ลิซ่า BLACKPINK "ชื่อเสียง ความสำเร็จ" ที่แลกมาด้วยการโดนดูถูกและคำวิจารณ์

ขยับตัวทำอะไรก็กลายเป็นที่สนใจสำหรับศิลปินระดับโลกอย่าง "ลิซ่า BLACKPINK" หรือว่า "ลิซ่า ลลิษา มโนบาล" สาวไทยที่ไปสร้างชื่อเสียงโด่งดังที่ประเทศเกาหลีใต้ และไต่ระดับความสำเร็จเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ด้วยความพยายามและความสามารถที่ไม่ลดละจนได้รับความสำเร็จและชื่อเสียง แต่ต้องแลกมาด้วยอุปสรรคต่างๆ

เริ่มตั้งแต่ "ลิซ่า" เดบิวต์เป็นสมาชิกใน "วงเกิร์ลกรุ๊ป "BLACKPINK" ก็มักจะเจอกับคำดูถูกและคำวิจารณ์อย่างมากจากคนที่ไม่ได้ชื่นชอบ แม้ว่าเธอจะผ่านเรื่องราวมาได้ทุกครั้ง แต่หลายๆ ครั้งดราม่าต่างๆ ก็มักจะวิ่งเข้ามาเธออย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ต้นปี 2023 สปริงบันเทิง ได้รวมสารพัดดราม่าคำวิจารณ์ต่าง ๆ บนโลกโซเชียลที่ลิซ่าต้องเจอดังต่อไปนี้

ดราม่ารอยสักบริเวณหลัง

เริ่มต้นปี "ลิซ่า BLACKPINK" เจอดราม่าหลังจากเปิดเผยรอยสักดอกเอเดลไวซ์ (edelweiss) ดอกไม้ประจำประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่มีความหมายถึงรักแท้ เป็นดอกไม้ที่ ลิซ่า ชอบที่สุดในการถ่ายแบบนิยสารแฟชั่น Harper’s BAZAAR Singapore หลาย ๆ คนก็ดูจะชื่นชอบและมองว่าเป็นสิทธิของ ลิซ่า ที่จะทำอะไรกับร่างกายก็ได้ แต่ว่าดราม่าก็เกิดขึ้นจากความคิดเห็นชาวไทยรายหนึ่งที่กล่าวว่า "ผิวเนียนๆ สวยๆ สักทำไมคนไทยถือว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี เตือนเพราะหวังดี สักไปทำงานที่ไหนเขาก็ไม่รับ ผู้ใหญ่เห็นก็ไม่ชอบโดยเฉพาะพวกข้าราชการ" จนชาวบลิ๊งค์ได้ออกมาปกป้องจากความเห็นดังกล่าวอย่างมากมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• เฟรเดอริก อาร์โนลด์ หนุ่มฝรั่งเศสที่เป็นข่าว ลิซ่า BLACKPINK รวยระดับเศรษฐี
• ลิซ่า BLACKPINK งานเข้า! ชาวเกาหลีจ่อแบน หลังมีกระแสข่าวลืออาจถอนตัวจากวง
• ลิซ่า BLACKPINK กับการต่อสัญญา YG นักลงทุนเรียกร้องให้ตัดสินใจอย่างฉลาด

ลิปซิ้งบนเทศกาลดนตรี Coachella 2023

ต่อมาในช่วงเดือนเมษายนหลังจากวง "BLACKPINK" ได้ไปสร้างประวัติศาสตร์เป็น Headliner ในเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอเมริกาอย่าง Coachella 2023 แต่ก็มีคอมเมนต์วิจารณ์ที่บอกว่า "ลิซ่าไม่ได้ร้องสดแต่กลับเน้นเต้นอย่างเดียว ทั้งที่เป็นนักร้อง" คำวิจารณ์นี้ทำให้แฟนๆ ต้องออกมาชี้แจงการลิปซิ้งศิลปินระดับโลกก็ทำกัน และ ลิซ่า ต้องเต้นตลอดทั้งเพลงการจะทำโชว์ให้สมบูรณ์แบบการใช้เทคนิคลิปซิ้งจึงจำเป็นมาก ศิลปินคนไหนก็เลือกใช้วิธีนี้ทั้งนั้น

โดนดูถูกคนอีสานจับผู้ชายฝรั่งรวย

ต่อด้วยกระแสดราม่าช่วงต้นเดือนกรกฎาคมได้มีปาปารัซซี่ออกมาเผยคลิปที่สื่อว่า ลิซ่า กำลังออกเดตอยู่กับทายาทเศรษฐีชาวฝรั่งเศส เฟรเดอริก อาร์โนลด์ โดยภายในคลิปได้มีชอตที่คล้ายว่าลิซ่ากำลังเอียงศรีษะไปซบฝ่ายชายจนทำให้ข่าวลืมดังกล่าวแพร่สะพัดทั่วโลกในตอนนั้นก็เกิดคำวิจารณ์ของชาวเน็ตรายหนึ่งผุดขึ้นมากล่าวหาและดูถูก ลิซ่า อย่างรุนแรงว่า "เป็นคนอีสาน และคนอีสานมักจะจับผู้ชายฝรั่งรวยๆ มาเป็นสามี" คำกล่าวหานี้ไม่ใช่แค่ชาวบลิ๊งค์ที่เดือดเป็นไฟ แต่ชาวอีสานหลาย ๆ คนก็รับไม่ได้และออกมาช่วยกันค้านความคิดเห็นดังกล่าวนี้ทันที

ชาวเกาหลีกดดันแบนลิซ่า

ล่าสุดกับกระแสข่าว "วงเกิร์ลกรุ๊ป BLACKPINK" จะสิ้นสุดสัญญากับค่าย "YG Entertainment" ในเดือนสิงหาคมนี้ พร้อมกับมีข่าวตามออกมาว่า ลิซ่า อาจมีแผนที่จะถอนตัวจากวง ในขณะที่คนอื่นๆ ทยอยต่อสัญญากันแล้ว จึงทำหุ้นของ YG ล่วงลงซึ่งแสดงให้เห็นความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการต่อสัญญา และข่าวลือที่ยืดเยื้ออย่างต่อเนื่องจึงกลายเป็นสาเหตุให้ชาวเกาหลีบางส่วนเกิดความไม่พอใจเป็นอย่างมากและออกกดดันว่า

"นี่คือเหตุผลที่เราต้องระมัดระวังในการเดบิวต์เด็กฝึกต่างชาติ เราไม่ควรเดบิวต์ต่างชาติในวงเกาหลี เขายกระดับสถานะของเขาโดยใช้วงไอดอลของเราและหลังจากที่มีชื่อเสียงแล้วพวกเขาก็มักจะหลงคนจีนและหักหลังพวกเราเสมอ แม้ว่าลิซ่าไม่ต่อสัญญาแต่ BLACKPINK ก็ยังดำเนินต่อไปได้ดวยสมาชิกทั้ง 3 คนหรือจะเอาลิซ่าออกแล้วหาคนใหม่มาแทนก็ได้"