กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เตือนประชาชนระวังข้อมูลเท็จ “น้ำท่วม” ล่าสุดพบข่าวปลอม “น้ำทะเลหนุน พระราม 2 เมืองจมทะเล” ขออย่าแชร์ เสี่ยงติดคุก 5 ปี
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ตามที่หลายพื้นที่ของประเทศไทยกำลังประสบเหตุการณ์อุทกภัยน้ำท่วม และน้ำป่าไหลหลาก เป็นเหตุให้มิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางสร้างข่าวปลอม ข้อมูลเท็จ และบิดเบือน เพื่อก่ออาชญากรรมออนไลน์สร้างความสับสนและวิตกกังวลให้กับสังคม
ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใยประชาชนต่อกรณีดังกล่าว โดยมอบหมายให้กระทรวงดีอี ติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวังพร้อมทั้งตรวจสอบการกระทำของมิจฉาชีพที่อาจสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย (Anti Fake New Center หรือ AFNC) ได้เฝ้าระวัง ติดตาม และตรวจสอบข้อมูลที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดีย พบว่ามีการเผยแพร่และส่งต่อข้อมูลบิดเบือน เกี่ยวกับเหตุการณ์อุทกภัย ล่าสุดมีการส่งต่อข้อมูลในเรื่อง “น้ำทะเลหนุน ถ.พระราม 2 เมืองกำลังจะจมทะเล” โดยกระทรวงดีอี ได้ประสานงานตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) สำนักนายกรัฐมนตรี พบว่าข้อมูลดังกล่าวเป็น “ข้อมูลเท็จ”
กรณีดังกล่าว สทนช. ได้ทำการตรวจสอบและชี้แจงว่า ข้อมูลที่มีการเผยแพร่และส่งต่อนั้น ไม่ใช่การประกาศเตือนอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งเป็นการสร้างความตื่นตระหนกให้ประชาชน โดยขอให้ประชาชนได้ติดตามข้อมูลคาดการณ์สถานการณ์น้ำและประกาศแจ้งเตือนพื้นที่เสี่ยงได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำทะเลหนุนสูงจากหน่วยงานภาครัฐเท่านั้น
สำหรับการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว ถือเป็นการนำข้อมูลปลอม ข่าวปลอม ไม่ว่าจะเป็นการปลอมทั้งหมด หรือแค่บางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการเผยแพร่โดยตรง หรือการแชร์ส่งต่อข้อมูลอันเป็นเท็จ ล้วนมีความผิด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ซึ่งเป็นความผิดที่ไม่สามารถยอมความได้
ทั้งนี้หากการกระทำในลักษณะดังกล่าวข้างต้น ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั่วไป ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
กระทรวงดีอี ถือว่าการกระทำดังกล่าวเป็นภัยคุกคามอย่างร้ายแรง และจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด เนื่องจากส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง โดยขอเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลซึ่งไม่มีที่มาชัดเจน หรือไม่เป็นทางการ และควรตรวจสอบรายละเอียดของข้อมูลกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งประชาชนสามารถสอบถามข้อมูล แจ้งเบาะแสข่าวปลอม ได้ที่โทรสายด่วน GCC 1111 ตลอด 24 ชม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง