svasdssvasds

โอลิมปิกหายไปกว่า 1,500 ปี เพราะศาสนาคริสต์สั่งยกเลิก

โอลิมปิกหายไปกว่า 1,500 ปี เพราะศาสนาคริสต์สั่งยกเลิก

โอลิมปิกหายไปกว่า 1,500 ปี เพราะศาสนาคริสต์สั่งยกเลิก ประวัติศาสตร์เรื่องจริงที่ไม่ค่อยมีคนรู้มากนักในยุคปัจจุบัน

SHORT CUT

  • ความเป็นจริงแล้วกีฬาโอลิมปิกที่ว่าไม่ใช่กิจกรรมของศาสนาคริสต์อยู่ แต่เป็นกิจกรรมที่บูชาเทพนอกรีตในสายตาชาวคริสต์อย่างเทพเจ้าชาวคริสต์
  • โอลิมปิกโบราณสิ้นสุดลงในช่วงหลัง ค.ศ. 393 เมื่อจักรพรรดิธีโอโดเซียสที่ 1 ของโรมัน ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์ ประกาศให้กำจัดลัทธิและพิธีกรรมบูชาเทพอื่น ๆ และจักรพรรดิธีโอโดเซียสที่ 2 ผู้สืบราชบัลลังก์ ออกคำสั่งให้ทำลายเทวสถานกรีกทั้งหมดใน ค.ศ. 426
  • ก่อนที่จะฟื้นกลับมาในปี ค.ศ. 1896 โดย ปิแอร์ เดอ กูแบร์กแตง ขุนนางชาวฝรั่งเศส ได้ริเริ่มก่อตั้งคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) 

โอลิมปิกหายไปกว่า 1,500 ปี เพราะศาสนาคริสต์สั่งยกเลิก ประวัติศาสตร์เรื่องจริงที่ไม่ค่อยมีคนรู้มากนักในยุคปัจจุบัน

โอลิมปิกฝรั่งเศสเรียกได้ว่าเป็น Talk of the Town ทำอะไรก็ดูเป็นประเด็นคนวิจารณ์สนั่นทั่วโลกไปหมด

ล่าสุดพิธีเปิดโอลิมปิกก็ไม่วายจะได้ซีน เพราะในพิธีเปิดมีการแสดงฉาก The Last Supper หรือที่คนไทยรู้จักคือภาพพระกระยาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู แล้วจู่ๆ มีเทพไดโอนีซุส เทพเจ้าแห่งไวน์และความสนุกสนานเมามายในตำนานเทพเจ้ากรีก โผล่มากลางโต๊ะเสียอย่างนั้น

โอลิมปิกหายไปกว่า 1,500 ปี เพราะศาสนาคริสต์สั่งยกเลิก

เล่นเอาผู้นับถือศาสนาคริสต์ในโลกโซเชียลร้อนใจถึงกับขู่บอยคอตโอลิมปิก หรือผู้สนับสนุนบางกลุ่มจะถอนตัว เหตุเพราะไม่เหมาะสมนำเทพนอกรีตในสายตาชาวคริสต์มาอยู่ร่วมเฟรมกับพระเยซู

แหม่….แต่ความเป็นจริงแล้วเนี่ยกีฬาโอลิมปิกที่ว่าเนี่ย มันก็ไม่ใช่กิจกรรมของศาสนาคริสต์อยู่แล้ว และเป็นกิจกรรมที่บูชาเทพนอกรีตในสายตาชาวคริสต์อย่างเทพเจ้าชาวคริสต์สะด้วย แล้วจะโวยวายกันทำไม

SPRiNG พาไปเผยความจริงเหตุที่โอลิมปิกถูกยกเลิกก็เพราะนักบวชคริสต์ เพราะในสายตาของพวกเขาเทพองค์อื่นคือเทพนอกรีตในศาสนาในสายตาพวกเขานั่นเอง

รู้จักกีฬาโอลิมปิกฉบับย่อ

ก่อนที่จะกำเนิดศาสนาคริสต์ในดินแดนของชาวกรีกบริเวณประเทศ กรีซ มาซิโดเนีย ตุรกี ฯลฯ ได้มีผู้คนอาศัยอยู่ก่อนแล้ว คนเหล่านั้นแบ่งออกเป็นนครรัฐต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เอเธนส์ สปาร์ตา มาซิโดเนีย

ถึงแม้พวกเขาแบ่งออกเป็นนครรัฐแต่มีสิ่งที่คล้ายกันคือการนับถือเทพเจ้าแห่งเขาโอลิมปัส ที่มีเทพซุสเป็นเทพประมุข

โอลิมปิกหายไปกว่า 1,500 ปี เพราะศาสนาคริสต์สั่งยกเลิก

บันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรและการขุดค้นทางโบราณคดีพบว่า โอลิมปิกดั้งเดิม มีขึ้นที่เมืองโอลิมเปีย บนคาบสมุทรเพโลพอนนีส ประเทศกรีซ ประมาณปี 776 ก่อนคริสตกาล หรือย้อนไปนานกว่า 2,700 ปี และจัดขึ้นทุก ๆ 4 ปี ซึ่งชาวกรีกโบราณจัดขึ้นในงานเทศกาลเพื่อสดุดี ซุ ราชาแห่งเทพนั่นเอง

การละเล่นกีฬาของพวกเขาจะมีการวิ่งแข่งระยะกลาง, วิ่งแข่งระยะไกล, ปัญจกีฬา, มวยปล้ำ, ชกมวย, แข่งรถเทียมม้า 4 ตัว, วิ่งแข่งในชุดเกราะ

โดยพวกเขาจะเปลื้องผ้าในการแข่งขันกีฬาชนิดต่างๆ ด้วย และพวกเขาก็แข่งขันกีฬาดังกล่าวมาอย่างยาวนานถึงแม้จะถูกพวกโรมันยึดครองนครรัฐต่างๆ ของเขาก็ตาม

ศาสนาคริสต์สั่งยกเลิกโอลิมปิก

แต่อยู่ดีๆ ก็เกิดเหตุทำให้การจัดโอลิมปิกของชาวกรีกถูกยกเลิกเสียอย่างนั้น เพราะจักรวรรดิโรมันที่ว่าแต่ก่อนก็นับถือเทพคล้ายๆ กันแต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไปจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโรมันเริ่มเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์

โอลิมปิกโบราณสิ้นสุดลงในช่วงหลัง ค.ศ. 393 เมื่อจักรพรรดิธีโอโดเซียสที่ 1 ของโรมัน ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์ ประกาศให้กำจัดลัทธิและพิธีกรรมบูชาเทพอื่น ๆ และจักรพรรดิธีโอโดเซียสที่ 2 ผู้สืบราชบัลลังก์ ออกคำสั่งให้ทำลายเทวสถานกรีกทั้งหมดใน ค.ศ. 426 ซึ่งจักรพรรดิมองว่าเป็นศาสนานอกรีตในสายตาของคริสเตียน

ซึ่งกลุ่มคนที่ทำให้จักรพรรดิเชื่อเรื่องดังกล่าวก็คือนักบวชในศาสนาคริสต์นี่แหละที่เป็นคนเสนอแนะความคิดเห็นเรื่องดังกล่าว

โอลิมปิกหายไปกว่า 1,500 ปี เพราะศาสนาคริสต์สั่งยกเลิก

และยังไม่หมดเพียงเท่านั้นในเมื่อจักรวรรดิโรมันคือจักรวรรดิแห่งผู้มีอารยะ และศาสนาคริสต์ก็สุดแสนจะหน้าบางรับไม่ได้กับวิถีการแข่งขันกีฬาที่เปลื้องผ้า เพื่อโชว์ความแข็งแกร่งของร่างกาย และนำเสนอความงามของร่างกายฉบับกรีกเพราะชาวกรีกเชื่อว่าถูกสร้างสรรค์ขึ้นโดยเทพเจ้ากรีก หากแต่ในสายตาของชาวคริสต์ การเปลื้องผ้านี้ไร้อารยะ เหมือนพวกคนเถื่อน สุดท้ายแล้วการแข่งขันกีฬาเพื่อบวงสรวงเทพเจ้านอกรีตนี้จึงต้องถูกกำจัดให้หายไป

โอลิมปิกฟื้นกลับมาอีกครั้ง

เมื่อโลกมีการเปลี่ยนแปลงจักรวรรดิโรมันร่มสลายลงไป ยุโรปแบ่งออกเป็นรัฐชาติใหม่ๆ มากมายดินแดนกรีกก็แตกกระจายออกเป็นหลายๆ ประเทศ

ค.ศ. 1896 ปิแอร์ เดอ กูแบร์กแตง ขุนนางชาวฝรั่งเศส ได้ริเริ่มก่อตั้งคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (IOC) และฟื้นฟูกีฬาโอลิมปิกสมัยใหม่ขึ้นมาอีกครั้ง

โดยมี ดร. วิลเลียม เพนนี บรุกส์ ศัลยแพทย์และนักวิชาการชาวอังกฤษ ที่สนใจและทุ่มเทกับการจัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเป็นอย่างมาก เป็นผู้ริเริ่มและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเขา หลังจากที่บรุกส์ผลักดันจนสามารถจัดแข่ง โอลิมปิก เกมส์ แห่งชาติ ที่กรุงลอนดอนได้สำเร็จในปี 1866 ซึ่งกูแบร์กแตงเริ่มมีแนวคิดจัดการแข่งขันโอลิมปิกในปี 1889 และได้รับการติดต่อจากบรุกส์ในปีต่อมา ทั้งคู่มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันขณะที่กูแบร์กแตงได้สำรวจความคิดเห็นของนักกีฬารวมทั้งองค์กรกีฬานานาชาติยาวนานถึง 5 ปี ก่อนจะจัดการประชุมคณะกรรมการขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 1894 และจัดการแข่งขันครั้งแรกขึ้นที่กรุงเอเธนส์ในอีก 2 ปีต่อมา ทำให้กีฬาโอลิมปิกในจัดในพื้นที่บ้านเกิดอีกครั้งอย่างภาคภูมิใจ

โอลิมปิกหายไปกว่า 1,500 ปี เพราะศาสนาคริสต์สั่งยกเลิก

ฉะนั้นในงานโอลิมปิก 2024 ณ กรุงปารีส ได้นำเทพเจ้าไดโอนีซุสมาขึ้นบนโต๊ะอาหารในฉาก The Last Supper จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะหากเราถือโอลิมปิกเป็นกีฬาแห่งมนุษยชาติโดยไม่แบ่งเชื้อชาติ ศาสนาหรือสีผิว วัฒนธรรม การนำเทพเจ้ากรีกมาสร้างสีสันในมหกรรมกีฬาดังกล่าวจึงไม่ใช่เรื่องแปลก

เพราะเป็นการนำความเชื่อและศิลปะจากหลายๆ ชาติเข้ามาหลอมรวมกันให้เป็นหนึ่งเดียวและจุดมุ่งหมายของกีฬาคือการสร้างความสามัคคี

สุดท้ายแล้วโอลิมปิกไม่ใช่ของคนใดคนหนึ่งแต่ของมวลมนุษยชาติทุกคนที่มีความเห็นแตกต่างกันออกไปดังนั้นการที่ชี้ว่าการนำฉาก The Last Supper มีเทพไดโอนีซุส โผล่มากลางโต๊ะอาจไม่ใช่ประเด็นที่เอาเรื่องศาสนาไปโจมตีเพราะหากคุณนำเรื่องนี้ไปโจมตีชาวกรีกโบราณที่เป็นนักวิจารณ์อาจจะลุกขึ้นมาตอบโต้ว่าก็โอลิมปิกที่จัดอยู่เนี่ยฉันจัดเพื่อบูชาเทพเจ้าของฉันที่ไม่ใช่พระเยซูด้วยซ้ำไป

อ้างอิง 

StadiumTH / GroundControl /

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

related