svasdssvasds

หมอเตือน! กินผักสดๆ เนื้อดิบ ระวัง “โรคพยาธิ” ถามหา ควรปรุงให้สุกก่อนกิน

หมอเตือน! กินผักสดๆ เนื้อดิบ ระวัง “โรคพยาธิ” ถามหา ควรปรุงให้สุกก่อนกิน

หมอมนูญ เตือนกินพืชน้ำจืดแบบสดๆ แหล่งสะสมพยาธิ เสี่ยงโรคพยาธิใบไม้ปอดและตับ ส่วนกินเนื้อสัตว์ดิบ หวั่นโรคพยาธิตัวตืดหมู ควรปรุงให้สุกทุกครั้ง

SHORT CUT

  • การกินอาหารดิบ หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ โดยเฉพาะพืชผักน้ำจืดหรือเนื้อสัตว์ อาจก่อให้เป็นแหล่งสะสมของพยาธิและเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด "โรคพยาธิ"
  • เมื่อพยาธิเข้าสู่ร่างกายจะชอนไชทะลุผนังลำไส้และเข้าไปฝังตัวที่ปอด ทำให้ปอดอักเสบ หากทะลุออกไปที่ช่องท้องจะทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน
  • โรคพยาธิและโรคจากปรสิตต่างๆ สามารถป้องกันได้ โดยรับประทานอาหารที่สุกและสะอาด 

หมอมนูญ เตือนกินพืชน้ำจืดแบบสดๆ แหล่งสะสมพยาธิ เสี่ยงโรคพยาธิใบไม้ปอดและตับ ส่วนกินเนื้อสัตว์ดิบ หวั่นโรคพยาธิตัวตืดหมู ควรปรุงให้สุกทุกครั้ง

การกินอาหารดิบ หรือกึ่งสุกกึ่งดิบ โดยเฉพาะพืชผักน้ำจืดหรือเนื้อสัตว์ อาจก่อให้เป็นแหล่งสะสมของพยาธิและเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด “โรคพยาธิใบไม้ปอด” และ “พยาธิใบไม้ในตับ” 

"หมอมนูญ" นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ หรือ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ เปิดเผยว่า โรคพยาธิใบไม้ปอด เกิดจากการกินของดิบบ่อยๆ อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ ที่มีตัวอ่อนของพยาธิ เมื่อพยาธิเข้าสู่ร่างกายจะชอนไชทะลุผนังลำไส้และเข้าไปฝังตัวที่ปอด ทำให้ปอดอักเสบ หากทะลุออกไปที่ช่องท้องจะทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน

เมื่อพยาธิที่ปอดออกไข่ ไข่จะออกมาทางหลอดลม ส่งผลให้เกิดอาการไอ มีเสมหะ หลอดลมเกิดการอักเสบจากการติดเชื้อ ผู้ป่วยระยะนี้มักมีอาการเจ็บหน้าอก ไอเรื้อรัง หรือมีเลือดปนออกมากับเสมหะ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง พยาธิอาจชอนไชเข้าไปยังอวัยวะอื่นๆ เช่น ดวงตา กล้ามเนื้อใต้ผิวหนัง ตับ แต่ที่พบบ่อย คือ พยาธิในสมอง ทำให้ผู้ป่วยระยะนี้มีไข้ ปวดศีรษะ อาเจียน ตาพร่า เป็นอัมพาตได้

ผู้ป่วยโรคพยาธิใบไม้ในตับ ระยะแรกมักจะไม่มีอาการ เมื่อมีพยาธิสะสมมากเป็นเวลานานจะทำให้เกิดอาการ ท้องอืด แน่นท้อง เจ็บบริเวณชายโครงขวา ออกร้อนบริเวณหน้าท้อง หากปล่อยไว้นานจะมีอาการอักเสบของท่อน้ำดี ตัวเหลือง ตาเหลือง ตับโต ต่อมน้ำเหลืองโต มีไข้ บางรายอาจกลายเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในตับ และอาจเสียชีวิตได้

ล่าสุด มีผู้ป่วยชาย อายุ 64 ปี เป็นคนในพื้นที่ภาคเหนือ มาตรวจสุขภาพประจำปี ไม่มีไข้ ไม่ปวดท้อง ไม่คลื่นไส้ ไม่อาเจียน กินอาหารได้ปกติ น้ำหนักไม่ลด ผู้ป่วยมีพฤติกรรมการกินพืชน้ำ เช่น สายบัว ผักบุ้ง ผักกระเฉด ผักแว่น ตะไคร่น้ำ แบบสดๆ เป็นประจำโดยไม่ได้ปรุงให้สุกก่อน

เมื่อตรวจร่างกาย ไม่เจ็บใต้ชายโครงข้างขวา ตับไม่โต ทำคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI ที่ตับ พบก้อนในตับข้างขวา จึงได้เจาะชิ้นเนื้อตับ ส่งตรวจพยาธิวิทยา ผลคือ เป็นฝีในตับจากพยาธิใบไม้ในตับฟาสซิโอลา (Fascioliasis)

อย่างไรก็ดี เมื่อเร็วๆ นี้ มีรายงานข่าวว่า ดร.แซม กาลี แพทย์ประจำแผนกฉุกเฉิน มหาวิทยาลัยฟลอริดา สหรัฐฯ ได้ออกมาเผยภาพซีทีสแกนของคนไข้รายหนึ่ง เพื่อแชร์เป็นอุทาหรณ์คนชอบทานเนื้อหมูที่ไม่สุก ส่งผลให้ติดเชื้อซิสติเซอร์โคซิส ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อที่เกิดจากตัวอ่อนของปรสิต แทเนีย โซเลียม (Taenia solium) หรือ “พยาธิตัวตืดหมู”

“โรคพยาธิและโรคจากปรสิตต่างๆ สามารถป้องกันได้ โดยรับประทานอาหารที่สุกและสะอาด หลีกเลี่ยงอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ โดยเฉพาะคนเหนือและคนอีสานที่มีพฤติกรรมชอบรับประทานอาหารดิบ ให้ปรุงพืชผักน้ำจืด รวมถึง เนื้อสัตว์ ให้สุกไม่ควรรับประทานสดๆ”

ที่มา : thansettakij

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related