svasdssvasds

รวมนโยบายหาเสียง "โดนัลด์ ทรัมป์" จะเปลี่ยนโลกอย่างไรถ้าเขากลับมา ?

รวมนโยบายหาเสียง "โดนัลด์ ทรัมป์" จะเปลี่ยนโลกอย่างไรถ้าเขากลับมา ?

จับตาดูนโยบายหาเสียง โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมเปิดตัวนโยบายด้านต่างๆ

SHORT CUT

  • "โดนัลด์ ทรัมป์" อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดตัวนโยบายด้านต่างๆ ที่น่าสนใจในระหว่างการหาเสียง

  • "โดนัลด์ ทรัมป์" เปิดนโยบายสร้างเศรษฐกิจให้เฟื่องฟูอีกครั้ง พร้อมดันการค้าที่เป็นธรรมเพื่อคืนความมั่งคั่งทางการผลิตสู่อเมริกา

  • ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนให้ความเห็น หากได้รับเลือกอีกสมัย อาจกระทบต่อปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐฯ

 

จับตาดูนโยบายหาเสียง โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมเปิดตัวนโยบายด้านต่างๆ

โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับมาลงชิงชัยสนามเลือกตั้งอีกครั้ง ด้วยการเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และในระหว่างการหาเสียง เขาเปิดตัวนโยบายในด้านต่างๆ และนี่คือนโยบายที่น่าสนใจ

Rebuild the Greatest Economy in History

สร้างเศรษฐกิจอันยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ขึ้นมาอีกครั้ง ทรัมป์อ้างว่า เมื่อตอนเขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ความยากจนได้ลดลงต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์  และฟื้นฟูเศรษฐกิจให้รุ่งเรืองขึ้น ส่วนนโยบายสี่ปีหลังจากนี้ถ้าหากเขาได้รับเลือกตั้ง เขาจะกลับมาฟื้นฟูเศรษฐกิจของสหรัฐฯอีกครั้งด้วยการลดภาษี ขึ้นเงินเดือน และเพิ่มงานให้แก่แรงงานชาวอเมริกัน

Fair Trade for the American Worker

การค้าที่เป็นธรรมเพื่อแรงงานชาวอเมริกัน สมัยที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาก็ใช้นโยบายที่ค่อนข้างกีดกันทางการค้า โดยทรัมป์บอกว่า เขาจะสร้างการค้าที่เป็นธรรมและต่างตอบแทนซึ่งกันและกัน ที่จะช่วยคืนงาน ความมั่งคั่งและการผลิตคืนสู่อเมริกา โดยทรัมป์สัญญาว่าจะใช้นโยบายที่ทำให้สหรัฐฯไม่ต้องพึ่งพาจีนอีกต่อไปอีก 4 ปี ทั้งสินค้าด้านความมั่นคงและทางการแพทย์ที่จำเป็น รวมถึงแบนการที่จีนเข้ามาเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ

เราจะได้เห็นสหรัฐฯ กลับมาใช้นโยบายปกป้องทางการค้าอีกครั้ง ซึ่งนั่นจะช่วยกระตุ้นการผลิตในสหรัฐฯ และเขาเสนอที่จะขึ้นกำแพงภาษี 10% กับสินค้านำเข้าทั้งหมด และ 60% ต่อสินค้าที่นำเข้าจากจีน The Allianz จัดทำรายงานสองสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ โดยอย่างแรก สหรัฐฯจะขึ้นกำแพงภาษีต่อสินค้านำเข้าทั้งหมดจาก 2.5 เปอร์เซ็นต์เป็น 4.3 เปอร์เซ็นต์ และสินค้าจากจีนจะเจอภาษีไปถึงราว 12 เปอร์เซ็นต์

 

Secure Borders and Reclaim National Sovereignty

รักษาความมั่นคงพรมแดนและกลับมาครอบครองอธิปไตยแห่งชาติอีกครั้ง สมัยที่ทรัมป์นั่งเก้าอี้เป็นประธานาธิบดี เขาอ้างว่า ได้สร้างชายแดนที่มีความมั่นคงที่สุดในประวัติศาสตร์ จัดการปัญหาการค้ามนุษย์ การส่งแก๊งต่างด้าวที่ผิดกฎหมายกลับ และยังสร้างกำแพงความยาว 450 ไมล์หรือประมาณ 725 กิโลเมตร โดยทรัมป์ให้คำมั่นว่า ทรัมป์จะชัทดาวน์วิกฤตชายแดนรัฐบาลไบเดน-แฮร์ริส และจะกลับมาคืนความมั่นคงให้แก่ประเทศอีกครั้ง โดยจะส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ หรือ National Guard และหน่วยบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่น เพื่อให้ความช่วยเหลือในการจัดการแก๊งต่างด้าวผิดกฎหมายและอาชญากรรม

ปัญหาเศรษฐกิจยังเป็นประเด็นหลัก

ทรัมป์กล่าวระหว่างลงพื้นที่หาเสียงที่เมืองซาวานนาห์ รัฐจอร์เจียเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ให้คำมั่นว่า เขาจะสร้างยุคเรเนสซองซ์ หรือยุครุ่งเรืองของภาคการผลิตขึ้นมาอีกครั้ง และเขาจะลงโทษบริษัทสัญชาติอเมริกันที่ไปตั้งฐานการผลิตนอกประเทศ รวมถึงจะตั้งกำแพงภาษีที่สูงมากต่อสินค้าที่ผลิตในต่างประเทศ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เขาเสนอจัดตั้งเขตพิเศษที่มีภาษีต่ำมากและไม่มีข้อจำกัดที่วุ่นวาย เพื่อให้บริษัทต่างๆ ย้ายฐานการผลิตกลับมายังสหรัฐฯ และภายใต้แผนการของเขา แรงงานชาวอเมริกันจะไม่ต้องกลัวว่าจะถูกแย่งงานจากชาวต่างชาติ  กลับกันต่างชาติจะต้องกังวลว่าจะเสียงานให้กับอเมริกาแทน

แต่ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนเชื่อว่า หากทรัมป์ได้รับเลือกตั้งอีกสมัย อาจจะส่งผลกระทบต่อปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เพราะการที่ทรัมป์ตั้งกำแพงภาษีให้สูงขึ้นอาจจะทำให้ปัญหาเงินเฟ้อกลับมารุนแรงอีก และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟด ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง

นอกเหนือไปกว่านั้น การที่เขาให้คำมั่นว่าจะตัดลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายงบประมาณ อาจจะไปส่งผลกระทบต่องบประมาณในคลังได้

และท้ายที่สุด ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ทรัมป์ต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบ ในเรื่องเพิ่มการผลิตภายในประเทศ และลดการผลิตในต่างประเทศ

 

ที่มา : BBC / yahoo!finance

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related