เปิดประตูรู้จักวง "SLUM" เจ้าของเพลงสุดเฟี้ยว "มงคลนี่เปี๊ยกเอง"

จากฉากตลกในตำนานสู่ไวรัลฮิต เมื่อ "SLUM" วงดนตรีแนวอัลเทอร์เนทีฟเพื่อชีวิตประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 3 คน ได้แก่ "อ้ำ-อกนิษฐ์ เลิศสุรภักดีวงศ์" (นักร้องนำและมือกีต้าร์), "ปลื้ม ธนาธิป ศิโรรัตนพาณิชย์" (เบส) และ "เนย์ อัยการ ทรัพย์มี" (กลอง) ได้นำเนื้อหาบางส่วนในภาพยนตร์มาดัดแปลงเป็นเพลงที่มีชื่อว่า "มงคลนี่เปี๊ยกเอง" โดยเพลงนี้ทำให้วลี "มงคลเปิดประตูให้เปี๊ยกหน่อย" อีกหนึ่งวลีในความทรงจำกลายเป็นวลีฮิตในโลกออนไลน์ และมียอดเข้าชมเพลงบนยูทูบสูงถึง 3.5 ล้านครั้ง อีกทั้งยังมีคนนำเพลงดังกล่าวไปประกอบคลิปใน TikTok จำนวนมาก

จุดกำเนิดเกิดเป็นวง "SLUM"

สำหรับวง SLUM เป็นศิลปินที่เรียนสถาบันเดียวกันคือ มหาวิทยาลัยมหิดล คณะดุริยางคศิลป์ ช่วงแรก ๆ ที่รวมวงกันยังไม่มีปลื้ม แต่เป็นอ้ำกับเนย์และ "Time Time" ศิลปินเจ้าของเพลง "ฉันอ้วน" ฟอร์มวงกันเพื่อเล่นงานของโรงเรียนดนตรี ในจังหวะนั้นอ้ำได้ถูกเรียกเข้าไปซ้อมด้วย จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของวง

"ผมร้องเพลงที่ชื่อว่า SLUM ของ พี่ลูกโป่ง PP Dreams ขึ้นมาและซึ่งมันเป็น First impression ในการเล่นโดยที่รู้สึกว่าเราก็ไม่เคยได้ซ้อมด้วยกันมาก่อนเป็นการซ้อมครั้งแรกเล่นเพลงนี้ออกมาเหมือนเรามีความสุขกับโมเมนต์นั้น เป็นเพลงที่เราเจอกันทำให้ผมรู้สึกในห้วงเวลานั้นทุกคนมีความสุขกันก็เลยใช้ชื่อเพลงนี้ที่เราเล่นกันมาตั้งเป็นชื่อวง SLUM ครับ"

"มงคลเปิดประตูให้เปี๊ยกหน่อย" วลีฮิตโลกออนไลน์

หนุ่ม ๆ วง SLUM เผยว่า รู้สึกประทับใจและขอบคุณทุก ๆ คนที่ติดตามพวกเรา เพราะเราก็ไม่ได้คาดหวังและก็ไม่ได้เคยคิดว่าเพลงหนึ่งเพลงจะสามารถทำมาให้ทุกคนรู้จักได้ขนาดนี้ อยากจะขอบคุณทุก ๆ คนมาก ถ้าถามว่ามันเป็นกระแสแล้วรู้ตอนไหนก็น่าจะประมาณสัก 2 อาทิตย์ หลังจากปล่อยเพลง

"ตอนปล่อยไปช่วงวันแรกก็เริ่มเป็นกระแสประมาณนึงครับ เพราะว่าเหมือนคนเขาก็จะงงกันว่าเพลงนี้มันมาจากไหนอยู่ดี ๆ ก็มีไวรัลการเคาะประตูกันขึ้นมา แต่ว่าตัวของเราเองที่รู้ว่าเริ่มเป็นกระแสแล้วจริง ๆ ก็คือคลิปใน TikTok จากไม่มีคนดูเพราะเราเพิ่งสร้าง TikTok ขึ้นมามันก็ค่อย ๆ เป็นร้อย เป็นพันเป็นหมื่นแล้วก็หลายหมื่นขึ้นไปจนเป็นแสนตอนนี้ก็คือเป็นล้านภายในไม่กี่วัน อันนี้ก็เซอร์ไพรส์มากครับ"

"จุดเด่น" ที่ทำให้เพลงดังติดหู

เพราะจุดเด่นมันค่อนข้างแปลกคือสิ่งที่หนุ่ม ๆ วง SLUM เชื่อว่าทำให้เพลงดังติดหู แม้ว่าช่วงแรก ๆ คนฟังเขาก็มีหลายคอมเมนต์ว่าเพลงนี้เหมือนมันไม่มีอะไร ไม่มีสาระ มีแค่เคาะประตูแล้วก็เป็นเพลงได้ไง แต่ตามจริงแล้วสาระมันก็มีอยู่ในนั้น ตรงที่ว่าเราเอาไดอาร็อกของหนังที่ทรงคุณค่ามาเล่น แล้วเป็นหนังที่แบบว่าทำให้หลาย ๆ คนมีความสุขได้ ถ้าดูเนื้อเพลงจริง ๆ มันก็มีความน่ารัก ซึ่งพอเป็นไวรัลฉากเคาะประตูก็เลยคิดว่ามันค่อนข้างแปลกที่เราเอาไดอาร็อกจากหนังมาทำและก็เกิดเป็นฉากเคาะประตูขึ้นมา

"คือสโคปมันคือหนังที่เป็นน้าค่อมซึ่งคนที่เคยดูน้าค่อมพอฟังแล้วแบบใช่เลย ผมรู้สึกว่าสโคปมันไม่ได้กว้างว่าคนจะเสพไปทางโน่นทางนี้ ด้วยความเป็นวงการตลกด้วยมันทำให้ทุกคนมีเสียงหัวเราะกับวงการนี้อยู่แล้ว  พี่ๆ ทุก ๆ คนก็ค่อนข้างจะมอบความบันเทิงกับพวกเราอยู่แล้ว ซึ่งเราเอาไดอาร็อกความตลกตรงนี้มาเล่นเหมือนเราก็ส่งต่อความสุขให้กับหลาย ๆ คนด้วยมันก็เลยทำให้รู้สึกว่าคนฟังเขาก็มีความสุขไปกับโมเมนต์นี้การฟังเพลงนี้"

"มงคลนี่เปี๊ยกเอง" เปลี่ยนแปลงวง SLUM

วง SLUM ทำเพลงมาประมาณ 6 ปี ไม่มีใครแทบไม่มีใครรู้จัก พอเพลงนี้ปล่อยออกมาคนก็รู้จัก เรื่องงานจากเมื่อก่อนเราแทบไม่มีงาน บางงานต้องไปขอเล่น ตอนนี้ก็เริ่มมีงานแสดงโชว์ที่เราอยากจะไปทัวร์กัน

"งานค่อนข้างเข้ามาโดยที่เราไม่ทันได้ตั้งรับด้วยครับ ด้วยความที่ SLUM ไม่เคยมีผู้จัดการวงเป็นของตัวเองแบบเป็นกิจลักษณะ ที่แบบว่าไว้รับงานแบบตอบลูกค้า ดีลงานยังไงที่จะทำยังไง  แล้วก็งานเข้ามาเขาติดต่อเข้ามาเยอะประมาณนึงซึ่งเราก็รับมือแทบจะคือพยายามจะรับมือให้ไหวด้วย แต่มันก็ถือว่าไหวประมาณนึง"

"ไอ้สองให้พี่เดินสะดวก" ภาคต่อมงคลนี่เปี๊ยกเอง

เราจะเล่าซีรีส์ของน้าค่อมให้จบโดยเพลงต่อไปชื่อเพลงว่า "ไอ้สองให้พี่เดินสะดวก" เป็นในอีกพาร์ทนึงของน้าค่อมที่อยู่ในหนังอย่างหนังเรื่องแรกเราเอา "โหด หน้า เหี่ยว" เพลงนี้เราก็จะหยิบคาแร็กเตอร์ของน้าค่อมในหนังเรื่อง "แสบสนิท" 

"แล้วก็จะมี น้ำ ผีนองสยองขวัญ แล้วก็จะมีกวนมึนโฮอะไรที่น้าค่อมเขาไปเล่นไว้ (หัวเราะ) คุณนายโฮ มุกครับมันเป็นมุกผมซ้อมกันมาที่บ้านอยู่แล้ว โหหนักเลยกวนมึนโฮหน้าที่เต๋อลอยมาเลยคนละเรื่อง ดอกซากุระอยู่ในหัวเลยเมื่อกี้"

"มงคลนี่เปี๊ยกเอง" โดนเปรียบเป็นเพลงตลาดล่าง?

คำว่าตลาดล่างคำนี้ไม่รู้ว่าเขานิยามความเป็นบนความเป็นล่างเอาไว้ว่าอย่างไงมันบัญญัติไม่ได้ว่าอันไหนบนอันไหนล่าง ผมคิดว่าเรื่องเพลงหรือว่าแม้กระทั่งรูปภาพสิ่งต่าง ๆ ที่มันใช้คำว่าศิลปะมันเกิดจากกระบวนการคิดของผู้สร้างขึ้นมา ซึ่งผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่ตลกมาก เพราะว่าสุดท้ายแล้วทุกอย่างมันรวมกันแค่ผลงาน เพลงมันเป็นตัวแทนที่แบบว่าเป็นความบอกความรู้สึกมันไม่จำเป็นว่าเราต้องแยกว่าอันไหนบนอันไหนล่าง

"คือถ้าคุณไม่ปิดกลั้นบางทีคุณอาจจะเอ็นจอยกับเพลงเราก็ได้ คุณจะรู้สึกเอ็นจอยกับเพลงมงคลนี่เปี๊ยกเองถ้าคุณไม่รู้สึกว่าปิดกลั้น แต่ถ้าวันไหนที่คุณปิดกลั้นเพลงนี้เป็นตลาดล่างแล้วคุณไปฟังก็แบบอะไร ผมแค่อยากจะให้ทุกๆ คนเข้าใจว่าสิ่งที่ทุกคนสร้างมาไม่ว่าจะเป็นพวกเรา ไม่ว่าจะเป็นคน ๆ  อื่นหรือแม้กระทั่งศิลปินทุก ๆ คนเขาแค่ต้องการมอบความสุขให้คุณจริง ๆ เขาไม่ได้อยากจะมาแบ่งแยกว่าเราอยู่บนเราอยู่ล่างทุกคนมันคือศิลปินครับเราต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันอยู่แล้ว"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• แอล กมลวรรณ ศรีวิไล อย่าตัดสินฉันเพราะเป็นลูกนักการเมือง
• ครูบิ๊ก กวีวัธน์ เทวกุล เต้นกินรำกินอาชีพที่สังคมไทยไม่ให้คุณค่า?
• ไฮโซชูชัย ชัยฤทธิเลิศ ปรับตัวให้ทันโลก คือความสุขในวัยเกษียณ