บทเพลงสุดท้ายของ The Beatles เพลง Now and Then ถูกปลุกขึ้นมาให้มีชีวิตอีกครั้ง ด้วย AI และสามารถคว้ารางวัล สาขาการแสดงเพลงร็อกยอดเยี่ยม Best Rock Performance จากเวที Grammy ครั้งที่ 67
“Now and Then” เพลง The Beatles ที่ใช้ AI ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียง สร้างประวัติศาสตร์ใหม่ด้วยรางวัล Grammy ปี 2025 กลายเป็นปรากฏการณ์ของโลกแห่งเสียงเพลง ณ เข็มนาฬิกาดิจิทัลเดินอยู่บน ปี 2025 เมื่อบทเพลงสุดท้ายของ The Beatles เพลง Now and Then ถูกปลุกขึ้นมาให้มีชีวิตอีกครั้ง ด้วย AI และสามารถคว้ารางวัล สาขาการแสดงเพลงร็อกยอดเยี่ยม Best Rock Performance จากเวที Grammy ครั้งที่ 67 หลังพริ้มหลับตานิทราหลับใหลในห้วงเวลายาวนานกว่าหลายทศวรรษ แต่ถูกปลุกมาเฉิดฉายด้วยเทคโนโลยี
ในความเป็นจริง, บนร่องรอยของประวัติศาสตร์ดนตรี บทเพลง Now and Then มีจุดเริ่มต้นในช่วงปลายยุค 70s ช่วงเวลานั้น เป็นเรื่องปกติสามัญ ที่ จอห์น เลนน่อน จะบันทึกไอเดียเสียงเพลงไว้ในเดโมที่อยู่ใกล้ตัว ไม่ต่างอะไรกับนักเขียนที่ชอบจดบันทึกเป็นชีวิตจิตใจ
โดยบทเพลง "Now and Then" เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 1978 โดย จอห์น เลนน่อน John Lennon หนึ่งในสมาชิก The Beatles เขาได้บันทึกเสียงเดโมเพลงนี้ไว้ก่อนที่จะเสียชีวิตในปี 1980 สมาชิกที่เหลือในวงพยายามจะสานต่อเพลงนี้ แต่มักประสบปัญหาในการตัดต่อและปรับแต่งเสียงร้องเดิมของ Lennon อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านมาหลายทศวรรษ AI ได้ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยให้การบันทึกเสียงของ John Lennon กลับมามีคุณภาพสูงขึ้น ซึ่งทำให้สามารถปล่อยเพลงดังกล่าวในเดือนพฤศจิกายน 2023 ในฐานะเพลงสุดท้ายของ The Beatles
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี AI ที่ใช้ใน "Now and Then" ไม่ได้เป็น AI เชิงสร้างสรรค์ที่สามารถสร้างเสียงเพลงใหม่ขึ้นมาทั้งหมด ตัวแทนจาก The Beatles ย้ำว่า AI ถูกใช้เพียงเพื่อปรับปรุงคุณภาพเสียงร้องที่มีอยู่ก่อนหน้านี้เท่านั้น แต่การที่ Recording Academy ยอมรับเพลงนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในวงการบันเทิงที่การใช้ AI ที่อาจถูกวิจารณ์
ในอดีต , Now and Then มีแผนที่จะปล่อยออกมาตั้งแต่ปี 1995 แล้ว แต่ต้องค้างคามานานหลาย 10 ปี เพราะเทปของจอห์น เลนน่อน เป็นการร้องเพลงที่ยังแต่งไม่เสร็จ พร้อมเสียงเปียโน และเทคโนโลยีในการแยกเสียง ณ ยุคนั้น ในยุค 1990s ยังไม่ดีพอที่จะแยกเสียง Lennon ออกมาโดยยังรักษาคุณภาพเสียงเอาไว้ได้ จนกระทั่งได้เทคโนโลยี AI ยุคปัจจุบันมาช่วยจนสำเร็จ
ภายหลังจากที่ จอห์น เลนน่อน จากโลกนี้ไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่ายังมีใครบางคน ไม่อยากให้ผลงานของเขาและวงสี่เต่าทองต้องสูญหาย ปลิวไปกับความสาบสูญไปด้วย , ในปี 1994 โยโกะ โอโนะ Yoko Ono ภรรยาของเลนน่อน จึงส่งมอบกล่องความฝัน เดโมเพลง Now and Then ให้กับ สามสมาชิกวงที่เหลืออยู่ ณ เวลานั้น ทั้งพอล แม็คคาร์ทนี่ย์, จอร์จ แฮร์ริสัน และ ริงโก้ สตาร์ เป็นคนแกะเชือกริบบิ้นกล่องนั้น
ณ ช่วงเวลาแห่งยุค 1990s นวัตกรรมรังสรรค์บทเพลงยังไม่ตอบสนองและดีพอที่จะมิกซ์ให้เป็นระดับมาสเตอร์ ยังไม่อาจแยกเสียงของจอห์น เลนน่อน กับเสียงเปียโนได้ นั่นทำให้ความหวัง ในการปลุกชีพ Now and Then ยังต้องถูกพัก หยุดใจไว้ก่อน
อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกอย่างมันก้าวหน้าและพัฒนาไปตามกาลเวลา , เทคโนโลยีการบูรณะ (Restoration Technology) ถือกำเนิดขึ้น และเทคโนโลยีนี้ มันช่วยปลุกสิ่งที่หลับใหลมานานฟื้นขึ้น และ มันสามารถแยกเสียงต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดแบบที่เป็นที่พึงพอใจแล้ว ทำให้พอล แม็คคาร์ทนี่ย์ นึกขึ้นได้ว่ามีเทปเดโมหนึ่งของจอห์น เลนน่อนที่พวกเขาเคยพยายามจะชุบชีวิตมันกลับมาให้ได้เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว
พอล แม็คคาร์ทนี่ย์ เอาเทปเดโมฉบับ Now and Then ต้นตำรับฉบับ Original ไปให้ทางทีมงานได้ลองนำไปเข้าสู่กระบวนการการแยกเสียงดูว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
พอล แม็คคาร์ทนี่ย์ เล่าว่าพอพวกเขานำเพลงของจอห์นเข้าไปใส่ในระบบ ชั่วเวลาเพียงไม่นาน ปาฏิหาริย์ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้า เสียงจอห์นฉบับชัดเคลียร์ ปราศจากเสียงอื่นใดก็ก้องกังวานไปทั่วห้อง เปรียบเสมือนว่าจอห์นร้องมันด้วยตัวเอง ณ ตรงนั้น
ณ จุดนี้ พอล แม็คคาร์ทนี่ย์ รู้ทันทีว่าสามารถกลับไปเขย่าโปรเจกต์ที่เขาหยุดพักมากว่า 20 ปีให้ตื่นลืมตาและกลับมามีชีวิตชีวาได้แล้ว เขาจึงได้เริ่มดำเนินการอัดเสียงเบสเพื่อเตรียมการนำไปมิกซ์ใหม่อีกครั้ง พร้อมด้วยการโทรฯ หาริงโก้ สตาร์ เพื่อชวนมาสานต่อสิ่งที่ค้างไว้อีกครั้ง
และความหวังที่มอดดับแสงไปแล้ว ก็กลับมามีประกายไฟ จินตนาการสร้างสรรค์ จุดต่อเป็นเชื้อฝันขึ้นอีกครั้ง
พอลและริงโก้ เปิดหน้าเดินเกมรุกอย่างเต็มกำลังที่จะปัดฝุ่นบูรณะ Now and Then เพลงสุดท้าย ที่พวกเขาจะได้บรรเลงร่วมกันกลับมาอีกครั้ง และแล้วอย่างที่รับรู้กันทั่วโลก ณ เวลานี้ สมาชิกเดอะเดอะบีเทิลส์ ก็พร้อมหน้ากันอีกครั้ง และแล้วมันก็เกิดเป็น Now And Then บทเพลงสุดท้ายจากสี่เต่าทองอย่างแท้จริง และสุดท้ายก็มาได้รางวัล สาขาการแสดงเพลงร็อกยอดเยี่ยม Best Rock Performance จากเวที Grammy ครั้งที่ 67