“ไทยสมายล์บัส” เพิ่มความถี่รถเมล์สาย 140 ในชม.เร่งด่วน ปล่อยรถทุก 5-7 นาที

05 Nov 2023

“ไทยสมายล์บัส” ประกาศเพิ่มการปล่อยรถเมล์สาย 140 เดิม หรือ 4-23E ในชั่วโมงเร่งด่วน โดยจะปล่อยรถทุก 5-7 นาที มีรถวิ่งให้บริการมากกว่า 136 เที่ยวต่อวันแก้ปัญหารถโดยสารขาดระยะ หลัง ขสมก.หยุดให้บริการเดินรถโดยสารใน 5 เส้นทางที่ทับซ้อนกับเอกชน

หลังจากที่ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ยกเลิกใบอนุญาตประกอบการขนส่งในเส้นทางเดิมของ ขสมก. ที่ทับซ้อนกับเส้นทางของผู้ประกอบการเดินทางรถเอกชน ตามแผนปฏิรูประบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพฯ จำนวน 5 เส้นทาง

ขสมก. แจ้งยกเลิกการเดินรถ 5 เส้นทาง ได้แก่

สาย ปอ. 8 เส้นทาง สะพานพระพุทธยอดฟ้า-เคหะชุมชนร่มเกล้า
สาย ปอ.34 เส้นทาง รังสิต-หัวลำโพง
สาย ปอ.39 เส้นทาง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
สาย ปอ.140 เส้นทาง แสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
สาย ปอ.517 เส้นทาง หมอชิต 2-ศูนย์การค้าเทิดไท

โดยมีผลตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป

โดยหนึ่งในนั้นคือสาย ปอ.140 วิ่งผ่านเส้นทางแสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ทางด่วน) ซึ่งถือเป็นเส้นทางสร้างรายได้อันดับต้นๆ ของ ขสมก. ต้องเปิดทางให้ผู้ประกอบการเดินรถเอกชนให้บริการสาย 4-23E แสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิแทน

ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารที่ถือบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทของ ขสมก. ได้แก่

บัตรโดยสารล่วงหน้ารายเดือน-รายสัปดาห์
บัตรโดยสารนักเรียน-นักศึกษา
บัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์แบบรายเที่ยว
บัตร TRANSIT PASS RED LINE BKK X BMTA

ไม่สามารถใช้กับรถโดยสารประจำทางของเอกชนได้

ทั้งนี้หลังจากที่ ขสมก. หยุดให้บริการรถเมล์สาย 140 โดยให้รถของ บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด หรือ TSB ได้เดินรถให้บริการใน 5 เส้นทางทับซ้อนเต็มรูปแบบแทน

พบปัญหาเกิดขึ้นเนื่องจากประชาชนต้องรอรถนานมากขึ้นกว่าเดิม มีจำนวนผู้โดยสารขึ้นรถแน่นจนบางคนขึ้นไม่ได้ ส่งผลกระทบให้หลายคนไปทำงานสาย บางคนต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถเมล์สายอื่น แล้วไปต่อรถไฟฟ้าแทน ทำให้เสียค่าเดินทางเป็นจำนวนมาก

ด้าน เพจเฟซบุ๊ก BKK BUS Photographer ได้เผยข้อมูลว่า หากย้อนเปิดดูเงื่อนไขเดินรถสาย 4-23E ที่ไทยสมายล์บัสใช้เดินรถอยู่ปัจจุบัน จะพบว่าจำนวนรถที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้บรรจุได้อยู่ที่ 12-34 คัน ความหมายคือ กรมการขนส่งทางบกอนุญาตให้สาย 140 มีรถได้น้อยที่สุด 12 คันและมากที่สุด 34 คันซึ่งคือจำนวนรถของไทยสมายล์บัสในปัจจุบัน หมายความว่าตอนนี้ไทยสมายล์บัสไม่สามารถบรรจุรถเพิ่มในเส้นทางนี้ได้แล้วแม้ Demand ของผู้โดยสารจะมากขึ้นเท่าไหนก็ตาม นอกจากจะมีการแก้เอกสารฉบับนี้

เรื่องเวลารถ เท่าที่มีข้อมูล สาย 140 ไทยสมายล์บัสยังมีเวลาเดินรถที่รับรองผู้โดยสารเดิมไม่ดีพอ ไม่ว่าจะเป็นรถคันแรกที่ ช้ากว่า ขสมก. ถึง 30 นาที (ขสมก. คันแรกออกอู่แสมดำ 4:15 แต่ไทยสมายล์บัสออก 4:45) และคันสุดท้ายที่ออกก่อน ขสมก. เกือบชั่วโมง (ขสมก. คันสุดท้ายออกอู่แสมดำ 22:10 แต่ไทยสมายล์บัสออก 21:30)

ล่าสุดบริษัท ไทยสมายล์บัส จำกัด หรือ TSB ประกาศว่า ตามที่ได้มีข่าวปรากฏในสื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดีย ในวันที่ 31 ตุลาคม 2566 กรณีรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ไทยสมายล์บัส สาย 140 เดิม หรือสาย 4-23E ตามหมายเลขปฏิรูป เส้นทางแสมตำ - อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ทางด่วน) ขาดระยะ และมีจำนวนไม่เพียงพ่อต่อความต้องการเดินทางของพี่น้องประชาชน

ทางบริษัท ไทยสมายล์บัส ได้ตรวจสอบพบว่ารถมีการขาดระยะจริง ซึ่งทางบริษัทฯ ได้ทำการแก้ไขปัญหาเพิ่มการดูแลผู้โดยสารอย่างทันที (ในวันถัดมา) ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 โดยวางแผนการปล่อยรถเพิ่มขึ้น

ในระยะเวลาชั่วโมงเร่งด่วน (Rush Hours) ตั้งแต่ 06.20 - 08.3 น. โดยปล่อยรถที่ความถี่ทุกๆ 5 นาที
ช่วงเย็น 15.30 - 18.00 น. จะปล่อยรถที่ความถี่ทุกๆ 5-7 นาที ส่งผลให้มีความถี่ในการให้บริการมากขึ้น ยังครอบคลุมการให้บริการทั้งวันอีกด้วย
ส่วนกรณีช่วงปกติ (Of Peak) ได้กำหนดระยะเวลาการปล่อยรถออกจากอู่ต้นทางที่ให้บริการเฉลี่ยทุก 10 นาที

สำหรับรอบการให้บริการของรถโดยสารพลังงานไฟฟ้า ทางบริษัทฯ จะดำเนินการเพิ่มรถ เพิ่มรอบการให้บริการต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์นี้ จนถึงวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน เป็นต้นไป รถในสายดังกล่าวจะมีค่าเฉลี่ยรถวิ่งให้บริการมากกว่า 136 เที่ยวต่อวัน จึงขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่าไทยสมายล์บัส จะมีรถให้บริการเพียงพอ โดยบริษัทฯ พร้อมนำข้อติชมมาปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่อง

สำหรับรอบการให้บริการของรถเมล์โดยสารพลังงานไฟฟ้า ทางบริษัทฯ จะดำเนินการเพิ่มรถ เพิ่มรอบการให้บริการต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์นี้ จนถึงวันจันทร์ที่ 6 พฤศจิกายน เป็นต้นไป

รถในสายดังกล่าวจะมีค่าเฉลี่ยรถวิ่งให้บริการมากกว่า 136 เที่ยว/วัน จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าไทย สมายล์ บัส จะมีรถให้บริการเพียงพอ โดยบริษัทฯ พร้อมนำข้อติชมมาปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการอย่างต่อเนื่อง