ทำไมคู่รักที่อยู่ด้วยกันมานาน ถึงเลิกกันหลังแต่งงานได้ไม่นาน ?

ไม่นานมานี้ เพิ่งจะมีข่าว ช็อก! เลิกฟ้าผ่า 'ซาบิน่า' นางแบบชื่อดัง และ 'อนัน อันวา' ศิลปินหนุ่ม ที่เพิ่งจะวิวาห์กันไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยฝ่ายหญิงให้เหตุผลว่า “มีความต้องการส่วนตัวบางอย่างที่เราไม่สามารถปรับให้ตรงกันได้”

และล่าสุด คู่รักอีกคู่ที่คบกันมา 12 ปี อย่าง ‘โก๊ะตี๋ อารามบอย’ และ ‘กวาง สุภัค’ ก็ประกาศเลิกกันหลังแต่งงานมา 1 ปี โดยฝ่ายชายอย่างโก๊ะตี๋เผยเหตุผลว่าไ ไม่มีมือที่ 3 แต่เป็นทัศนคติล้วนๆ ที่ทำให้ไปต่อไม่ได้ และเจ็บปวดมากเมื่อต้องจากกันทั้งที่ยังรัก

เกิดอะไรขึ้นกับคู่รัก ที่ก่อนแต่งรักกันดี I? หรือเหตุการณ์เหล่านี้อาจทำให้เราตระหนักว่า แม้การคบหาดูใจกันจะเป็นช่วงเวลาที่คู่รักได้เรียนรู้และสร้างความผูกพันกัน แต่การแต่งงานอาจกลับนำมาซึ่งความรับผิดชอบและความท้าทายที่แตกต่างออกไป ดังนั้น การคบกันและการแต่งงานจึงเป็นอาจเป็นชีวิต 2 ขั้วที่ไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง ?

ทำไมหลังแต่งงานจึงเลิก

จริงๆ แล้ว ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่คู่รักที่อยู่ด้วยกันมานานหลายปีจะตัดสินใจแต่งงานกัน จากนั้นก็ตัดสินใจหย่าร้างกันในทันที และเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับใครก็ได้ทั้งนั้น

แอเรียล มีโดว์ สตอลลิงส์  ผู้เชี่ยวชสาญเรื่องความรัก และผู้เขียนหนังสือขายดี  “From Shitshow To Afterglow”(หนังสือที่เล่าถึงการเลิกราของคู่รัก) เขียนถึงประเด็นนี้ไว้บนเว็บไซต์ของเธอว่า  

ต่อให้จะดีหรือร้าย แต่ละคนย่อมมีความคาดหวังเกี่ยวกับความหมายของการแต่งงานที่มีต่อความสัมพันธ์ของตน สำหรับบางคน ความคาดหวังอาจเป็นว่า "ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย นอกจากต้องการสวมแหวนและมีงานเลี้ยงใหญ่เพื่อแจ้งคนอื่นเท่านั้น" แต่สำหรับบางคน มีความคาดหวังถึงความเปลี่ยนแปลงหลังการแต่งงาน

 

ประเด็นนี้ ขยายความได้ว่า ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจต้องการ ความสัมพันธ์ที่จะยกระดับขึ้น เช่นมี การแบ่งปันความรับผิดชอบ ไม่ว่าจะเป็นงานบ้าน การเงิน และการดูแลครอบครัว เพื่อสร้างความสมดุลและความเท่าเทียมในความสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งการยอมรับและปรับตัวเข้าหากันมากกว่าตอนแค่คบกัน เพื่อให้ชีวิตคู่ดำเนินไปอย่างราบรื่น แบบคนที่เหมาะจะอยุ่ด้วยกันไปตลอดชีวิต

การแต่งงานไม่ใช่จุดสูงสุด แต่ยังอยู่ระหว่างเดินทาง 

จริงๆ แล้ว ไม่ว่า “จะมีความคาดหวัง” หรือ “ไม่คาดหวัง” ในชีวิตหลังแต่งงานหรือไม่  ทั้งสองอย่างนี้ไม่ได้ผิดเลย แต่ปัญหาของคู่รักคือ ไม่ได้พูดคุยเกี่ยวกับความคาดหวังของตนเองกันเสียก่อนให้ดี เช่นฝ่ายหนึ่งอาจหวังว่าหลังจากนี้ต้องไปเที่ยวด้วยกันทุกครั้ง แต่ไม่ได้บอกอีกฝ่ายก่อนแต่งงาน พอกลับมาบ้านหลังแต่ง จึงพบว่าคนรักของเราไม้ได้ต้องการไปไหนมาไหนกับเราตลอดเวลาเหมือนอย่างที่เราหวัง

เพื่อไม่ให้เกิดปัญหานี้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า คู่รักที่อยู่ด้วยกันมานานและต้องการแต่งงาน อาจลองมองการแต่งงานเป็นแค่ "ช่วงหนึ่ง" ในความสัมพันธ์ มากกว่าที่จะมองว่าเป็น "จุดหมายปลายทาง" หรือกล่าวคือก่อนแต่งงาน ควรทบทวนความรู้สึกและวางแผนร่วมชีวิตร่วมกัน  

ให้ตระหนักไว้ว่าการแต่งงานเป็นเพียง 5% ของชีวิต ส่วนที่เหลือคือความสัมพันธ์และชีวิตที่คุณจะใช้ร่วมกันล้วนๆ ต้งอถามตัวเองให้ชัดว่า คุณรักคนนี้และต้องการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ร่วมกันหรือไม่? คุณยินดีรับเงื่อนไขทางกฎหมายที่มาพร้อมกับการแต่งงานหรือเปล่า? ความสัมพันธ์นี้เป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อสุขภาพหรือไม่?

สิ่งสำคัญคืออย่าคาดหวังว่าการแต่งงานจะแก้ไขปัญหาใดๆ ที่คุณมีอยู่ได้ ถ้าตกลงแต่งงานไปแล้ว และยังไม่อยากเลิกรา ก็จงเปิดใจและยอมให้ชีวิตไม่เป็นอย่างที่หวังเอาไว้บ้าง และจงกล้าหาญที่จะแบ่งปันความรู้สึกนั้นกับคู่รัก ครอบครัว เพื่อน หรือนักบำบัด เพื่อหาทางออกร่วมกัน

ต้องจำไว้ว่า การแต่งงานไม่ใช่จุดสูงสุดของความรัก แต่คือการเดินทางของความสัมพันธ์ที่จะพัฒนาไปตามกาลเวลา เช่นเดียวกับทุกความสัมพันธ์บนโลกใบนี้  

ที่มา : offbeatwed

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• เด็กหญิงขายไม้ขีดไฟ สาวน้อยที่ไม่มีใครสนใจ มีแต่ความตายที่ปลดปล่อยเธอ 
• สรุปให้ ‘จ้าวลู่ซือ’ นางเอกดังแดนมังกร ทำไมป่วยหนัก ถึงขั้นสื่อสารไม่ได้ ? 
• ท็อป อดีตวง 'BIGBANG' โดนวิจารณ์แสดงแย่ใน Squid Game ซีซั่น 2