“วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ว่าที่ ส.ส.พรรคก้าวไกล แฉ ขบวนการลักลอบนำเข้า “เนื้อหมูเถื่อน” ซัด ถ้าเกิดโรคระบาด ต้องมีคนรับผิดชอบ
“วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” ว่าที่ ส.ส. พรรคก้าวไกล แฉ มีขบวนการนำเข้า “เนื้อหมูเถื่อน” จากประเทศบราซิล และสเปน อย่างต่อเนื่อง โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสประชุมกับ “กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย” จึงได้ทราบปัญหาว่า ปัจจุบันมีการลักลอบนำเข้า “เนื้อหมูเถื่อน” จากประเทศบราซิล และสเปน อย่างต่อเนื่อง เป็นจำนวนมาก ที่ผ่านมากลุ่มเกษตรกรได้ประสานไปยังกรมศุลกากร และกรมปศุสัตว์ มาโดยตลอด แต่ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม
และเมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์ของการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน ไม่ว่าจะเป็น
1. นำเข้าโดยสำแดงเท็จ ใช้พิกัดปลา หรืออาหารทะเล สวมรอยนำเข้า "เนื้อหมูเถื่อน"
2. ใช้การนำเข้าเครื่องในหมู เป็นช่องทางในการลักลอบเข้า "เนื้อหมูเถื่อน"
3. รู้ทั้งรู้ว่าการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน จะนำเข้าจากบราซิล และสเปน ผ่านท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมุกดาหาร ด่านสะเดา และด่านอรัญประเทศ แต่การเปิดตู้ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ห้องเย็น ยังไม่มีความเข้มงวด เข้าใจว่ามีเพียงท่าเรือแหลมฉบังเท่านั้น ที่มีการเปิดตู้ตรวจ แต่ในจุดอื่นๆ ยังไม่มีมาตรการเข้มงวดในการเปิดตู้ตรวจแต่อย่างใด
4. "เนื้อหมูเถื่อน" จำนวน 161 ตู้ ที่ตกค้างอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบัง กระบวนการในการส่งมอบให้กับกรมปศุสัตว์เพื่อนำไปทำลาย เป็นไปอย่างล่าช้ามาก
ข่าวที่น่าสนใจ
"พิธา" ย้ำ พร้อมช่วยผู้ประกอบการรายย่อย ยัน ผลักดันสภาเอสเอ็มอี
วิโรจน์ จี้ ไอทีวี ชี้แจง กรณีรายงานการประชุมผู้ถือหุ้น ไม่ตรงกับความจริง
ปิยบุตร ชี้ “นิติสงคราม" 2 กลไก กฎหมาย - สื่อ กำลังเล่นงาน “พิธา - ก้าวไกล”
นอกจากนี้ การตรวจสอบว่า "เนื้อหมูเถื่อน" ทั้ง 161 ตู้ นั้นเป็นใคร บริษัทไหน ก็ไม่ใช่เรื่องยาก หลักฐานก็มัดแน่นหนาคาหนังคาเขา แต่ปรากฏว่าการดำเนินคดีกลับเป็นไปอย่างล่าช้า จึงเกิดข้อสงสัยว่า มีความพยายามที่จะปกป้องนายทุนเนื้อหมูเถื่อนหรือไม่
การลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน นอกจากจะทำให้ราคาเนื้อหมูในตลาดดิ่งลง ส่งผลกระทบกับกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูแล้ว สิ่งที่น่ากังวลสุดๆ ก็คือ “เนื้อหมูเถื่อน” เหล่านี้ไม่มีการตรวจเชื้อใดๆ จึงเป็นไปได้ที่จะมีสารเร่งเนื้อแดงปลอมปน ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อสุขภาพของประชาชนผู้บริโภคอย่างมาก
นอกจากนี้ เนื้อหมูเถื่อนเหล่านี้ ยังอาจนำพาเอาโรคระบาดต่างๆ อาทิ โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร โรคปากเปื่อยเท้าเปื่อย มาแพร่ระบาดในประเทศไทยได้
“เนื้อหมูเถื่อน” ที่ทะลักเข้ามาอย่างมหาศาล และเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่บางคน เข้าไปอำนวยความสะดวก ไม่มีทางที่จะเหิมเกริม ทำเป็นขบวนการใหญ่โตแบบนี้ได้
เพื่อให้ปัญหาการลักลอบนำเข้า "เนื้อหมูเถื่อน" ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ตนจึงขอเสนอแนะแนวทาง ดังต่อไปนี้
1) “กรมศุลกากร” ต้องเร่งรัดการทำลาย “เนื้อหมูเถื่อน” ที่ตกค้างอยู่ 161 ตู้ โดยเร็ว และโปร่งใส ไม่ใช่ปล่อยให้คาราคาซัง เสียบปลั๊กตู้ห้องเย็น เปลืองค่าไฟฟรีๆ มา 7-8 เดือนแล้ว
2) ประสานงานกับ DSI ในการดำเนินคดีกับนายทุนที่ลักลอบนำเข้า “เนื้อหมูเถื่อน” พร้อมกับสืบสวนสอบสวนขยายผล หากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ศุลกากรคนใด เข้าไปเกี่ยวข้อง ให้ดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด
3) ออกคำสั่งกำชับให้ท่าเรือกรุงเทพ ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือมุกดาหาร ด่านสะเดา ด่านอรัญประเทศ เปิดตู้ตรวจสอบเพื่อสกัด “เนื้อหมูเถื่อน” อย่างสุดความสามารถ
4) พิจารณาชะลอ หรือยกเลิกการนำเข้า “เครื่องในหมู” เพื่อไม่ให้ถูกใช้เป็นช่องทางในการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน
การลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน เป็นปัญหาใหญ่มาก กระทบกับสุขภาพ และความปลอดภัยของประชาชนทั้งประเทศ ท่ามกลางเสียงเตือนจากภาคประชาชนซ้ำๆ ย้ำๆ แบบนี้ หากยังปล่อยปละ จนเกิดโรคระบาดขึ้น กรมศุลกากร คงไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบได้