โหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ 2 พรรคร่วมฯ เดิม อาจได้เป็นรัฐบาล ?

หลังจาก “พรรคก้าวไกล” พ่ายศึกโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ 1 โดยได้รับการเติมเสียงจาก ส.ว. เพียงแค่ 13 คน เท่านั้น ได้เสียงทั้ง 2 สภา ไม่ถึง 376 เสียง ทำให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ยังไม่อาจไปถึงฝั่งฝันได้ แม้ในกลุ่ม 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล จะได้มีการตกลงกันในเบื้องต้นไว้แล้วว่า จะเสนอ “พิธา” เป็นนายกฯ 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 วันที่ 13 ก.ค. ครั้งที่ 2 วันที่ 19 ก.ค. และครั้งที่ 3 วันที่ 20 ก.ค.

แต่จากผลโหวตฯ ครั้งแรก ก็ทำให้เห็นภาพชัดเจนแล้วว่า ตราบใดที่ “พรรคก้าวไกล” ยังเป็นแกนนำฯ หรืออยู่ร่วมในทีม ก็ยากที่จะได้เสียง ส.ว. มาเติมให้เกิน 376 เสียง และหาก 8 พรรคร่วมฯ ยังคงใช้โมเดลเดิม คือเสนอ “พิธา” เป็นนายกฯ อีก ในการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ 2 ก็คาดว่า ผลคะแนนจะไม่แตกต่างจากครั้งแรก !

อาจไม่มีครั้งที่ 3 สำหรับ “พิธา”

และเอาเข้าจริงๆ อาจไม่มีโอกาสครั้งที่ 3 ให้ “พิธา” อีก เพราะตอนนี้เริ่มมีข่าวสะพัดว่า “พรรคร่วมรัฐบาลเดิม” อาจจะส่งคนเข้าชิงฯ ในการโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ 2 แม้จำนวนเสียง ส.ส. จะน้อยกว่ากลุ่ม 8 พรรคร่วมฯ เป็นอย่างมาก แต่คาดว่าจะได้เสียงจากเหล่า ส.ว. อย่างถล่มทลาย จนดันไปถึง 376 เสียงได้ไม่ยาก อันเนื่องมาจากคอนเนคชั่นที่แน่นปึ้กของ “บิ๊กตู่” และ “บิ๊กป้อม” กับ “กลุ่ม ส.ว.”

โมเดลนี้หากเกิดขึ้นจริง แม้ “พรรคร่วมรัฐบาลเดิม” ก็จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่อย่าลืมว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ได้เปิดช่องให้เกิด “งูเห่า” ได้โดยง่าย เพียงแต่ต้องใจป้ำ และใช้ทุนในระดับมหาศาล แต่หากได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ก็อาจถือได้ว่า เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า !

ซึ่งในกรณีที่ “พรรคร่วมรัฐบาลเดิม” ส่งคนเข้าชิงตำแหน่งนายกฯ คาดว่าผู้ที่ลงแข่งน่าจะเป็น “บิ๊กป้อม - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” แม้ “พรรคพลังประชารัฐ” จะได้ ส.ส. แค่ 40 คน แต่ด้วยคอนเนคชั่นของ “บิ๊กป้อม” กับ “กลุ่ม ส.ว.” ทำให้อำนาจต่อรองสูงปรี๊ดขึ้นมาทันที

บทความที่น่าสนใจ

• ดีลลับดัน “บิ๊กป้อม” เป็นนายกฯ เรื่องจริง หรือจินตนาการ ?

• อัปเดต สูตรจัดตั้งรัฐบาล จับตา “ภูมิใจไทย” คำตอบสุดท้ายรัฐบาลก้าวไกล ?

• ถอยอย่างมีจุดยืน “ก้าวไกล” จะกระโดดได้ไกลกว่าเดิม

ข่าวสะพัด พรรคร่วมฯ เดิม ลงชิงเก้าอี้นายกฯ บีบให้ “เพื่อไทย” ต้องรีบตัดสินใจ

และจากกระแสข่าวสะพัดดังกล่าว ที่ “พรรคร่วมฯ เดิม” จะเข้าชิงตำแหน่งนายกฯ ในการโหวตครั้งที่ 2 ก็ส่งผลกระทบกับ “พรรคเพื่อไทย” เข้าอย่างจัง และบีบให้ต้องรีบตัดสินใจ จากเดิมทีเป็นพรรคที่มีอำนาจต่อรองมากที่สุด จะพลิกไปทางขั้วไหน แคนดิเดตของพรรคตัวเองก็มีโอกาสจะได้เป็นนายกฯ

และจากการที่เพิ่งชนะศึกเลือก “ประธานสภา” มาหมาดๆ ก็ยิ่งทำให้อำนาจต่อรองของ “เพื่อไทย” สูงขึ้นไปอีก เรียกได้ว่า ตำแหน่งนายกฯ อยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว

แต่หลังจากมีข่าวสะพัด “เพื่อไทย” ก็ใจเย็นไม่ได้แล้ว และต้องรีบตัดสินใจว่า จะกอดคอเป็นฝ่ายค้านกับ “พรรคก้าวไกล” หรือสลับขั้วเข้าร่วมกับ “พรรคร่วมฯ เดิม” ตั้งแต่การโหวตเลือกนายกฯ ครั้งที่ 2 ซึ่งถ้าสมมตินะ สมมติว่า “เพื่อไทย” ตัดสินใจสลับขั้วตั้งแต่ตอนนี้ คาดว่า “บิ๊กป้อม” ก็จะถอย ยอมให้แคนดิเดตฯ ของ “พรรคเพื่อไทย” ได้เป็นนายกฯ คนต่อไป  

จากเดิมทีที่ค่อยๆ ขยับหมาก แต่เมื่อสถานการณ์บังคับให้ต้องรีบปิดจ๊อบ ไม่อาจดึงเกมให้ยืดเยื้อได้ ก็ติดตามกันต่อไปว่า “พรรคเพื่อไทย” จะตัดสินใจและเดินเกมเพื่อช่วงชิงความได้เปรียบอย่างไร ?