จากกรณี ถึงกรณีที่มีชายไทยตกจากตึกสูง 18 ชั้น ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งตึกดังกล่าวตั้งอยู่ติดกับตึก 25 ชั้นที่เคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ และเป็นที่แน่นอนว่า 2 ตึกนี้เป็นที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
จากกรณี ถึงกรณีที่มีชายไทยตกจากตึกสูง 18 ชั้น ในฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งตึกดังกล่าวตั้งอยู่ติดกับตึก 25 ชั้นที่เคยเป็นข่าวมาก่อนหน้านี้ และเป็นที่แน่นอนว่า 2 ตึกนี้เป็นที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
แล้วเรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับ 2 ตึกนี้ ? มีใครพูดถึงเรื่องนี้อย่างไร ? SPRiNG สรุปให้
1. ก่อนอื่นเรารู้จัก ‘ปอยเปต’ กันก่อน ปอยเปตเป็นเมืองชายแดนไทยของกัมพูชา อยู่ติดกับ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ของประเทศไทย หลายคนจะคุ้นหูในฐานะ เมืองมีบ่อนกาสิโนเป็นจำนวนมาก และมักจะมีนักเสี่ยงโชคจากไทยข้ามไปเล่นอยู่เสมอ
2. แต่ในระยะหลังปอยเปตมักถูกพูดถึงว่าเป็นสถานที่ที่อาจจะเป็นแหล่งของการกระทำผิดกฎหมายข้ามแดน ทั้งเรื่องแก๊งคอลเซนเตอร์ การค้ามนุษย์ ยาเสพติด และอื่นๆ ซึ่งสามารถข้ามผ่านมายังชายแดนไทยได้อย่างง่ายดาย
3. เมื่อเจาะลงไปจุดที่ทุกคนสนใจในปอยเปตแห่งนี้คือ ตึก 2 ตึกที่อยู่ติดกัน คือตึก 25 ชั้น และ ตึก 18 ชั้น ที่ทราบกันว่าเป็นที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่จะคอยโทรมาหลอกเหยื่อในประเทศไทย
4. สำหรับตึก 25 ชั้นถูกพูดถึงและเป็นข่าวช่วงปลายปี 2567 หลัง ทักษิณชินวัตร ปราศรัยหาเสียงในการเลือกตั้ง อบจ.เชียงใหม่ ถึงการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกลวงเงินประชาชน โดยบอกว่า ตนเองจะจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และบัญชีม้า ในประเทศเพื่อนบ้าน หากจัดการไม่ได้ขออนุญาตส่งคนไปจัดการ พร้อมระบุว่า “มีคนโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มาเล่าให้ฟังว่าเดือดร้อน และเกิดความทุกข์เป็นอย่างมาก ผมกำลังบอกทางพม่า กับทางเขมร เพราะคอลเซ็นเตอร์ เวลานี้มันอยู่ที่เขมร อยู่ตึก 25 ชั้น แถวปอยเปต”
5. ต่อมา พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ชี้แจงว่าประเด็นดังสอดคล้องกับข้อมูลที่ทางตำรวจไซเบอร์ ไม่ว่าจะเป็นมาจากการสืบสวนสอบสวนทางคดีและ มาจากคำให้การของผู้ต้องหาในหลายคดี โดยผู้ต้องหาส่วนใหญ่ให้การรับสารภาพว่า ตึก 25 ชั้นดังกล่าว คือฐานปฏิบัติการที่ให้บรรดาบัญชีม้าทั้งหลายมาสแกนหน้าเปิดบัญชีม้า
6. ตัดกลับมาในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีการแชร์คลิป คนไทยพลัดตกอาคารจนเสียชีวิต ซึ่งอาคารที่ว่าคืออาคาร 18 ชั้นที่ตั้งอยู่ข้างกับอาคาร 25 ชั้นที่ถูกพูดถึงก่อนหน้านี้ ตั้งอยู่ที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ทราบภายหลังว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชายไทย อายุ 31 ปี โดยคาดการณ์ว่า สาเหตุที่ตกอาคารเชื่อว่า เกิดจากความเครียด หลังเข้าไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์แต่ไม่สามารถทำยอดได้ จึงก่อเหตุสลดดังกล่าว
7. เมื่อวานนี้ (9 มกราคม) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุว่า ชายรายดังกล่าวเข้าไปทำงานเป็นคอลเซนเตอร์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยการถูกล่อลวงหรือเต็มใจ ขณะเดียวกันได้มอบหมายให้ตำรวจไซเบอร์ในพื้นที่ ทำการสืบสวนเชิงลึก ว่า กลุ่มขบวนการขบวนการคอลเซนเตอร์ที่อยู่ในตึกหลังดังกล่าว มีพฤติการณ์หลอกลวงผู้เสียหายให้เข้าไปทำงานแบบใด
8. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ระบุเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่มีฐานข้อมูลเชิงลึกว่า ตึกทั้ง 2 แห่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามชายแดน จังหวัดสระแก้วนั้น ที่ผ่านมาได้มีการบุกเข้าไปจับกุม ช่วยเหลือผู้ต้องหาและผู้เสียหาย รวมไปถึงการออกหมายจับกลุ่มขบวนการคอลเซนเตอร์ ที่อยู่ในตึก ทั้ง 2 แห่งมาแล้ว ซึ่งการกวาดล้างจับกุมก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีกับทางการประเทศเพื่อนบ้าน
9. อย่างไรก็ตามส่วนกรณีที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่า ตำรวจมีข้อมูลอยู่แล้วว่ามีกระบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ เหตุใดจึงไม่เข้าไปช่วยเหลือและดำเนินการ ทำได้แค่จับกุมหรือช่วยเหลือบางคนตามที่เป็นข่าว พล.ต.ท.ไตรรง ให้ข้อมูลว่าแม้ตำรวจไซเบอร์จะมีข้อมูลอยู่แล้ว แต่การช่วยเหลือ ต้องดูเป็นกรณีไป เพราะบางคนเต็มใจที่จะเข้าไปทำ บางคนก็ถูกหลอก พร้อมยกตัวอย่าง ที่ทางการเมียนมาปล่อยตัวคนไทย 150 คนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 150 คน ล้วนเต็มใจเข้าไปทำงานกับขบวนการคอลเซนเตอร์
10. ด้าน ชัยชนะ เดชเดโช ประธานคณะกรรมการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า ‘นายใหญ่’ ของตึกนี้ เป็นชาวจีนชื่อ ‘เสี่ยวหมา’ ซึ่งเข้าใจว่าทาง กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวน อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พยายามเข้าไปปิดออฟฟิศดังกล่าว แต่ฝั่งประเทศต้นทางให้เฉพาะหมายจับ และจะส่งตัวเฉพาะคนที่มีหมายจับมาเท่านั้น และคนที่จะเข้าไปตึกนี้ได้จะเป็นคนในตึกเท่านั้น