความสำเร็จของประเทศอื่นๆ เช่น จีน และการนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับบริบทของประเทศ จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวสู่สังคมดิจิทัลที่เต็มรูปแบบ
ยกตัวอย่างง่ายๆเช่น การขยายการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไปยังทุกหมู่บ้าน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล, การขยายโครงข่าย 5G เพื่อรองรับการใช้งานเทคโนโลยีที่ต้องการความเร็วสูง เช่น อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) และปัญญาประดิษฐ์ (AI), สร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อรองรับการใช้งานข้อมูลจำนวนมาก และอื่นๆอีกมากมาย
ที่มา : Greek Reporter