svasdssvasds

“สรรพสามิต” จ่อรื้อโครงสร้างภาษีบุหรี่ใช้อัตราเดียว แก้บุหรี่เถื่อนทะลัก

“สรรพสามิต” จ่อรื้อโครงสร้างภาษีบุหรี่ใช้อัตราเดียว แก้บุหรี่เถื่อนทะลัก

“เผ่าภูมิ โรจนสกุล” รมช.คลัง สั่ง “สรรพสามิต” รื้อโครงสร้างภาษีบุหรี่ใช้อัตราเดียว ชี้บุหรี่เถื่อนทะลัก รีดภาษีลดลง

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการมอบนโยบายกรมสรรพสามิต ได้สั่งการให้กรมพิจารณาการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ ที่มีแนวทางนำไปสู่การจัดเก็บภาษีบุหรี่อัตราเดียว (Singler Rate) เพื่อลดการบิดเบือนกลไกราคา จากปัจจุบันที่จัดเก็บภาษีบุหรี่สองอัตรา

อย่างไรก็ตาม ให้พิจารณาปัจจัยความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการและสนับสนุนผู้เพาะปลูกใบยาสูบในประเทศด้วย 

หากย้อนกลับไปเมื่อ 7 ปีก่อน หลังกระทรวงการคลังปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ครั้งใหญ่เมื่อปี 2560 โครปรับเปลี่ยนวิธีจัดเก็บภาษีสรรรรพสามิตใหม่ จากเก็บคาษีแค่อัตราเดียว (Single Rate) เปลี่ยนมาเป็นการจัดเก็บภาษีอัตราผสม (Compound Rate) คือ จัดเก็มภาษีทั้งทางตามปริมาณ (Specic Rate) กับบุหรี่ทุกยี่ห้อ มวนละ 1.20 บาท หรือ ซองละ 24 บาทก่อน จากนั้นก็จัดเก็บภาษีตามมูลค่าอีก (Ad Valorem Rate) โดยแยกออกเป็น 2 อัดรา หรือ "2 Tiers" ที่คำนวณเภาษีบนฐานราคาขายปลีกแนะนำ 

ซึ่งกำหนดโดยกรมสรรพสามิต รายละเอียดมีดังนี้

  1. บุหรี่ที่ตั้งราคาขายปลีกไม่เกินซองละ 60 บาท เสียภาษีตามมูลค่าในอัตรา 2096 ของราคาขายปลีกแนะนำ โดยให้เวลาผู้ประกอบการกลุ่มตลาดล่างปรับตัว 2 ปี หลังจากวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป กรมสรรพสามิตจะเก็บภาษีดามมูลค่าในอัตรา 4096 ของราคาขายปลีกแนะนำ
  2. บุหรี่ที่ตั้งราคาขายปลีกเกินซองละ 60 บาท เสียภาษีที่อัตรา 40% ของราคาขายปลีกแนะ

นอกจากนี้ ได้รับรายงานว่า กรมดำเนินการระบบตรวจ ติด ตาม บุหรี่ โดยใช้ระบบ QR Code ในบุหรี่ เพื่อป้องกันบุหรี่เถื่อนทั้งระบบ ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบข้อมูลการเสียภาษี และแหล่งที่มาของบุหรี่เพื่อมั่นใจได้ว่าได้มาตรฐานและตรวจสอบโดยกรมสรรพสามิต

“ปัจจุบันการจัดเก็บรายได้ภาษีบุหรี่ลดลง ส่วนใหญ่มีสาเหตุจากบุหรี่เถื่อน ซึ่งในการสั่งการให้สรรพสามิตไปพิจารณาแนวทางเก็บภาษีบุหรี่อัตราเดียว คาดว่าจะเห็นความชัดเจนเร็วๆ นี้ โดยจะพิจารณาให้อุตสาหกรรมได้มีเวลาปรับตัว ที่สำคัญต้องไม่กระทบทางไร่ผู้ปลูกใบยา”

ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตเข้มงวดในการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมาย โดยในปีงบประมาณ 67 ปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายทั่วประเทศทุกช่องทางได้ 33,359 คดี สูงขึ้นกว่าปีก่อน 28.03%  คิดเป็นเงินค่าปรับ 690.75 ล้านบาท และประมาณการค่าปรับ 2,465.86 ล้านบาท 

สำหรับการปราบปรามยาสูบนั้น มีกว่า 13,170 คดี  ประมาณการค่าปรับ 2,334 ล้านบาท แบ่งเป็น ยาสูบในประเทศ 301,961 ซอง และยาสูบต่างประเทศ 2,579,434 ซอง  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related