นายกฯ เศรษฐา เศรษฐี 1,020 ล้านบาท นาฬิกา 38 เรือน 127 ล้านบาท มี Aston Martin คันละ 50 ล้านบาท มีบุตร 3 คน รับเงินรายปีจากบุตร 20 ล้านบาทส่วนภริยา"พญ.พักตรพิไล" มี "พระไพรีพินาศ-หลวงปูแหวน" 2 องค์ประเมินค่าไม่ได้ และเครื่องประดับมูลค่ากว่า 131 ล้านบาท
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กรณีเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 5 กันยายน 2566 โดยมีทรัพย์สินของตนเองและคู่สมรสรวม 1,020,468,727 บาท มีหนี้สินจำนวน 10,182,549 บาท
รายการทรัพย์สินของนายเศรษฐา มีจำนวน 659,391,610 บาท ซึ่งประกอบไปด้วย
รายการทรัพย์สินอื่น ของนายเศรษฐารวม 135, 740,700 บาท ประกอบไปด้วย
ขณะที่คู่สมรส นางพักตร์พิไล ทวีสิน ภรรยา มีทรัพย์สิน 361,077,116 บาท ประกอบไปด้วย
สำหรับทรัพย์สินอื่นมูลค่ารวม 256,255,300 บาท ประกอบด้วย
สำหรับข้อมูลรายได้และรายจ่ายต่อปี ของนายเศรษฐา มี รายได้ประจำ เป็นเงินเดือนค่าจ้างและโบนัส 153,570,160 บาท เป็นเงินบำนาญชราภาพ 45,694 บาท , เบี้ยประชุมและค่าวิทยากร 185,000 บาท ส่วนรายได้ จากทรัพย์สินเงินได้จากการสิ้นสุดสมาชิกภาพในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ 65,200,328 บาท/ผลประโยชน์จากการถือครองสินทรัพย์ดิจิทัล 825,402 บาท ยังมีส่วนแบ่งกำไรจากกองทุน LMF กับ RMF 12,069 บาท โดยยังมีรายได้จากที่บุตรให้รายปีจำนวน 20 ล้านบาท และมีรายได้อื่นเงินชดเชยกรณีเกษียณอายุจำนวน 13,333,333 บาท รวมรายได้ต่อปีเฉพาะของนายเศรษฐา 253,636,771 บาท
โดย มีรายจ่ายต่อปีเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัว 36,500,000 บาทและค่าใช้จ่ายในครัวเรือน 1,900,000 บาท มีรายจ่ายค่าอุปการะมารดา 4,762,000 ค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยว8ล้านบาท/ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 3,957 บาทเงินบริจาค 465,000 บาท
นายเศรษฐามีบุตร 3 คน นายณภัทร ทวีสิน ,นายวรัตม์ ทวีสิน และนางสาวชนัญญา ทวีสิน โดยก่อนหน้านี้ประวัติการทำงานย้อนหลัง 5 ปี หรือ ปี 2564 นายเศรษฐา ดำรงตำแหน่งประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทแสนสิริ จำกัด มหาชน และในปี 2553 ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง