โรคไอกรน คืออะไร โรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ อันตรายถึงชีวิต

โรคไอกรน หรือ โรคไอร้อยวัน (Pertussis) คือโรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bordetella pertussis ทำให้เกิดอาการไอรุนแรงและต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในเด็กเล็ก อาการไอของโรคไอกรนจะมีลักษณะเฉพาะคือ ไอซ้ำๆ ติดๆ กันหลายครั้ง จนหายใจไม่ทัน แล้วตามด้วยเสียงหายใจเข้าลึกๆ คล้ายเสียงวู๊บ (Whooping cough) สลับกันไปกับการไอเป็นชุดๆ จึงมีชื่อเรียกว่า “โรคไอกรน” บางครั้งอาการอาจจะเรื้อรังนานเป็นเวลา 2-3 เดือน
 

อาการของโรคไอกรน

อาการของโรคแบ่งได้เป็น 3 ระยะ ดังนี้

1. ระยะแรก (1-2 สัปดาห์): อาการคล้ายหวัดธรรมดา เช่น ไข้ต่ำ น้ำมูกไหล ไอเล็กน้อย
2. ระยะต่อมา (2-6 สัปดาห์): ไอเป็นชุดๆ และมีเสียง 'กรน' หรือ 'หอบ' ระหว่างการหายใจเข้า อาการไออาจรุนแรงและถี่มากจนทำให้ผู้ป่วยเหนื่อยล้า หรืออาเจียน
3. ระยะฟื้นตัว: อาการไอจะค่อยๆ ดีขึ้นหลังจากหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน แต่ผู้ป่วยยังคงมีอาการไอต่อเนื่องไปอีกระยะหนึ่ง

 

การแพร่กระจาย

โรคไอกรนสามารถแพร่ระบาดได้โดยการสัมผัสกับละอองฝอยจากการไอหรือจามของผู้ติดเชื้อ ดังนั้น ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยจึงมีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ

 

กลุ่มเสี่ยงโรคไอกรน

• เด็กเล็ก เป็นกลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงและอาจเสียชีวิตได้
• ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคไอกรน รวมถึงผู้ใหญ่ที่เคยได้รับวัคซีน แต่ภูมิคุ้มกันลดลง
• ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจ

โรคแทรกซ้อนจากโรคไอกรน

 

• โรคแทรกซ้อนทางระบบทางเดินหายใจ ที่พบบ่อย ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ การอักเสบของหลอดลมสามารถเกิดขึ้นจากการระคายเคืองที่เกิดจากการไอที่ต่อเนื่อง
• การไออย่างรุนแรงอาจทำให้มีการแตกของหลอดเลือดในบริเวณต่างๆ เช่น บริเวณตาหรือจมูก
• การไอที่รุนแรงอาจกระตุ้นให้เกิดการชักได้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีความเสี่ยงสูง

การป้องกันโรคไอกรน

• การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไอกรน (วัคซีน DTaP) เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อ โดยทั่วไปเด็กจะได้รับวัคซีนนี้ในช่วงอายุ 2, 4, 6 เดือน และในตอนอายุ 4-6 ปี รวมทั้งยังแนะนำให้ผู้ใหญ่ที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับทารกหรือเด็กเล็กได้รับการกระตุ้นวัคซีนในบางกรณี
• ส่วนการรักษาจะเน้นที่การบรรเทาอาการไอ เช่น การดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง และการใช้ยาที่ช่วยควบคุมอาการ 
• ควรป้องกันการแพร่เชื้อโดยสวมหน้ากากอนามัย 

ที่มา bangkokbiznews

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• โรคแพ้ภูมิตัวเอง SLE หรือโรคพุ่มพวง คืออะไร โรคร้ายจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ
• เตือนภัย! "โรคฉี่หนู" ในเด็กช่วงน้ำท่วม เล่นน้ำขังนานๆ เสี่ยงติดเชื้อ
• หมอเตือน! กินผักสดๆ เนื้อดิบ ระวัง “โรคพยาธิ” ถามหา ควรปรุงให้สุกก่อนกิน