เปิดประวัติ ‘วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ’ ผู้ต้องหารายสำคัญที่ปล้น STARK

คดีหุ้น STARK กลับมาได้รับความสนใจอีกครั้ง หลัง “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” อดีตผู้บริหาร STARK ถูกคุมตัวกลับไทยมาดำเนินคดี หลังหลบหนีอยู่ที่ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ DSI จะยื่นคัดค้านประกันตัว เพื่อป้องกันผู้ต้องหาหลบหนี

สำหรับคดีหุ้น STARK หรือ บริษัทสตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือเป็นคดีทุจริตครั้งประวัติศาสตร์ ที่มียอดเงินความเสียหายหมื่นล้านบาท และมีผู้เสียหายนับไม่ถ้วน เนื่องจาก กรรมการ , อดีตกรรมการ และ อดีตผู้บริหารของ 10 ราย การลงข้อความเท็จ ทำบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่ตรงต่อความเป็นจริง ในปี 2564 - 2565 และเปิดเผยข้อความอันเป็นเท็จ

โดยจุดเริ่มต้นของคดีที่นำมาสู่ผู้ถูกกล่าวหา เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 66 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) รับเป็นคดีพิเศษที่ 57/2566 กรณีการทุจริตใน บริษัทฯ STARK มีผู้เสียหายทั้งสิ้น 4,704 ราย มูลค่าความเสียหาย 14,778 ล้านบาท แลหลังจากนั้น วันที่ 6 ก.ค. 66 คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษผู้ที่เกี่ยวข้อง 10 ราย ได้แก่ บริษัท STARK , นายชนินทร์ , นายวนรัชต์ ผู้บริหารบริษัทสีทาบ้าน ในฐานะอดีตผู้บริหาร STARK , นายชินวัฒน์ , นายศรัทธา , นายกิตติศักดิ์ ร วมถึง บริษัทย่อยอีก 4 แห่ง

โดยในรายชื่อเหล่านั้น นอกจาก ‘ชนินทร์ เย็นสุดใจ’ แล้ว ยังมี ‘วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ’ ที่นับเป็นผู้ต้องหารายสำคัญด้วย เพราะเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นหัวหน้าแก๊งปล้น STARK  บทความนี้ทีม SPRiNG จึงพามาย้อนดูประวัติของเขากัน !

ประวัติ วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ

“วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” เป็นลูกชายคนโตในครอบครัวธุรกิจ สี TOA ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสีแห่งเดียวที่มีเจ้าของเป็นคนไทย จบการศึกษางระดับปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และเป็นผู้บริหารระดับสูงในธุรกิจของครอบครัว และยังมีการทำธุรกิจส่วนตัวเองด้วย จึงทำให้เขาเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงโด่งดัง

จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่าง "วนรัชต์" กับ STARK เกิดขึ้นได้เพราะ วนรัชทำการดึง "ชนินทร์ เย็นสุดใจ" ผู้มีชื่อเสียงในวงการตลาดทุนจากการร่วมทำงานดีล บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ให้มาดูแลและเป็นที่ปรึกษากิจการครอบครัวด้วย พร้อมให้ออกหน้าดำเนินการติดต่อเจรจาเข้าซื้อหุ้นกิจการในตลาดหุ้นไทย บริษัท SMM ที่ทำธุรกิจผลิตสื่อ นับแต่ปี 2562 โดยฝั่งนายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ เป็นผู้สนับสนุนเงินลงทุนในดีลนี้อย่างเปิดเผย

หลังจากนั้นมีการปรับโครงสร้าง หยุดผลิตสื่อ และกลายมาเป็นชื่อ STARK ตั้งแต่ 22 ก.ค. 62 โดยแกนธุรกิจหลักประกอบการผลิตและจำหน่ายสายไฟฟ้ารายใหญ่แทน ซึ่ง "วนรัชต์" มีเป็นประธานกรรมการบริหาร และถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 บริษัท

เงาทุจริตเริ่มปรากฏ

แต่ในช่วงปีปลายปี 2565 ถึงต้นปี 2566 เกิดข้อสงสัย จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงงบการเงิน ถึงงบการเงินของบริษัท จนภายหลังมีการแก้ไขตัวเลขกำไรย้อนหลังปี 2564 และ 2565 กลายเป็นพลิกมาขาดทุนจำนวนมากระดับหมื่นล้านบาท และหลังจากนั้นก็ยังไม่มีการส่งงบการเงินประจำปีถัดมาที่ได้รับการรับรอง และใรปี 2566 มีการทยอยลาออกของผู้บริหารระดับสูง STARK จึงทำให้ นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ ที่ตอนนั้นลาออกจากประธานกรรมการบริหารแล้ว ต้องเข้าไปรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารแทน

ทว่าความเสียหายพัวพันไปถึง หนี้สินหุ้นกู้ที่ต้องชำระต่อสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบสู่นักลงทุนรายย่อยที่ซื้อหุ้นกู้เหล่านั้นด้วย และเมื่อบริษัทไม่สามารถหาเงินทุนมาดำเนินธุรกิจต่อได้ ทำให้ผู้เสียหายฟ้องร้องคดีฉ้อโกงประชาชนด้วยการเสนอขายหุ้นกู้

ไม่อยู่ห้องขัง แต่นอนอยู่ รพ.ตำรวจ

เมื่อ DSI รับเป็นคดีพิเศษในเดือน มิ.ย. 66 และหลังจากใช้เวลาสืบสวนเสร็จสิ้น จึงยื่นคำร้องขอหมายจับ นายวนรัชต์ ในวันที่ 10 ก.พ. 67 ฐานเป็นกรรมการ หรือผู้บริหารบริษัทกระทำโดยทุจริต ไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต ซึ่งวันที่ 12 ก.พ. 67 เจ้าหน้าที่ เข้าคุมตัว นายวนรัชต์ ขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โยนำตัวขึ้นรถพยาบาล เพื่อนำไปส่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ และยื่นฟ้องต่อศาลอาญา

ส่วน นายชนินทร์ เย็นสุดใจ ผู้เกี่ยวข้องอีกคน ทาง DSI มีการออกหมายจับในวันที 6 ก.ค.66 เช่นกัน แต่เจ้าตัวหลบหนีไปต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว ส่วนทางด้าน นายวนรัชต์ ที่โดนคุมตัวนั้น ให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา และต่อสู้คดี จำเป็นต้องคุมตัวจำเลยไว้ส่งผลให้ใน 12 ก.พ. 67 เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวจำเลย ไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ระหว่างพิจารณาคดี แต่ก็นอนห้องขังได้ไม่นาน วันที่ 22 เม.ย. 67 เจ้าตัวมีอาการป่วย อัณฑะบวม จึงต้องส่งโรงพยาบาลตำรวจ และอยู่รักษาตัวที่นั่นนับตั้งแต่นั้น ส่วนจะกลับมา เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์

ทั้งนี้ DSI ได้ทำการ สอบสวนเส้นทางการเงินและอายัดบัญชีในบริษัทหลักทรัพย์เครดิตสวิส ของนายชนินทร์ เย็นสุดใจซึ่งมีวงเงินเหลือเท่ากับ 220 ล้านบาทพร้อมได้ส่งรายงานการดำเนินการต่อสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รวมทั้งมีข้อมูลเพิ่มเติมจาก ปปง. ว่า “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” โยกย้ายเงินไปอยู่ที่อังกฤษอีกประมาณ 8,000 ล้านบาท ด้วย

ส่วนคำถามที่นักลงทุนสงสัย ว่าเงินของบริษัทไหลออกไปทางไหน ยังมีเงินที่โกงไปซ่อนอยู่ต่างประเทศจริงแค่ไหน อาจมีความชัดเจเพิ่มเติม หลังจากที่ นายบชนินทร์ เย็นสุดใจ ถูก ทาง DSI ประสานกับเจ้าหน้าที่ดูไบ ส่งตัวกลับมาไทยในวันที่ 23 มิ.ย. 67 หลังจากหลบหนีนาน 1 ปี

ที่มา : คมชัดลึก / กรุงเทพธุรกิจ 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

• DSI ถึงดูไบ เตรียมรวบ “ชนินทร์ เย็นสุดใจ” หุ้น STARK กลับไทย 
• เศรษ​ฐา ยันเรียก รมว.ยุติธรรม คุยคดีหมูเถื่อน-หุ้นสตาร์ค ไร้คุยปม ทักษิณ 
• เปิดโผ 11 หุ้นเด่น รับนโยบาย "เพื่อไทย" ตั้งรัฐบาล แบงก์ ท่องเที่ยว นำโด่ง