SHORT CUT
ตำรวจไทยเพิ่งจับกุมผู้ลี้ภัย ถือบัตรรับรองจาก UNHCR กลางกรุง ท่ามกลางการจับตาของทุกภาคส่วนว่าจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ จะส่งกลับไปรับอันตรายที่ประเทศต้นทาง หรือส่งต่อประเทศที่สาม ตามที่เขากำลังอยู่ในกระบวนการพิจารณาลี้ภัยจากแคนาดา
“3,752 วัน 48 คนที่ยังอยู่ 5 คนที่ตาย 109 คนที่ถูกส่งกลับไปเจอความอันตราย!” คือสถานการณ์ชาวอุยกูร์ที่ไทยควบคุมเขาไว้ในห้องกัก ตม. หลังจับกุมเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2557 เป็นเวลากว่า 10 ปีที่พวกเขาไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน ไม่มีสิทธิใดนอกจากแค่หายใจไปวันๆ
ชาวอุยกูร์คือชนกลุ่มน้อยในจีนที่ถูกรัฐบาลไล่ล่า ประหัตประหารอย่างหนัก ไทยควบคุมพวกเขาไว้แล้วส่งกลับตามคำขอของจีน ท่ามกลางเสียงประณามของโลกอย่างหนัก จากนั้นไทยเลือกไม่ส่งเขาไปยังประเทศที่สามเพื่อรับสิทธิเยี่ยง “ผู้ลี้ภัย” ไม่ส่งกลับไปเผชิญอันตรายที่จีนอีก แต่เลือก “ขัง” ไว้ในห้องสี่เหลี่ยม หลังลูกกรง ที่ “ห้องกักของ ตม.”
ความเลวร้ายนั้นเหมือนจะเกิดซ้ำอีกครั้ง เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 ใต้รัฐบาลพลเรือนที่มาจากการเลือกตั้งของไทย ตำรวจไทยเข้าจับกุม “ยี กวิ่น บดาบ” ผู้ลี้ภัยที่ได้รับการรับรองจาก UNHCR ที่ย่าน RCA กรุงเทพมหานคร ด้วยหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน ข้อกล่าวหาก่อการร้าย ในประเทศเวียดนาม จากเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2566
“ยี กวิ่น บดาบ” (Y Quynh Bdap) เป็นชนชาวชาติพันธุ์ที่นับถือศาสนาคริสต์ หรือ มองตานญาด ชนกลุ่มน้อยที่ถูกกดปราบในเวียดนาม เขาเป็นผู้ก่อตั้ง องค์กรมองตานญาดเพื่อความยุติธรรม - Montagnards Stand for Justice (MSFJ) ทำงานเป็น NGO ที่ต่อมาทางการเวียดนามขึ้นทะเบียนให้องค์กรนี้เป็นองค์กรก่อการร้าย เขาหลบหนีลี้ภัยเข้าไทยเมื่อปี 2561 ได้รับสถานะผู้ลี้ภัยจากสหประชาชาติ และเพิ่งไปสัมภาษณ์กับสถานทูต “แคนาดา” ในไทย ในวันที่ 10 มิถุนายนเพื่อขอลี้ภัยในประเทศที่สาม นั่นเป็นเวลาเพียง 1 วันก่อนเขาถูกจับกลาง กทม.
นายกัณวีร์ สืบแสง สส.พรรคเป็นธรรม กล่าวกับ SPRiNG ว่า ตอนนี้ “ยี่ กวิ่น บดาบ” ถูกขังอยู่ที่ “เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร” เขาถูกกล่าวหาเป็นคดีในเวียดนาม รัฐไทยจะส่งกลับหรือไม่ส่งกลับก็ได้ เพราะเขาคือ “ผู้ลี้ภัย” ที่ได้รับการรับรอง และเราไม่สามารถส่งคนกลับไปตายได้ ตามหลักการไม่ส่งกลับไปเผชิญอันตรายจากการประหัตประหาร (Non-refouelment Principle) เป็นหลักสากลที่ใช้ทั่วโลก รัฐบาลไทยต้องตัดสินใจว่า “จะส่งกลับหรือส่งไปประเทศที่สาม” หากไม่ตัดสินใจ เขาจะต้องไปวนหลัก อยู่ในชะตากรรมเดียวกับ “อุยกูร์” ขังเขาไว้แบบไม่มีกำหนดอีก
“ตอนนั้นรัฐบาลตุรกีก็กำลังมารับคนอุยกูร์ไป แต่ถูกรัฐบาลไทยยับยั้งไว้ และชาวเวียดนามรายนี้ ได้รับพิจารณาสถานะเป็นผู้ลี้ภัยเรียบร้อยแล้ว กำลังจะเดินทางไปตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ประเทศที่สาม (แคนาดา) ฉะนั้นประเทศไทยสามารถตัดสินใจได้ เพราะเขาอยู่ในอธิปไตยของประเทศไทย” นายกัณวีร์ กล่าว
20 มิถุนายนนี้ ตรงกับวันผู้ลี้ภัยสากล ขณะที่ไทยกำลังอยู่ในความท้าทายในสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะต่อผู้ลี้ภัย ประกอบกับกระทรวงการต่างประเทศของไทยเองก็ได้ประกาศจะกู้ภาพลักษณ์ประเทศประชาธิปไตยที่ใส่ใจด้านสิทธิมนุษยชน ดังนั้นอย่าปล่อยให้ไทย เป็นสนามกระทำซ้ำความรุนแรง ส่งคนกลับไปเผชิญชะตากรรมอันตราย ลดทอนความก้าวหน้าของไทยในประชาคมโลก และในขณะเดียวกันที่ไทยเสนอตัวเป็นคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติในปีนี้ด้วย
ไทยจึงจำเป็นต้อง “กล้า” แสดงความเป็นผู้นำ “ตัดสินใจ” ในเรื่องนี้อย่างถูกต้องชอบธรรม