ผบ.ทอ. โต้ข่าวนักบินไม่พร้อมรับคนไทยในอิสราเอล ยืนยันนักบินพร้อมแต่มีความกดดัน เพราะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จึงต้องมีการเตรียมสรรพกำลัง และได้มีนักบินสำรองจากการบินไทย มาช่วยเสริม
วันที่ 14 ต.ค.66 พล.อ.อ.พันธ์ภักดี เปิดเผยว่า เครื่องบินกองทัพอากาศ จะออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเบนกูเรียน ประเทศอิสราเอล ในวันที่ 15 ตุลาคม 2566 เวลา 00.05 น. ซึ่งจะใช้ระยะเวลา 12 ชั่วโมง 30 นาที เดินทางถึงประเทศอิสราเอล
โดยเครื่องบินมีกำหนดเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ในวันจันทร์ที่ 16 ต.ค.66 เวลา 04.40 น. ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ในการนำคนไทยจากอิสราเอลกลับบ้าน เชื่อมั่นว่ากองทัพอากาศที่ปฏิบัติงาน มีความพร้อม มีความจริงใจที่รีบปฏิบัติภารกิจในการช่วยเหลือประชาชนกลับจากประเทศอิสราเอลให้เร็วที่สุด และปลอดภัยที่สุด ภายหลังจากที่ได้รับอนุญาตให้บินผ่านน่านฟ้าของประเทศต่าง ๆ ไปทางทิศเหนือ รวม 10 ประเทศ ผ่านการช่วยประสานงานของกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อบ่ายวันนี้ ได้แก่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐประชาชนจีน คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน อาเซอร์ไบจาน อาร์มิเนีย ตุรกี ไซปรัส และอิสราเอล
ซึ่งมีกำลังพลกองทัพอากาศ ประกอบด้วยนักบิน ลูกเรือ เจ้าหน้าที่อำนวยการ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย และทีมแพทย์ รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงแรงงาน รวม 41 คน ร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อให้การช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่คนไทย
ส่วนกรณีกระแสข่าวที่บอกว่าเครื่องบินพร้อมแต่นักบินไม่พร้อม ผบ.ทอ.ยืนยัน ว่านักบินเรามีความพร้อม เรามีการวางแผนอพยพประมาณ 7,000 กว่าคน ซึ่งไม่เคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นมาก่อน นักบินก็มีความกดดัน จึงต้องมีการเตรียมสรรพกำลัง แต่ในส่วนของกองทัพอากาศเรามีความพร้อมแน่นอน แต่ต้องเป็นไปตามกฎการบิน
แต่ได้มีนักบินสำรองจากการบินไทย มาเพิ่มเติม เพราะตามกฎนักบินต้องพักตามกฎการบิน 48 ชั่วโมง หลังจากเที่ยวบินนี้เสร็จก็จะปรับแผนใหม่ เพื่อหาเส้นทางที่ย่นระยะการเดินทาง ให้ใช้เวลาน้อยลง 12 ชั่วโมง ให้เหลือ 8 ชั่วโมง
เมื่อถามว่ากองทัพอากาศได้มีการประสานงานกับกระทรวงกลาโหมของประเทศอิสราเอลในเรื่องนี้หรือไม่ ผบ ทอ. กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศเป็นหลัก แต่ได้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าตลอด
ส่วนความปลอดภัยในการบินเข้าพื้นที่ประเทศอิสราเอล ยืนยันว่าเบื้องต้นยังมีความปลอดภัย แต่หากมีเหตุฉุกเฉิน เช่นมีการปิดน่านฟ้า ก็จะใช้วิธีเดินทางอ้อมประเทศและมีแผนสนามบินสำรอง ส่วนน้ำมันมีการจัดเตรียมไว้เพียงพอ ในส่วนการให้ความช่วยเหลืออพยพคนไทยจากอิสราเอล จะมีการใช้เครื่องบินสลับกันระหว่างกองทัพอากาศและเครื่องบินพาณิชย์
ทั้งนี้ภารกิจรับแรงงานไทยในอิสราเอลครั้งนี้ ถือเป็นเที่ยวบินแรกของกองทัพอากาศ โดยกองทัพอากาศวางแผนการบินต่อเนื่อง ซึ่งเที่ยวบินที่ 2 ที่จะเดินทางไปรับแรงงานไทยกำหนดไว้วันที่ 18 ตุลาคมนี้ กำหนดการเวลาจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ขณะที่นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้า การให้ความช่วยเหลือพี่น้องแรงงานไทยในประเทศอิสราเอล เพิ่มเติมว่า ล่าสุดได้รับรายงานว่ามี แรงงานไทยที่ถูกจับไปเป็นตัวประกัน จำนวน 16 ราย เสียชีวิต จำนวน 24 ราย (รอยืนยัน) บาดเจ็บ 16 ราย (ยังไม่สามารถระบุชื่อได้ 1 ราย) กรอกแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์การเดินทางกับทางสถานทูตฯ จำนวน 7,142 ราย จำแนกเป็น ผู้ที่ขอเดินทางกลับประเทศไทย จำนวน 7,058 ราย และ แจ้งความประสงค์ไม่ขอกลับ จำนวน 84 ราย ขณะนี้ เดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว จำนวน 97 ราย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง