SHORT CUT
ฟุตบอลโลก VS โอลิมปิกเกมส์ งานไหนคือมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษย์ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด วัดจากจำนวนคนดู และประวัติศาสตร์
นับตั้งแต่การกำเนิดของฟุตบอลโลก และโอลิมปิกเกมส์ ก็มีดราม่าที่ถกเถียงกันมาตลอดว่า งานไหนคือมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เพราะทั้งสองงานล้วนเป็นการแข่งขันกีฬาที่มีหลายชาติเข้าร่วม และมีจำนวนผู้ชม ประวัติศาสตร์ และชื่อเสียงในระดับที่ใกล้เคียงกัน
ในบทความนี้ ทีม SPRiNG จึงขอพามาดูข้อมูลในด้านต่างๆ จาก 2 มหกรรมกีฬานี้กัน
ตามสถิติของ Statista ระหว่างปี 2012 - 2020 จำนวนผู้ชมการถ่ายทอดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกทั่วโลกลดลงเรื่อยๆ โดยโอลิมปิกปี 2012 ที่อังกฤษมียอดผู้ชมรวม 3,600 ล้านคน ส่วนโอลิมปิกปี 2016 ที่บราซิล มียอดผู้ชมรวม 3,200 ล้านคน ส่วนครั้งล่าสุดในปี 2021 ที่ญี่ปุ่น ผู้ชมรวม 3,050 ล้านคน แต่โอลิมปิกที่ฝรั่งเศสในปี 2024 คาดการณ์ว่าจะมีผู้ชมมากถึง 4 พันล้าคน ซึ่งหากเป็นเรื่องจริงจะเป็นสถิติสูงที่สุดในรอบ 8 ปี
ขณะที่ FIFA รายงานว่า ฟุตบอลโลกปี 2014 ที่บราซิลมียอดผู้ชมทั่วโลกรวม 3,200 ล้านคน ปี 2018 ที่รัสเซีย มียอดผู้ชมทั่วโลก 3,570 ล้านคน และปี 2022 ที่กาตาร์ มียอดผู้ชมทั่วโลก สูงถึง 5 พันล้านคน (เฉพาะรอบชิงชนะเลิศ 1.500 ล้านคน) ซึ่งแปลว่า ฟุตบอลโลก มีผู้ชมมากขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม ถึงภาพรวมจะชี้ว่ามีคนทั่วโลกชมฟุตบอลโลกมากกว่า แต่ทั้งหมดนี่เป็นเพียงการแข่งขันด้านตัวเลขเท่านั้น และเป็นแค่การประมาณคร่าวๆ จากทีมงานของ 2 มหกรรมกีฬานี้ ซึ่งอาจมีความผิดพลาด หรือใส่ข้อมูลเกินจริงอยู่บ้าง
โอลิมปิกโบราณ (Ancient Olympic Games) จัดขึ้นครั้งแรกในประมาณ 776 ปี ก่อนคริสตกาลในประเทศกรีซ เพื่อเป็นงานเฉลิมฉลองให้เหล่าทวยเทพ ก่อนหยุดไปในปี ค.ศ 393 แล้วไม่ได้จัดอีกเลยนานกว่า 15 ศตวรรษ ก่อนที่ ‘ปิแอร์ เดร์ กูเบอร์แตง’ (Baron Pierre de Coubertin) ’ ขุนนางฝรั่งเศส ผู้หลงใหลในวัฒนธรรมของชาวกรีกโบราณ จะนำมาฟื้นฟูใหม่ จนกลายเป็น โอลิมปิกสมัยใหม่ (Modern Olympic Games) ที่จัดขึ้นครั้งแรกในปี 1896 และลายเป็น มหกรรมกีฬาเชื่อมคนทั้งโลกที่เรารู้จักกันมาถึงทุกวันนี้
ส่วน ฟุตบอลโลก เริ่มจัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ.1930 (พ.ศ.2473) โดย ‘จูลส์ ริเมต์ (Jules Rimet) ’ ประธาน FIFA ชาวฝรั่งเศส เพราะต้องการให้ฟุตบอลเป็นกีฬาที่เชื่อมสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ถ้าถามว่าจุดกำเนิด กีฬาฟุตบอลเริ่มต้นครั้งแรกเมื่อใด หนึ่งในหลักฐานที่เก่าแก่ที่สุดอยู่ในประเทศจีนช่วง 206 ก่อนคริสตกาล เพราะชาวจีนตอนนั้นมีการเล่น ‘ซูจู้’ (Cuju) แปลตรงตัวว่า เตะลูกบอล โดยสมัยนั้นใช้หนังสัตว์ทำ และมักเป็นกีฬาที่เล่นกันในหมู่ทหาร
อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาจากข้อมูลทั้งหมด อาจทำให้โอลิมปิกเกมส์เป็นผู้ชนะในแง่ของความคลาสสิก เพราะเป็นมหกรรมกีฬา ที่มีมาตั้งแต่กรีกโบราณ ซึ่งผูกกับความเชื่อเรื่องทวยเทพ นอกจากนี้การวิ่งเพลิงโอลิมปิกจากเมืองโอลิมเปีย ประเทศกรีซ ไปยังประเทศเจ้าภาพในแต่ละครั้ง ก็เป็นพิธีกรรมสุดยิ่งใหญ่ ที่ทำให้หลายประเทศมีส่วนร่วมโดยตรงอีกด้วย
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘ฟุตบอล’ คือกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก เพราะไม่ต้องใช้อุปกรณ์ราคาแพง ทำให้ทุกคนเข้าถึงกีฬาชนิดนี้ได้ไม่ยาก จึงไม่แปลกที่การสำรวจของ World Atlas จะระบุว่า แฟนกีฬาฟุตบอลทั่วโลก มีมากถึงเกือบ 4 พันล้านคน ซึ่งเป็นจำนวนเกือบครึ่งโลก
นั่นจึงทำให้การแข่งขันฟุตบอลโลกแต่ละครั้ง มั่นใจได้เลยว่าคนดูต้องเต็มสนาม เพราะพวกเขาเข้าใจดีว่ากีฬาชนิดนี้คืออะไร ขณะที่โอลิมปิกเกมส์เกมแต่ละครั้ง เป็นการรวมกีฬาหลายสิบประเภท ดังนั้น แฟนกีฬาบางคนอาจไม่อยากดูกีฬาที่พวกเขาไม่คุ้นเคย
แต่การที่มีกีฬามากกว่า ก็ทำให้โอลิมปิกเกมส์ ดูเป็นงานมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่กว่าฟุตบอลโลก เพราะนักกีฬามากมายหลายสาขาได้มีโอกาสโชว์ศักยภาพของตัวเองในเวทีระดับโลก ซึ่งจำนวนนักกีฬาในโอลิมปิกเกมส์แต่ละครั้ง มีประมาณ 10,000 คนจากทั่วโลก ต่างกับฟุตบอลโลกที่มีนักกีฬาเข้าร่วมประมาณ 800-1,000 คน จากทีมชาติ 32 ทีม
ในปี 2022 ‘YouGov’ บริษัทวิจัยการตลาดของอังกฤษ ได้สำรวจความคิดเห็นผู้บริโภค 45% จาก 50 ตลาด พบว่า จำนวนแฟนๆ ที่ติดตามฟุตบอลโลก และ โอลิมปิกฤดูร้อน มีความแตกต่างกันในแต่ละทวีปดังนี้
ท้ายที่สุด การถกเถียงว่า ฟุตบอลโลกกับโอลิมปิกเกมส์ งานไหนยิ่งใหญ่กว่ากัน ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้คือ ฟุตบอล คือกีฬาที่มีฐานแฟนมากที่สุดในโลก และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยในปี 2022 NBCUniversal Telemundo Enterprises บริษัทสื่อและบันเทิงชั้นนำของโลก รายงานว่า แฟนกีฬาฟุตบอลทั่วโลก เพิ่มขึ้น 52% ตั้งแต่ปี 2012 ถึง 2019 เมื่อเทียบกับการเติบโตของแฟนกีฬาบาสเกตบอล 27 % และ การเติบโตของเบสบอล แค่ 8% ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งแฟนบอลที่เพิ่มขึ้นนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวชาวลาตินอเมริกา ที่มองว่าการเล่นฟุตบอล คือวัฒนธรรมของพวกเขา
ดังนั้น สิ่งที่พอจะตอบได้คือ โอลิมปิกเกมส์ เป็นกีฬาที่มีความผูกพันกับประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์มากกว่า แต่ถ้าความ POP อาจตกเป็นของฟุตบอลโลก เพราะใครๆ ก็รักฟุตบอล!
ที่มา INSIDE FIFA, STATISTA, HOMBRE, YOUGOV
ข่าวที่เกี่ยวข้อง