SHORT CUT
ญี่ปุ่นกำลังเผชิญ ไข้หวัดใหญ่-โควิดระบาดหนัก กระทรวงสาธารณสุขเตือนสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือให้บ่อย ระวังไอจามในที่สาธารณะ นักท่องเที่ยวอย่าตื่นตระหนกเที่ยวได้ปกติแต่ต้องระวัง
สำนักข่าว NHK และกระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่น รายงานว่า ขณะนี้ประเทศญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อในช่วงฤดูหนาว โดยจำนวนผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่และผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องกว่า 2 เท่าภายในสัปดาห์เดียว ยอดผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่พุ่งขึ้นกว่า 20,000 รายจากสัปดาห์ก่อน รวมมีผู้ป่วยกว่า 347,000 รายจากทั่วประเทศ ในขณะที่ผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 15,163 ราย สูงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาถึง 3,200 ราย
นอกจากนี้ยังมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น ปอดบวมจากเชื้อ Mycoplasma จำนวนมาก และผู้เชี่ยวชาญเรียกร้องให้มีมาตรการควบคุมการติดเชื้อขั้นพื้นฐานอย่างละเอียด เช่น การสวมหน้ากากอนามัยและการล้างมือ
จำนวนผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่รายงานโดยสถาบันการแพทย์ทั่วประเทศทั้งโรงพยาบาล และคลินิกในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 8 ธันวาคม เฉลี่ยอยู่ที่ 9.03 รายต่อสถาบัน เพิ่มขึ้นเป็นเวลา 7 สัปดาห์ติดต่อกัน แยกตามจังหวัด ฟุกุโอกะ 20 ราย มีผู้ป่วยสะสมสูงสุด รองลงมาคือ โออิตะ 13 ราย และชิบะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ
กระทรวงสาธารณสุขระบุว่า อาการไข้หวัดใหญ่ที่มักเกิดขึ้นกับทางเดินหายใจส่วนบน ได้แก่ อาการไอ ปวดศีรษะ น้ำมูกไหล มีไข้ อ่อนเพลีย และปวดข้อ โดยอาการอาจรุนแรงขึ้นในผู้สูงอายุ ทารก หรือผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าในช่วง 12 เดือนหลังเดือน พ.ค. 2023 มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในญี่ปุ่นมากกว่า 32,000 ราย ซึ่งเป็นช่วงที่ยกเลิกมาตรการป้องกันสุขภาพ รวมถึงการกักตัวสำหรับผู้ติดเชื้อ ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปคิดเป็นร้อยละ 97 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด และมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2,244 รายในช่วงเวลาเดียวกัน
กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นได้ออกคำแนะนำให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้มาตรการการป้องกันขั้นพื้นฐานอย่างเคร่งครัด ได้แก่
สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางไปญี่ปุ่นในช่วงนี้ กระทรวงฯ แนะนำให้เตรียมยาประจำตัว หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ และของใช้จำเป็นติดตัว พร้อมระมัดระวังการเดินทางไปในสถานที่ที่มีคนหนาแน่น แม้ว่าสถานการณ์จะดูน่ากังวล แต่ยังคงสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้หากปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน
ที่มา : World Forum ข่าวสารต่างประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง